วันนี้ (3 ธันวาคม) ปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์หลังการตรวจเยี่ยมหน่วยหนังสือเดินทางเคลื่อนที่ของกรมการกงสุล ณ ที่ว่าการอำเภอเมืองหนองบัวลำภู จังหวัดหนองบัวลำภู ถึงความคืบหน้าเรื่องการช่วยเหลือตัวประกันชาวไทยในประเทศอิสราเอลว่า ตอนนี้เราทำงานไม่หยุดหย่อนในการนำตัวประกันอีก 9 คนกลับมา และล่าสุดตนเองได้ติดต่อกับรัฐมนตรีในหลายประเทศที่เคยประสานกันไว้ เขาก็ดำเนินการเช่นเดิมเพื่อให้นำตัวประกันออกมาจากพื้นที่ฉนวนกาซา
เหตุความรุนแรงในอิสราเอลยังไม่สงบ
ส่วนการขยายระยะเวลาในการหยุดยิงเพื่อปล่อยตัวประกันนั้น ตอนนี้ก็ยังยิงกันอยู่ ในช่วงที่ตนเดินทางกลับมาก็เริ่มยิงกัน ซึ่งตอนที่ตนเองไปที่ประเทศอิสราเอลยังพูดคุยกับทูตไทยประจำกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอลว่า ที่ตนมาก็สงบ ไม่ต้องอยู่ในหลุมหลบภัย แต่หลังจากกลับมาก็ได้รับรายงานทันทีว่ายิงกันอีกแล้ว ซึ่งตรงนี้เรามีความเป็นห่วงและเป็นกังวลมาก หากยิงกันอยู่ก็คงยังไม่ปล่อยตัวประกันในเวลานี้ เนื่องจากว่าการเดินทางอาจไม่ปลอดภัย แต่ก็มีความหวังอย่างยิ่งว่าการหยุดยิงจะเกิดขึ้นใหม่
ตรวจเยี่ยมครอบครัว ‘อนุชา’ ตัวประกันแรงงานไทย
ขณะเดียวกัน ช่วงบ่ายของวันนี้ ปานปรีย์พร้อมด้วยคณะลงพื้นที่เยี่ยม อนุชา อ่างแก้ว ตัวประกันแรงงานไทยในอิสราเอลที่เพิ่งได้รับการปล่อยตัว และเดินทางกลับมาประเทศไทย ณ บ้านดอนพิลา ตำบลปะโค อำเภอกุดจับ จังหวัดอุดรธานี
โดยทันทีที่คณะเดินทางมาถึง ปานปรีย์ได้สวมกอดอนุชา ขณะที่พ่อของอนุชามอบมาลัยขอบคุณ พร้อมกล่าวว่าดีใจเป็นที่สุดที่ลูกชายปลอดภัยและเดินทางกลับ จากนั้น ปานปรีย์และคณะได้ผูกแขนรับขวัญ ซึ่งถือเป็นประเพณีของชาวอีสาน
ดีใจแทนครอบครัว หากต้องการความช่วยเหลือขอให้บอก
ปานปรีย์กล่าวว่ารู้สึกดีใจที่ได้มาพบ วันนี้ก็เป็นอีกวันหนึ่งที่ได้พบกันรู้สึกดีใจ และจะมาดูว่ากลับมาบ้านแล้วมาอยู่บ้านจริงหรือไม่ ซึ่งก็ได้พบกับครอบครัว ได้เห็นภรรยา ได้เห็นหน้าลูกสาว และพ่อแม่พี่น้องญาติพี่น้อง ตนก็รู้สึกดีใจแทน
ทั้งนี้ วันนี้เป็นวันตรงกับคณะรัฐมนตรีเดินทางมาประชุม ครม. สัญจร ที่จังหวัดหนองบัวลำภู และทราบว่าพักอยู่ที่นี่ ตนจึงถือโอกาสมาเยี่ยมเยียน แล้วจะมาสอบถามว่ามีอะไรที่อยากให้ทางกระทรวงการต่างประเทศหรือหน่วยงานใดๆ จะให้ความช่วยเหลือในเรื่องที่ยังขาดแคลนอยู่
รอดชีวิตมาได้ถือว่าพระคุ้มครอง ขอให้อายุยืนยาวถึง 100 ปี
“ผมคิดว่าอนุชาคงสบายใจดีขึ้น หลังจากที่ก่อนหน้านี้ขนมปังต้องแบ่งกัน บางรายขนมปังต้องแบ่งกันคนละครึ่ง น้ำขวดหนึ่งแบ่งกัน 3 ราย ถือว่าพระคุ้มครอง และทำให้รอดชีวิตกลับมาได้ จนคิดว่าจากนี้ไปใครจะทำอะไรลำบาก เพราะรอดตรงนี้มาแล้วมีชีวิตที่ยืนยาวอาจไปถึง 100 ปี ผมขออวยพรให้โชคดี” ปานปรีย์กล่าว
พ่อของ ‘อนุชา’ กล่าวขอบคุณทั้งน้ำตา
ขณะที่พ่อของอนุชาได้กล่าวทั้งน้ำตาว่า ขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่มาให้กำลังใจ ถ้าไม่มีหน่วยงานต่างๆ เข้ามาช่วยเหลือ อาจจะไม่มีวันนี้ก็ได้ วันนี้ดีใจมากไม่คิดว่าจะได้มีวันนี้ พร้อมขอบคุณทุกหน่วยงานราชการที่เข้ามาให้การช่วยเหลือ
ส่วนภรรยาของอนุชาได้กล่าวขอบคุณไปยังนายกรัฐมนตรี วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา รวมถึง สส. ในพื้นที่ที่ช่วยประสานงานอย่างใกล้ชิด ให้เป็นไปอย่างราบรื่นและดีมาก ถ้าไม่มีตัวแทนที่เป็นผู้นำในพื้นที่ชี้ทางให้ก็คงไม่มีวันนี้
ย้ำเป็นห่วง 9 ตัวประกันแรงงานไทยที่ยังถูกจับอยู่
โดยหลังจากที่ปานปรีย์และจักรพงษ์เยี่ยมให้กำลังใจอนุชาและครอบครัวแล้วเสร็จ จะเดินทางไปเยี่ยมให้กำลังใจครอบครัว มาโนช แสงทอง แรงงานไทยที่ได้รับบาดเจ็บ และยังรักษาตัวอยู่ที่อยู่ที่ประเทศอิสราเอล ที่บ้านเชียงยืน อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี
ปานปรีย์กล่าวย้ำว่า ยังคงเป็นห่วง 9 ตัวประกันแรงงานไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกัน จะดำเนินการให้ได้เดินทางกลับไทยโดยเร็ว
เผย กต. เตรียมประชุมประเมินสถานการณ์สู้รบในเมียนมาพรุ่งนี้
นอกจากนี้ ปานปรีย์กล่าวถึงสถานการณ์สู้รบในเมียนมาที่มีการประเมินว่าจะมีความรุนแรงมากขึ้น และการเตรียมพร้อมกรณีมีผู้อพยพลี้ภัยสงครามเข้ามายังประเทศไทยจำนวนหลายหมื่นคนว่า ขณะนี้เรากำลังเฝ้าติดตามและกระทรวงการต่างประเทศจะมีการประชุมเรื่องนี้เป็นการภายในวันพรุ่งนี้ (4 ธันวาคม) ซึ่งทางฝ่ายความมั่นคงก็จะมาร่วมประชุมด้วย
โดยเราได้ประเมินสถานการณ์เวลานี้ยังไม่ถึงขั้นมีผู้อพยพออกมา แต่จากนี้ไปถ้ามีความรุนแรงเพิ่มขึ้นก็มีความเป็นไปได้ที่ผู้อพยพจะกระจายออกมาทุกทางไม่ใช่เฉพาะในประเทศไทยอย่างเดียว เรื่องนี้กำลังพิจารณาอยู่ว่าเราจะทำอย่างไรให้สถานการณ์ในเมียนมาไม่มีความรุนแรงและหันมาเจรจากัน
สั่งเตรียมค่ายผู้อพยพลี้ภัยแล้ว
เมื่อถามว่าได้ประเมินหรือไม่ว่าการสู้รบในเมียนมาจะกลายเป็น Proxy War หลังสหประชาชาติออกมาระบุว่ามีการส่งอาวุธเข้าไปอย่างเช่นประเทศสิงคโปร์ที่สนับสนุนกลุ่มกองกำลัง ปานปรีย์ระบุว่า เรื่องนี้ตนยังไม่ได้รับรายงานว่ามี Proxy War ขณะนี้ที่เราได้รับรายงานก็มีกลุ่มชนต่างๆ ที่มีการสู้รบกัน รวมถึงฝ่ายรัฐบาลเมียนมาด้วย ตอนนี้เรากำลังเฝ้าดูอยู่ พยายามให้มีการเจรจาและการหยุดยิงโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ รัฐบาลมีการเตรียมความพร้อมค่ายผู้อพยพลี้ภัยสงครามไว้แล้ว