บ่ายวันนี้ (9 พฤศจิกายน) ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดอ่านคำพิพากษาคดีที่ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ถูกกล่าวหาว่าปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ใช้อำนาจโยกย้าย ถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในขณะนั้น ให้ไปดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี
หากนับจากจุดเริ่มต้นในวันที่ยิ่งลักษณ์ใช้อำนาจโยกย้ายจนถึงวันนี้เป็นเวลากว่า 12 ปีแล้ว โดยเรื่องนี้ถือเป็นอีกหนึ่งเงื่อนปมสำคัญที่ทำให้ยิ่งลักษณ์พ้นจากความเป็นนายกรัฐมนตรีรักษาการ หลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่ายิ่งลักษณ์ก้าวก่าย แทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้าย และให้พ้นจากความเป็นนายกรัฐมนตรี
30 กันยายน 2554
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในฐานะนายกรัฐมนตรี ลงนามในคำสั่งตามมติ ครม.
ที่ให้โอน ถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการ สมช. ไปปฏิบัติหน้าที่ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี
4 ตุลาคม 2554
ครม. ตั้ง พล.ต.อ. วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. ให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ สมช.
และต่อมามีการแต่งตั้ง พล.ต.อ. เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ เป็น ผบ.ตร. แทน
7 มีนาคม 2557
ศาลปกครองสูงสุดสั่งคืนตำแหน่งเลขาธิการ สมช. ให้ถวิลตามที่ถวิลฟ้อง หลังศาลเห็นว่าเป็นการโยกย้ายที่ใช้ดุลพินิจโดยมิชอบ พร้อมเพิกถอนประกาศให้มีผลย้อนหลังไปถึงวันที่ถูกสั่งย้าย
7 พฤษภาคม 2557
ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ 9 ต่อ 0 วินิจฉัยว่า ยิ่งลักษณ์ใช้สถานะการเป็นนายกรัฐมนตรีเข้าไปก้าวก่าย แทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้ายถวิลเพื่อประโยชน์ของตัวเอง ทำให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลง
1 กรกฎาคม 2563
ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดยิ่งลักษณ์ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ส่งอัยการสูงสุดพิจารณาสั่งฟ้องศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต่อไป
28 กุมภาพันธ์ 2565
อัยการสูงสุดมีความเห็นสั่งฟ้องยิ่งลักษณ์ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตามที่ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด
22 พฤศจิกายน 2565
ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองออกหมายจับยิ่งลักษณ์ เนื่องจากไม่มาศาลโดยไม่แจ้งเหตุ
9 พฤศจิกายน 2566
ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนัดฟังคำพิพากษาคดียิ่งลักษณ์ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ใช้อำนาจโยกย้ายถวิล