หลังจากเช้าวันนี้ (7 พฤศจิกายน) การประชุมร่วมกันระหว่างคณะกรรมการบริหารพรรคก้าวไกลและ สส. พรรคก้าวไกล มีมติเอกฉันท์ 128 เสียง จากผู้เข้าร่วมการประชุม 128 คน ให้ขับ ปูอัด-ไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส. กทม. ของพรรคก้าวไกล ออกจากสมาชิกพรรค หลังไม่ปฏิบัติตามมติพรรคที่ให้ขอโทษและเยียวยาผู้เสียหายที่เกิดจากการคุกคามทางเพศของไชยามพวาน แต่กลับสร้างความเสียหายซ้ำและขอโทษอย่างไม่จริงใจ
เย็นวันนี้ ไชยามพวานออกมาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนด้วยเสียงสั่นเครือ แววตาแดงก่ำและมีน้ำตาว่า ตนได้ทราบถึงมติพรรคก้าวไกลและขอน้อมรับมติของพรรค เพราะทำให้พรรคเสียหายมามากจริงๆ
ยังรักและเชื่อในอุดมการณ์พรรคก้าวไกล พร้อมช่วยยกมือโหวต
ไชยามพวานฝากไปถึงประชาชนว่า ยังอยากให้ทุกคนเชื่อมั่นในพรรคก้าวไกล อยากให้ทุกคนเชื่อมั่นในตัว สส. ที่ยังอยู่ในพรรคก้าวไกล ยังอยากให้ทุกคนเชื่อมั่นว่าในอนาคต พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ก็ยังคงเหมาะสมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี
“ยังคงมีสิ่งที่ผมอยากยกมือโหวตช่วยในสภา ยังคงช่วยพรรคเต็มที่เท่าที่ทำได้ในขณะนี้ ในฐานะคนคนหนึ่งที่ยังเชื่อมั่นพรรคก้าวไกล” พร้อมพยักหน้าเมื่อถูกผู้สื่อข่าวถามว่ายังรักพรรคก้าวไกลหรือไม่
“อย่าถือโทษกับพรรคเลย ขอให้ถือโทษที่ผมทั้งหมด ยังอยากให้ทุกคนที่ยังคงเชื่อมั่นในอุดมการณ์ของพรรคก้าวไกล ยังคอยผลักดัน ดันหลังพรรคก้าวไกลตลอด”
ยังไม่ลาออกจาก สส. จนกว่ากระบวนการยุติธรรมชี้ว่าผิด
ช่วงหนึ่งผู้สื่อข่าวถามว่า ยอมรับว่ากระทำผิดในกรณีนี้ใช่หรือไม่ ไชยามพวานกล่าวว่า เป็นกระบวนการยุติธรรมที่เห็นว่ามีคนไปยื่นกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้รอผลคำวินิจฉัยของ ป.ป.ช.
“ผมเคยพูดคำหนึ่งครับว่า จะตั้งใจทำงานให้ดีที่สุด ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันสุดท้ายที่เดินออกจากสภา ผมต้องขอโทษ 47,650 คะแนน ที่วันนี้ทำให้หลายคนลำบากใจ รวมถึงพรรคก้าวไกลและสังคมด้วย” ไชยามพวานกล่าว
ไชยามพวานยังยืนยันว่าจะดำรงสถานะความเป็น สส. ไปจนกระทั่งเมื่อกระบวนการยุติธรรมเสร็จสิ้นลง ถ้าชี้ว่าตนผิดก็พร้อมที่จะพิจารณาลาออก
“ครั้งนี้ถือเป็นบทเรียนมหาศาลในช่วงวัยของผมที่ปรับตัวและเรียนรู้ช้าไปว่าเราเป็นคนสาธารณะแล้ว”
“เมื่อก่อนคุณเป็นบุคคลธรรมดา คุณอาจทำมันได้ แต่เมื่อคุณเป็นบุคคลสาธารณะ คุณทำไม่ได้แล้ว”
ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า จะพูดอะไรถึงผู้เสียหายหรือไม่ ไชยามพวานระบุพร้อมน้ำเสียงสะอื้นว่า
“พูดลำบากจริงๆ เพราะเป็นทีมงาน แล้วผมเป็นคนหนึ่งที่ถูกขับออกมาแล้ว หลายๆ อย่างก็พูดแล้ว อยากจะฝากให้เป็นบทเรียนกับสังคม วันนี้อยากให้ทุกคนดูการทำงานของผม อยากให้เห็นว่าพื้นที่ที่ผมเข้ามาทำงานมีความลำบากจริงๆ แม้จะเป็นพื้นที่กรุงเทพมหานคร”
ยังไม่ได้หาพรรคสังกัดใหม่
ไชยามพวานยังเปิดเผยด้วยว่า ยังไม่ได้คิดถึงการสังกัดพรรคใหม่ ต้องถามประชาชนว่าอยากให้อยู่ในจุดไหน ซึ่งตนเองก็ยังคงมีอุดมการณ์ไม่ต่างจากพรรคก้าวไกล
ไชยามพวานยังชี้แจงถึงกรณีที่ชอบโค้งคำนับว่า ตนเป็นคนบุคลิกแบบนี้ เจอใครทั้งไหว้และโค้งเคารพ และแสดงความเคารพประชาชนเพื่อให้เห็นว่า สส. ไม่ได้เหนือใคร พร้อมระบุด้วยว่า ถ้าการโค้งของตนทำให้ทุกคนลำบากใจต้องขอโทษด้วย ก่อนที่สื่อมวลชนจะตอบกลับว่าโค้งได้ ไชยามพวานได้ปฏิเสธ พร้อมกล่าวว่า “เดี๋ยวเอาไปนับอีก”
โดยหลังจากนี้ไชยามพวานต้องหาสังกัดพรรคใหม่ภายใน 30 วัน หากไม่สามารถหาพรรคการเมืองสังกัดได้ทันภายใน 30 วัน จะถือว่าสมาชิกภาพความเป็น สส. สิ้นสุดลงทันที และต้องจัดให้มีการเลือกตั้งซ่อม เนื่องจากไชยามพวานเป็น สส. แบบแบ่งเขต
ย้อนกรณีไชยามพวาน จากโค้งขอโทษถึงวันถูกขับออกจากพรรค
- 12 ตุลาคม
พริษฐ์ วัชรสินธุ โฆษกพรรคก้าวไกล แถลงยอมรับว่าพรรคมีปัญหาเรื่องการคุกคามและความรุนแรงทางเพศ ยืนยันไม่ปกป้องคนผิด และรับทราบเรื่องตั้งแต่หลังเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤษภาคมแล้ว อยู่ระหว่างเร่งติดตามผู้เสียหายมาให้ข้อมูล
- 19 ตุลาคม
เบญจา แสงจันทร์ สส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะทำงานพิเศษเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาความรุนแรงทางเพศของพรรค เผยผลสอบมีความคืบหน้า 80-90% แล้ว
- 20 ตุลาคม
เว็บไซต์สื่อรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวผู้เสียหายเพศหญิง 3 คน ถูก สส. ฝั่งธนบุรี พรรคก้าวไกล คุกคามทางเพศ มีพฤติกรรมตีสนิท ชวนให้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เมื่อไม่มีสติจึงฉวยโอกาสคุกคามทางเพศ หลังร้องเรียนปรากฏว่า สส. คนดังกล่าวเป็นฝ่ายติดต่อมาขอโทษ และยอมรับผิด และขอให้บอกกรรมการวินัยว่าเป็นการสมยอมของทั้งสองฝ่าย
- 1 พฤศจิกายน
พรรคก้าวไกลมีมติเสียงข้างมาก 106 เสียง จาก 128 เสียง ให้ขับออกจากสมาชิกพรรค แต่เสียงที่ให้ขับออกจากสมาชิกพรรคไม่ถึง 3 ใน 4 ซึ่งไม่เพียงพอที่จะทำให้ไชยามพวานพ้นจากสมาชิกภาพตามกฎหมาย แต่ให้คาดโทษไว้
- 3 พฤศจิกายน
พรรคก้าวไกลร่อนจดหมายถึงไชยามพวานให้ปฏิบัติตามมติของพรรค พร้อมกำหนดข้อปฏิบัติ 4 ข้อ คือ ให้แถลงยอมรับผิดและขอโทษอย่างจริงใจ ชดเชยเยียวยาความเสียหาย ยุติการก่อความเสียหาย และยุติการกระทำอันเป็นการล่วงเกิน
บ่ายวันเดียวกัน ไชยามพวานได้ออกมาตั้งโต๊ะแถลง โค้งคำนับขอโทษประชาชน ขอโทษที่ทำให้พรรคก้าวไกลมีรอยร้าว ไม่ลาออกจาก สส. แต่ไม่ขอโทษผู้เสียหาย
นอกจากนี้ยังปรากฏว่าไชยามพวานลงพื้นที่พร้อมโค้งคำนับประชาชนอีกด้วย
- 7 พฤศจิกายน
พรรคก้าวไกลมีมติเอกฉันท์ให้ขับไชยามพวานออกจากสมาชิกพรรค หลังไม่ปฏิบัติตามมติของพรรค และยังได้ก่อความเสียหายเพิ่มเติมให้กับผู้เสียหายอีก