วันนี้ (6 พฤศจิกายน) ที่รัฐสภา วุฒิพงศ์ ทองเหลา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดปราจีนบุรี อดีตสมาชิกพรรคก้าวไกล ผู้ถูกข้อกล่าวหากรณีคุกคามทางเพศ ได้แถลงเปิดใจเป็นครั้งที่ 2 ภายหลังจากที่ประชุมร่วมระหว่างกรรมการบริหารพรรคก้าวไกลและ สส. มีมติพรรคให้ขับออกจากการเป็นสมาชิกพรรค เปิดหลักฐานความขัดแย้งกับผู้ช่วย สส. ที่มาจากสัดส่วนของกรรมการบริหารพรรค ซึ่งเชื่อว่าเป็นต้นเหตุให้พรรคมีมติขับออกว่า สืบเนื่องจากครั้งที่แล้วตนพูดว่าเป็นเรื่องการเมือง และมีความเกี่ยวข้องกับผู้ช่วย สส. ที่มาจากสัดส่วนของกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล
โดยไทม์ไลน์หลังจากการเลือกตั้งสิ้นสุดลง ผู้ช่วย สส. คนดังกล่าวได้ตระเวนเดินสายร้องเรียนและแจ้งความตนในหลายกรณี เช่น การไลฟ์รักษาคะแนน หรือกระบวนการจัดทำไพรมารีโหวต จนกระทั่งการคุกคามทางเพศ ซึ่งผู้ช่วย สส. คนนี้ได้พาผู้เสียหายเดินทางไปด้วย นับเป็นจุดเริ่มต้นของความไม่เป็นธรรม
วุฒิพงศ์กล่าวอีกว่า การที่จะมีส่วนได้เสียหรือนำเรื่องใดเรื่องหนึ่งมาพิจารณาควรจะรู้ถึงมูลเหตุจูงใจทั้งหมด ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องการทุจริตในภาพลักษณ์รัฐสภา รวมถึงผู้ช่วย สส. หรือทีมงานภายในพรรค เพราะการทุจริตถือเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้
“อย่างที่ทราบดีว่าผมทำงานเรื่องมลพิษในจังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งเป็นโรงงานอุตสาหกรรมหลากหลายจำนวนมาก และยังเป็นเป้าหมายในการลงทุนอุตสาหกรรมบ่อกำจัดขยะขนาดใหญ่ในภาคตะวันออก ผมจะทำงานอย่างไรหากทีมงานผู้ช่วย สส. ในจังหวัดมีพฤติการณ์เรียกรับผลประโยชน์ นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ผมหันกลับไปที่พรรค”
วุฒิพงศ์กล่าวว่า เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคมที่ผ่านมา ตนได้เดินทางไปยื่นเอกสารทุกอย่างให้กับกรรมการบริหารพรรค และไม่ทราบว่าเรื่องที่ตนทำนั้นไปเหยียบเท้ากรรมการบริหารพรรคท่านใดหรือไม่ สิ่งที่ทำเพื่อต้องการยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่ควรเกิดขึ้นในพรรคก้าวไกล เราต้องตรงไปตรงมากับเรื่องนี้ ตนยึดถือมาโดยตลอดในการทำงานการเมืองแบบใหม่โดยที่ไม่ทุจริต
วุฒิพงศ์กล่าวอีกว่า ผู้ช่วย สส. คนดังกล่าวมีพฤติกรรมเอื้อผลประโยชน์ให้ช่วยซื้อที่ดินแบ่งขายของตัวเอง 5 ไร่ ในมูลค่าประมาณ 3.5 ล้านบาท จากนั้นได้แสดงข้อความและเสียงสนทนาการเจรจาการซื้อที่ดินบริเวณใกล้เคียงให้กับโรงงานบ่อกำจัดขยะแห่งหนึ่ง
วุฒิพงศ์ยังตั้งข้อสังเกตอีกว่า ผู้ช่วย สส. คนดังกล่าวมีความสัมพันธ์พิเศษกับผู้เสียหายที่ร้องเรียนตนในกรณีคุกคามทางเพศหรือไม่ เพราะชาวบ้านในพื้นที่ก็ตั้งคำถามในเรื่องความผูกพันของทั้งคู่มากว่า 1 ปีแล้ว
วุฒิพงศ์ย้ำอีกว่า สิ่งที่เกิดขึ้นภายหลังจากตนออกจากพรรคก้าวไกล ในกระบวนการนั้นตนเองทราบว่ายังไม่มีการตั้งกรรมการทางวินัยขึ้นมาตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงปัจจุบัน ตนคงต้องบอกว่า เรื่องนี้เป็นประเด็นทางการเมือง ตนไม่รู้ไม่ทราบจริงๆ ตนแค่ต้องการทำงานในจังหวัดให้เคลียร์ ไม่ทราบว่าเขามีความสนิทกับใคร หรือกรรมการบริหารท่านใดที่ดูแลพื้นที่ในภาคตะวันออก
“ผมไม่รู้ว่าเหยียบเท้ากรรมการบริหารพรรคแรงขนาดไหน แต่เรื่องนี้จำเป็นต้องเคลียร์ การทุจริตไม่ว่าหน่วยงานไหน แม้จะเป็นแค่ผู้ช่วย สส. ก็ควรจะมีการสอบสวนและตรวจสอบอย่างเร่งด่วน เพราะเวลาผ่านมากว่า 4 เดือนแล้ว ไม่สามารถที่จะรอให้เป็นกระแสแล้วค่อยมาทำ ค่อยมาบอกว่าจะตั้งกรรมการวินัย ไม่ควรละเลยเรื่องทุจริต และไม่ควรพูดแบบนั้น เลิกปฏิเสธว่าผู้ช่วยท่านนี้ไม่ใช่ผู้ช่วย เพราะหลักฐานของตนชี้ให้เห็นว่ามีความสนิทตั้งแต่ร่วมกันทำงานในพรรคอนาคตใหม่ ตนไม่ต้องการให้มีการปฏิเสธเช่นนี้” วุฒิพงศ์กล่าว
วุฒิพงศ์ยังได้แสดงภาพโปรโมตกิจกรรมหัวข้อ ‘สุราก้าวหน้า เรื่องเหล้า ชาวปราจีน’ ที่จัดขึ้นในวันที่ 16 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งไม่ปรากฏภาพของตน และชี้ให้เห็นว่าเหตุการณ์เริ่มมาตั้งแต่ช่วงนั้น
ต่อมาในวันที่ 17 กันยายน ผู้ช่วย สส. คนดังกล่าวยังได้พาผู้ที่กล่าวหาตนในกรณีคุกคามทางเพศเข้าไปที่ทำการพรรค โดยพรรคใช้เวลาเพียงสัปดาห์เศษในการตั้งข้อกล่าวหาและตั้งกรรมการทางวินัย ซึ่งเป็นภายหลังจากที่มีการตั้งกรรมการฯ แล้ว จากนั้นได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่ากรรมการฯ ชุดนี้เป็นสัดส่วนของกรรมการบริหารพรรคคนนอก แต่ตนยืนยันว่าเป็นคนที่อยู่ภายในพรรค
จากนั้นตั้งแต่วันที่ 17 กันยายน จนถึงวันที่ 10 พฤศจิกายน 2566 ตนได้เข้าไปชี้แจงที่พรรค ก็ได้มีการแถลงและมติขับตนออกจากพรรค จึงเห็นว่าเป็นการ “ตั้งเอง ชงเอง แถลงเอง ออกมาตีเอง”
“ผมไม่ขอความเป็นธรรมใดๆ ที่จะอุทธรณ์ ผมจำเป็นต้องออกมาพูด เพื่อหยุดข่าวพวกนี้ และต้องการทำงานต่อ จึงขอพื้นที่ตรงนี้ เพราะไม่อยากให้มีกระบวนการเช่นนี้กับเพื่อนสมาชิกที่ยังไม่รู้ข้อมูลทั้งหมด ผมนิ่งมาสักพักแล้วก็ยังโดนตีอยู่ อยากให้คุยกันด้วยเหตุผลตรงไปตรงมาดีกว่า” วุฒิพงศ์กล่าว
คลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติมการแถลงข่าวได้ที่: YouTube