วานนี้ (2 พฤศจิกายน) สำนักข่าว The Irrawaddy ได้เผยแพร่รายงานว่า มีชาวต่างชาติราว 500 คน ถูกกองทัพรัฐบาลทหารเมียนมาควบคุมตัวไว้ที่เมืองเล่าก์ก่ายทางตะวันออกเฉียงเหนือของรัฐฉาน ซึ่งกำลังเป็นพื้นที่สู้รบรุนแรงระหว่างทหารเมียนมากับกองกำลังพันธมิตรชาติพันธุ์
โดยในกลุ่มชาวต่างชาติเหล่านี้ รวมถึงชาวไทย 189 คน และพลเมืองจากประเทศต่างๆ เช่น เนปาล เอธิโอเปีย และ สปป.ลาว ซึ่งถูกล่อลวงไปบังคับใช้แรงงานในธุรกิจหลอกลวงทางออนไลน์ และเพิ่งจะได้รับการช่วยเหลือจากหน่วยต่อต้านการค้ามนุษย์เมื่อไม่นานนี้
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ด้านมนุษยธรรมในเมียนมาชี้ว่า หน่วยต่อต้านการค้ามนุษย์ซึ่งควบคุมโดยรัฐบาลทหารไม่ได้ส่งมอบกลุ่มชาวต่างชาติทั้งหมดให้กับเจ้าหน้าที่ของแต่ละประเทศ แต่กลับส่งไปยังค่ายทหารในพื้นที่แนวหน้าของการสู้รบ
หนึ่งในผู้ที่มีส่วนร่วมช่วยเหลือชาวต่างชาติเหล่านี้ให้สัมภาษณ์กับ The Irrawaddy ว่า “กองทัพเมียนมาได้บังคับใช้แรงงานกลุ่มชาวต่างชาติทั้งหมด โดยให้สร้างบังเกอร์ ขุดสนามเพลาะ และขนไม้ซุง และใช้พวกเขาเป็นโล่มนุษย์” พร้อมทั้งระบุว่ากลุ่มชาวต่างชาติถูกควบคุมตัวไว้ที่แนวหน้าของพื้นที่สู้รบ ซึ่งมีความเสี่ยงจากการต่อสู้ที่อาจปะทุขึ้นได้ทุกเมื่อ ขณะที่เน้นย้ำว่าพวกเขาจำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือส่งกลับไปยังประเทศบ้านเกิด
“พวกเขากำลังถูกควบคุมตัวในพื้นที่ที่มีการสู้รบอย่างดุเดือด ในแนวหน้าของฐานที่มั่นกองทัพ กลุ่มพันธมิตรภราดรภาพ (กองกำลังชาติพันธุ์) สามารถเปิดการโจมตีต่อเล่าก์ก่ายเมื่อใดก็ได้ ชาวต่างชาติเหล่านี้จะติดอยู่ในการสู้รบ และหากพวกเขาถูกสังหารระหว่างการโจมตีของกลุ่มชาติพันธุ์ รัฐบาลทหารก็น่าจะพยายามใส่ร้ายกลุ่มพันธมิตรภราดรภาพว่ามุ่งเป้าไปที่พลเรือนชาวต่างชาติ พวกเขาเก็บชาวต่างชาติไว้ที่แนวหน้าเพื่อใช้เป็นโล่มนุษย์”
ด้าน เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้โพสต์ข้อความผ่านทางโซเชียลมีเดียวานนี้ (2 พฤศจิกายน) ระบุถึงสถานการณ์กองกำลังพันธมิตรภราดรภาพปะทะกองทัพเมียนมาว่า ตนเองได้รับรายงานเกี่ยวกับสถานการณ์ในเมียนมาที่มีคนไทยและชาติอื่นๆ ติดอยู่ในเมืองเล่าก์ก่ายจากการสู้รบ
โดยสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง ได้ประสานทางการเมียนมาให้ช่วยเหลือคนไทยจำนวน 162 คน และจัดให้พักในพื้นที่ปลอดภัยแล้ว และขณะนี้สถานเอกอัครราชทูตฯ กำลังหารือกับทางการเมียนมา เพื่อช่วยให้คนไทยทั้งหมดกลับไทยโดยเร็ว
อ้างอิง: