วันนี้ (31 ตุลาคม) ประยุทธ เพชรคุณ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงกรณีศาลจังหวัดมุกดาหารเลื่อนนัดอ่านคำพิพากษา ไชย์พล วิภา หรือลุงพล และ สมพร หลาบโพธิ์ หรือป้าแต๋น สองสามีภรรยา ในคดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ว่า ทราบจากทางสำนักงานอัยการจังหวัดมุกดาหารว่า สาเหตุที่ศาลเลื่อนอ่านคำพิพากษาจากวันที่ 31 ตุลาคมออกไปก่อนนั้น เนื่องจากเป็นคดีสำคัญ และในทางปฏิบัติของศาลยุติธรรม ศาลก็จะส่งสำนวนคดีพร้อมคำพิพากษาไปที่สำนักงานอธิบดีผู้พิพากษาภาค 4 ที่จังหวัดขอนแก่น เพื่อตรวจตามระเบียบ ก่อนที่จะส่งกลับมาให้ศาลจังหวัดมุกดาหารอ่านคำพิพากษาต่อไป
ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสำนวนและตรวจคำพิพากษาของอธิบดีผู้พิพากษาภาค 4 จึงมีเหตุต้องเลื่อนการอ่านคำพิพากษาออกไป ส่วนจะเลื่อนออกไปวันไหนนั้นศาลจะแจ้งอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ (1 พฤศจิกายน)
เมื่อถามว่าจะส่งผลต่อรูปคดีหรือไม่ ประยุทธกล่าวยืนยันว่า ไม่ส่งผลต่อรูปคดี เพราะกระบวนการสืบพยานทั้งฝ่ายโจทก์และจำเลยเสร็จสิ้นแล้ว ศาลจังหวัดมุกดาหารก็ได้ทำคำพิพากษาตามพยานหลักฐานตามข้อเท็จจริงและกฎหมายส่งให้อธิบดีผู้พิพากษาภาค 4 ตามระเบียบขั้นตอนของราชการศาล
เมื่อถามว่าลุงพลจำเลยในคดีจะมีส่วนได้ส่วนเสียหรือไม่ ประยุทธระบุว่าไม่มี เพราะคดีนี้สืบพยานเสร็จสิ้นแล้วทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายโจทก์หรือฝ่ายจำเลยก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะเอาพยานหลักฐานไปเพิ่มเติมแล้ว ทุกอย่างอยู่ระหว่างต้องรอศาลนัดอ่านคำพิพากษาเท่านั้น
โดยสาเหตุที่ส่งสำนวนและคำพิพากษาให้กับอธิบดีผู้พิพากษาภาค 4 ก็เป็นไปตามระเบียบ ซึ่งเป็นปกติที่ศาลยุติธรรมจะรักษามาตรฐานเพราะเป็นคดีสำคัญ
ส่วนการจัดคดีไหนเป็นคดีสำคัญ ประยุทธกล่าวว่ามีหลายเหตุปัจจัย เช่น สื่อมวลชนและประชาชนให้ความสนใจ หรือแม้บางคดีเป็นคดีเกี่ยวกับบุคคลสำคัญของประเทศ หรือคดีอุกฉกรรจ์ กระทบต่อความรู้สึกของคนในสังคม ก็เป็นคดีสำคัญได้
อย่างเช่นการเสียชีวิตของน้องชมพู่ ผู้เสียชีวิตเป็นเด็ก สื่อมวลชนและสังคมเฝ้าติดตามข่าวอย่างต่อเนื่อง คดีนี้สำนักงานอัยการสูงสุดก็ให้ความสำคัญ โดยมีการตั้งคณะทำงาน ส่งอัยการจากสำนักงานอัยการภาค 4 ร่วมกับสำนักงานอัยการจังหวัดมุกดาหารในการทำงานร่วมกัน ตั้งแต่ตรวจสำนวน ร่างคำฟ้อง และสืบพยานจนเสร็จสิ้น
ประยุทธกล่าวต่อว่า ขอให้รอฟังคำพิพากษาของศาล ไม่ว่าจะตัดสินอย่างไร หากคู่ความในคดีไม่เห็นพ้อง ย่อมที่จะสามารถอุทธรณ์คำพิพากษานั้นได้ภายใน 1 เดือน หากอุทธรณ์ตัดสินแล้วยังไม่เห็นพ้องอีก ก็สามารถยื่นฎีกาต่ออีกได้