อิสราเอลได้ทิ้งระเบิดถล่มโจมตีฉนวนกาซาต่อเนื่อง ขณะเตรียมที่จะเปิดฉากการโจมตีที่ภาคพื้น โดยมีเป้าหมายสำคัญคือการทำลายล้างกลุ่มฮามาส ขณะที่รัสเซียออกโรงเตือนว่า ความขัดแย้งระหว่างสองดินแดนอาจลุกลามขยายวงไปไกลกว่าแค่ในตะวันออกกลาง
ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ได้ออกมากล่าวเตือนว่า ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นนี้อาจลุกลามออกไปไกลกว่าแค่ในตะวันออกกลาง พร้อมย้ำด้วยว่า การที่ผู้หญิง เด็ก และคนชราในฉนวนกาซา ต้องรับโทษทัณฑ์จากอาชญากรรมของผู้อื่นนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
“ภารกิจหลักของเราในตอนนี้คือการยุติเหตุนองเลือดและความรุนแรง” ปูตินกล่าว “มิฉะนั้นวิกฤตที่ลุกลามออกไปจะสร้างผลลัพธ์ที่ร้ายแรงและอันตรายอย่างยิ่ง และไม่เพียงแค่ในตะวันออกกลางเท่านั้น เพราะมันอาจขยายออกไปไกลเกินขอบเขตของตะวันออกกลางด้วย”
สำนักข่าว Reuters รายงานว่า สำหรับสถานการณ์ในฉนวนกาซาขณะนี้ข้าวของอุปกรณ์ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมลดน้อยลงอย่างมาก เนื่องจากชาติมหาอำนาจโลกไม่สามารถเจรจาเพื่อขอให้ทั้งสองฝ่ายยุติการสู้รบเพื่อเปิดทางสู่การส่งความช่วยเหลือมาให้กับประชาชนได้ ท่ามกลางยอดผู้เสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกันวานนี้ (25 ตุลาคม) เว็บไซต์สำนักข่าว The Wall Street Journal รายงานว่า อิสราเอลได้ตอบรับคำขอของสหรัฐอเมริกาให้ชะลอการบุกโจมตีภาคพื้นดินเข้าสู่ฉนวนกาซา เพื่อเปิดทางให้กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ สามารถติดตั้งระบบป้องกันการโจมตีทางอากาศเพิ่มเติมในภูมิภาค เพื่อคุ้มครองกองกำลังทหารของสหรัฐฯ อันเป็นข่าวที่สะท้อนถึงความกังวลที่ว่าสงครามในฉนวนกาซาอาจลุกลามไปไกลกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอล กล่าวในถ้อยแถลงทางโทรทัศน์ว่า อิสราเอลกำลังเตรียมการบุกภาคพื้นดิน แต่ “จะไม่ลงรายละเอียดว่าเมื่อใด อย่างไร หรือมากน้อยแค่ไหน” โดยปัจจุบันขบวนรถถังและกองกำลังของอิสราเอลได้เคลื่อนตัวเข้าประชิดพรมแดนของฉนวนกาซาเพื่อรอรับคำสั่ง ขณะในช่วงที่ผ่านมาอิสราเอลได้สั่งเรียกทหารกองหนุนกว่า 360,000 คน
อย่างไรก็ตาม นานาชาติต่างพยายามเรียกร้องให้อิสราเอลชะลอการบุกเข้าไปในฉนวนกาซา โดยส่วนหนึ่งเป็นเพราะมีความกังวลต่อสวัสดิภาพของตัวประกัน โดยข้อมูลจากรัฐบาลอิสราเอลระบุว่า ในจำนวนตัวประกันราว 220 คนนั้น มากกว่าครึ่งเป็นชาวต่างชาติจาก 25 ประเทศทั่วโลก และมีอีกหลายคนที่ถือสองสัญชาติคืออิสราเอลควบคู่กับชาติอื่นๆ
สำหรับคนไทยที่ได้รับผลกระทบจากเหตุความขัดแย้งนั้น ข้อมูลล่าสุดจากกระทรวงการต่างประเทศ (สถานะคืนวันที่ 25 ตุลาคม) รายงานว่า มีคนไทยเสียชีวิตรวม 33 คน เพิ่มขึ้น 2 คน ส่วนผู้บาดเจ็บคงเดิมที่ 18 คน และผู้ที่คาดว่าถูกจับเป็นตัวประกันอยู่ที่ 18 คน ซึ่งลดลง 1 คนจากตัวเลขก่อนหน้า เนื่องจากทางการอิสราเอลแจ้งยืนยันรายชื่อว่าเป็นผู้เสียชีวิต
ทั้งนี้ จากที่มีรายงานข่าวว่ามีคนไทยถูกจับกุมตัวไป 54 คนนั้น ไทยยังอยู่ระหว่างการขอยืนยันตัวเลขดังกล่าวจากทางการอิสราเอล และจนถึงวันนี้ (26 ตุลาคม) ทางการไทยได้จัดเที่ยวบินอพยพกลับถึงประเทศไทยแล้วจำนวน 21 เที่ยวบิน และมีผู้ได้รับการช่วยเหลือผ่านสถานทูตแล้ว 4,223 คน โดยมีเที่ยวบินอพยพที่จะกลับถึงไทยในวันพรุ่งนี้ (27 ตุลาคม) 2 เที่ยวด้วยกัน ได้แก่ เที่ยวบิน TG8953 ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เวลา 01.40 น. จำนวนผู้ลงทะเบียน 280 คน และเที่ยวบิน LY085 ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เวลา 08.50 น. จำนวนผู้ลงทะเบียน 268 คน
แฟ้มภาพ: Contributor / Getty Images
อ้างอิง: