วันพุธที่ผ่านมา (25 ตุลาคม) MicroStrategy บริษัทด้านซอฟต์แวร์ที่มีการลงทุนใน Bitcoin ภายใต้การสนับสนุนของ Michael Saylor ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริษัทฯ พลิกทำกำไรจาก Bitcoin กว่า 762 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 2.67 หมื่นล้านบาท หลัง Bitcoin ปรับตัวขึ้นแรงในช่วงสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ ในช่วงวันพุธที่ผ่านมานี้ Bitcoin เคลื่อนไหวบริเวณ 34,442 ดอลลาร์ จากที่ต้นสัปดาห์ (23 ตุลาคม) เคลื่อนไหวที่ระดับเพียง 30,000 ดอลลาร์ คิดเป็นการปรับตัวกว่า 14.9%
ในขณะที่ปัจจุบัน MicroStrategy ถือครอง Bitcoin อยู่ทั้งหมด 158,245 เหรียญ ด้วยต้นทุนเฉลี่ย 29,582 ดอลลาร์ มูลค่าต้นทุนรวมราว 4.98 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1.73 แสนล้านบาท
ทำให้ MicroStrategy ทำกำไรจากการถือครอง Bitcoin ได้ประมาณ 4,800 ดอลลาร์ต่อ Bitcoin
เรียกได้ว่า MicroStrategy สามารถก้าวข้ามผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากในช่วงปี 2022 ซึ่งเป็นปีที่ราคา Bitcoin ปรับตัวลงไปกว่า 80% (นับจากช่วงเดือนพฤศจิกายน 2021) ด้วยปัจจัยบวกค่อยๆ สนับสนุนเข้ามายัง Bitcoin ในช่วงปีนี้ (2023) ทั้งการยื่นขออนุมัติ Bitcoin ETF ของหลายกองทุน รวมไปถึงการเข้ารอเก็งกำไรจากการ Halving ของ Bitcoin ในปีหน้า (2024) ทำให้ราคาของ Bitcoin ปรับตัวขึ้นมาเฉียด 100% นับตั้งแต่ต้นปี
ทั้งนี้ MicroStrategy มีการเทขาย Bitcoin เพื่อปรับลดความเสี่ยงเพียงแค่ครั้งเดียวในช่วงเดือนธันวาคมปี 2022 ที่ 708 Bitcoin มูลค่าราว 11 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 330 ล้านบาท ณ ช่วงเวลานั้น
นอกจากนี้ ข้อมูลของ Bitcoin Treasuries เผยว่า ณ ปัจจุบัน ด้วยปริมาณ 158,245 Bitcoin ของบริษัท MicroStrategy มากกว่าสถาบันการเงินที่ถือครอง Bitcoin ไว้ถึง 14 เท่า
อ้างอิง: