กระแสความฮิตของ ‘เสื้อบอล’ มาแรงขึ้นเรื่อยๆ ในปัจจุบัน เพราะไม่ได้หยุดอยู่แค่หนุ่มๆ ที่เอาไว้ใส่ไปออกกำลังกายหรือเดินไปกินข้าวปากซอยเท่านั้น แม้แต่สาวๆ เองก็หลงรักเสื้อฟุตบอลตัวโคร่งๆ ทรง Oversize กับเขาด้วยเหมือนกัน
แฟชั่นเสื้อฟุตบอลในเวลานี้มีทั้งเสื้อฟุตบอลสมัยใหม่ที่ตอนนี้แต่ละสโมสรพยายามสร้างสรรค์ออกมาขายแฟนฟุตบอลมากมายหลายแบบ ทั้งชุดเหย้า ชุดเยือน ชุดที่ 3 ไปจนถึงคอลเล็กชันพิเศษต่างๆ ไปจนถึงเสื้อย้อนยุคแบบวินเทจ โดยเฉพาะการย้อนกลับไปตั้งแต่ยุค 90 ขึ้นไปที่นับเป็น ‘ยุคทอง’ ของเสื้อบอล
แต่ถ้าถามว่าเสื้อบอลตัวไหนขายดีที่สุดในโลกตอนนี้?
ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาไม่มีเสื้อตัวไหนจะขายดีไปกว่าเสื้อสีชมพูประหนึ่งนกฟลามิงโกของทีมอินเตอร์ ไมอามี อีกแล้ว โดยที่เบื้องหลังเกิดความโกลาหล อลหม่านชนิดที่เราอาจคาดไม่ถึง
การย้ายมาของ ลิโอเนล เมสซี ทำให้เกิดปรากฏการณ์เสื้อสีชมพูได้อย่างไร?
ข่าวใหญ่ที่กลายเป็นคลื่นสึนามิ
ย้อนกลับไปเมื่อช่วงก่อนเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ทอร์ เซาธ์ทาร์ด ผู้อำนวยการอาวุโสแผนกฟุตบอลของ adidas ในอเมริกาเหนือ ได้รับจดหมายไฟฟ้าหลายฉบับ โดยที่ทุกฉบับจะพยายามสอบถามถึงข่าวลับๆ ที่มีกระแสลือออกมา
ลิโอเนล เมสซี จะย้ายมาเล่นให้กับอินเตอร์ ไมอามี จริงไหม?
เรื่องนี้เซาธ์ทาร์ดเองก็ตอบไม่ได้ในตอนนั้น ที่เขารู้ก็เท่ากับทุกคนคือ มีกระแสข่าวออกมาว่าเมสซีอาจตัดสินใจย้ายมาเล่นในเมเจอร์ลีกซอกเกอร์หลังหมดสัญญากับปารีส แซงต์ แชร์กแมง
จนกระทั่งวันที่ 7 มิถุนายน เขาก็ได้รู้ข่าวพร้อมกับทุกคนบนโลก เมื่อเมสซีประกาศการตัดสินใจเกี่ยวกับอนาคตของตัวเองกับสำนักข่าวใหญ่ของสเปนสองแห่งด้วยการบอกว่า อินเตอร์ ไมอามี จะเป็นสโมสรต่อไปในชีวิต
ข่าวดังกล่าวเกิดขึ้นเพียง 6 เดือนให้หลังจากการคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกสมัยแรกของเมสซี ซึ่งเป็นโทรฟี่ใบสุดท้ายที่ทำให้นักเตะร่างเล็กจากเมืองโรซาริโอได้กลายเป็นหนึ่งในราชาลูกหนังผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลของโลกเทียบเท่ากับ เปเล่ ราชาลูกหนังรุ่นก่อน และ ดิเอโก อาร์มันโด มาราโดนา เทพเจ้าลูกหนังผู้ล่วงลับ
สำหรับแฟนฟุตบอล สิ่งที่ถกเถียงกันมากในตอนนั้นคือ ทำไมนักเตะอย่างเมสซีถึงยอมลดตัวลงมาเล่นในลีกที่การแข่งขันไม่ได้เข้มข้นเท่ากับลีกสโมสรยุโรป ไม่มีทีมไหนที่จะอยากได้ตัวเขาไปร่วมทีมเลยหรือ?
แต่สำหรับผู้บริหารอย่างเซาธ์ทาร์ด ข่าวนี้เป็นเหมือนสัญญาณเตือนภัยครั้งใหญ่ระดับคลื่นมหาสึนามิ
การย้ายมาร่วมทัพอินเตอร์ ไมอามี ของเมสซี ถือเป็นข่าวดีแน่นอนสำหรับ adidas แต่ปัญหาคือความคลั่งไคล้ของแฟนฟุตบอลไม่เพียงแค่ในไมอามีเท่านั้น แต่มาจากแฟนฟุตบอลทั่วโลก ทำให้เกิด ‘ดีมานด์’ ความต้องการเสื้อแข่งทีมของ เดวิด เบ็คแฮม อย่างมากมายมหาศาล
ถอดบทเรียนเสกเสื้อให้ทันขาย
ภายในเวลาไม่กี่วันหลังการประกาศของเมสซี ทาง adidas ได้รับคำสั่งซื้อจากร้านค้าที่ต้องการเสื้อสีชมพูสดใสมากถึงเกือบ 5 แสนตัว
ส่วนสต๊อกสินค้าเสื้ออินเตอร์ ไมอามี ที่มีอยู่ในร้านค้าของสโมสรรวมถึงร้านค้าทั่วสหรัฐอเมริกา หมดลงอย่างรวดเร็ว
สิ่งแรกที่เซาธ์ทาร์ดต้องทำคือ การสั่งผ้าสำหรับการผลิตให้ทันก่อน ซึ่งเสื้อของอินเตอร์ ไมอามี นั้นเป็นเสื้อสีชมพูอ่อน (รหัสสีตาม Pantone คือ 1895C) แต่การสั่งผ้าก็ไม่ได้แปลว่าทุกอย่างจะเสร็จสิ้นอย่างรวดเร็ว
เพราะโดยปกติแล้วแบรนด์กีฬาอย่าง adidas หรือ Nike จะมีการสั่งผลิตจำนวนมากเป็นล็อตใหญ่ มากกว่าที่จะผลิตตามความต้องการเหมือนแบรนด์ฟาสต์แฟชั่น (Zara หรือ H&M ฯลฯ) ทำ
ปัญหาต่อมาคือ พวกเขาไม่สามารถจะขายเสื้อที่ปักชื่อ Messi ด้านหลังได้จนกว่าจะมีการยืนยันการย้ายทีมอย่างเป็นทางการ ซึ่งก็ใช้เวลาอีกนับเกือบเดือนกว่าที่จะมีการยืนยันการย้ายทีมอย่างเป็นทางการในวันที่ 15 กรกฎาคม
ระหว่างนั้นคือนาทีวัดใจของ adidas และบรรดาร้านค้าที่สั่งเสื้อ เพราะหากการย้ายทีมเกิดล่ม ทุกอย่างที่ทำไปคือหมดความหมายทันที
อย่างไรก็ดี adidas เคยมีประสบการณ์มาบ้างแล้วกับสถานการณ์คล้ายๆ กันนี้ ในปี 2021 เมื่อ คริสเตียโน โรนัลโด ประกาศการย้ายกลับมาแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อีกครั้ง ซึ่งครั้งนั้น Fanatics แบรนด์ร้านกีฬายักษ์ใหญ่ในสหรัฐอเมริกา มีคำสั่งซื้อเสื้อจำนวน 1 ล้านตัวทันที
หรือในช่วงปลายปีที่แล้วหลังจากที่เมสซีนำอาร์เจนตินาคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกได้ adidas ก็ต้องเร่งผลิตเสื้อทีม ‘อัลบิเชเลสเต’ ออกมาให้เร็วที่สุด ทำให้ต้องมีการผลิตเพิ่มอีก 4 แสนตัวในช่วงระยะเวลา 3 เดือน
ภารกิจที่สำคัญที่สุดของ adidas
ภารกิจในการผลิตเสื้ออินเตอร์ ไมอามี ที่มีหมายเลข 10 และชื่อ Messi อยู่ด้านหลัง กลายเป็น ‘เรื่องสำคัญอันดับ 1’ ของ adidas ทันที
บริษัทยักษ์ใหญ่จากเยอรมนีต้องจัดการหาวัตถุดิบสำหรับการผลิตเสื้อที่ผลิตจากวัสดุรีไซเคิล เพื่อนำส่งโรงงานในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่จะผลิตเป็นเสื้อออกมา
ส่วนตราสัญลักษณ์และโลโก้ต่างๆ จะมีโรงงานซัพพลายเออร์อื่นที่รับหน้าที่ดูแลให้ ซึ่งกรณีนี้ทำให้มีการ ‘ลัดคิว’ ผลิตให้ก่อนหน้าสินค้าอื่นๆ ที่อยู่ในไลน์การผลิตเดิมด้วย เพราะถือว่าเป็นงานใหญ่
ขั้นต่อมาคือ เรื่องของการขนส่งสินค้า ซึ่งปกติจะส่งกันเป็นจำนวนมากมายมหาศาล แต่เพื่อให้ทันขายก็ต้องมีการค่อยๆ ทยอยส่งมา โรงงานผลิตได้เท่าไรก็ตัดของมาแล้วรีบส่งกระจายสินค้าออกไปตามจุดต่างๆ ทันที
adidas ทำได้ไวแค่ไหน?
ก็จากเดิมที่มีการแจ้งกับร้านค้าว่าเสื้ออินเตอร์ ไมอามี สีชมพู จะมีการจัดส่งได้ในวันที่ 5 ตุลาคม ปรากฏว่าสินค้าล็อตแรกมาถึงสหรัฐอเมริกาตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม หรือ 3 วันหลังจากที่มีการประกาศอย่างเป็นทางการ ซึ่งสินค้าล็อตนั้นส่งมาที่ไมอามีก่อน
และแน่นอน มันขายหมดเกลี้ยงแทบจะทันที!
เสื้อแบบไหนก็ได้ ไม่ต้องของแท้?
เมื่อความต้องการเสื้ออินเตอร์ ไมอามี มีมากมายมหาศาล แต่ adidas ไม่สามารถผลิตได้ทันต่อความต้องการนั้น
มันจึงกลายเป็น ‘โอกาส’ ของพ่อค้าหัวใส
เสื้อปลอมของอินเตอร์ ไมอามี ถูกผลิตและวางจำหน่ายทั่วโลกตั้งแต่เมืองบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา บ้านเกิดของเมสซี ที่มีสนนราคามากถึงตัวละ 50 ดอลลาร์สหรัฐ ไปจนถึงร้านเสื้อฟุตบอลแถวถนนบรรทัดทองที่แฟนบอลไทยรู้จักเป็นอย่างดี
ในสหรัฐอเมริกาก็มีเสื้อที่ไม่ใช่ของ adidas จำหน่ายมากมาย หรือแม้แต่ในอังกฤษ เสื้ออินเตอร์ ไมอามี ของเมสซี กลายเป็นหนึ่งในเสื้อยอดฮิตของเด็กๆ ในระดับที่ไม่ได้น้อยไปกว่าเสื้อสโมสรใหญ่ในบ้านเกิดอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หรือลิเวอร์พูลเลย
เรื่องที่พีคที่สุดคือ ในไมอามีเองมีร้านค้าร้านหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า ‘Messi Miami Shop’ ที่มีหน้าตาดูดีเป็นเรื่องเป็นราว
ในร้านนั้นมีเสื้อที่เป็นเหมือนเสื้อในแบบ Replica หรือพูดภาษาแฟนบอลยุคนี้คือ ‘เสื้อเกรดแฟนบอล’ ของอินเตอร์ ไมอามี วางจำหน่าย โดยใน Messi Miami Shop จะมีแค่เสื้อบอลเหย้า-เยือนของอินเตอร์ ไมอามี (ชมพู-ดำ) สำหรับผู้ใหญ่ และชุดสำหรับเด็กที่จะมีกางเกงด้วย ในสนนราคา 59.99 ดอลลาร์
เสื้อนี้มีดีไซน์ที่ ‘คล้าย’ กับเสื้อของอินเตอร์ ไมอามี ด้านหลังก็มีสกรีน Messi และหมายเลข 10 ขาดไปก็เพียงแค่โลโก้ของ adidas เท่านั้น ซึ่งสำหรับแฟนบอลไทยเองน่าจะคุ้นเคยกับเสื้อแบบนี้ เพราะสโมสรดังอย่างลิเวอร์พูลมีการจำหน่ายเสื้อแบบนี้ด้วย (ซึ่งก็ถือเป็น Official Merchandise) ที่ทำมาเพื่อรองรับแฟนบอลที่มีงบน้อย หรือของ ‘เจลีก’ ที่มีการผลิตเสื้อเกรดนี้ออกมาจำหน่ายแบบถูกต้องเช่นกัน
ประหนึ่งว่านี่คือช็อปของสโมสรและเมสซีที่ทำมาขายเพื่อให้แฟนบอลได้เป็นเจ้าของกันง่ายๆ
แต่ความจริงแล้วร้านค้านี้ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ เลยกับสโมสรหรือเมสซี รวมถึง adidas ด้วย
เสื้อใน Messi Miami Shop (ที่บอกกับลูกค้าว่าเป็น ‘Authentic’ หรือของแท้ ทั้งๆ ที่ไม่ได้รับอนุญาต!) จริงๆ แล้วถูกส่งมาจากเมืองไทยนี่เองในสนนราคาตัวละ 10 ดอลลาร์
แฟนบอลหลายคนอาจจะไม่รู้ว่าที่ซื้อคือของปลอม หรือบางคนอาจจะรู้ก็ได้
ในมุมแฟนบอลบางส่วนของเมสซีแล้ว พวกเขาไม่ได้สนใจว่าเสื้อมันจะเป็นเสื้อแท้หรือไม่ บางคนก็ไม่ได้ติดเรื่องราคาด้วย เพียงแต่พวกเขาต้องการที่จะมีเสื้อฟุตบอลสีชมพูของอินเตอร์ ไมอามี ที่มีชื่อเมสซีและเบอร์ 10 ติดอยู่ด้านหลังก็แค่นั้น
ขอแค่มีใส่ก่อนก็พอแล้ว
Messi Fever
ข้อมูลที่น่าสนใจคือความคลั่งไคล้ในเสื้อของเมสซีนั้นสูงทะลุฟ้า
มันพีคยิ่งกว่าในครั้งที่ เดวิด เบ็คแฮม ย้ายมาแอลเอ แกแล็กซี ในปี 2007, การคืนโอลด์แทรฟฟอร์ดอีกครั้งของ คริสเตียโน โรนัลโด หรือแม้แต่เมื่อครั้งที่อาร์เจนตินาคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกในช่วงปลายปี 2022 อีก
ข้อมูลที่ยืนยันได้จาก adidas คือเสื้อของอินเตอร์ ไมอามี เป็นเสื้อที่มียอดจำหน่ายสูงที่สุดในอเมริกาเหนือ สูงกว่า 5 สโมสรยักษ์ใหญ่ในระดับ ‘เพชรยอดมงกุฎ’ ของ adidas อย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เรอัล มาดริด, ยูเวนตุส, บาเยิร์น มิวนิก และอาร์เซนอล
Fanatics เปิดเผยว่า เสื้อของเมสซีเป็นเสื้อฟุตบอล (ซอกเกอร์) ที่ขายดีที่สุด โดยที่ถ้าเทียบกับบรรดาเสื้อของนักกีฬาทุกชนิดแล้ว มีเพียงแค่เสื้อของ จาเลน เฮิร์ตส์ ควอเตอร์แบ็กทีมฟิลาเดลเฟีย อีเกิลส์ ที่จำหน่ายได้มากกว่า
แต่ก็ไม่มีนักกีฬาคนใดในประวัติศาสตร์ที่จะขายเสื้อได้มากที่สุดใน 24 ชั่วโมงแรกเท่ากับราชาลูกหนังชาวอาร์เจนไตน์แล้ว
ทั้งนี้ แม้ว่าอินเตอร์ ไมอามี จะไม่ผ่านรอบเพลย์ออฟของ MLS ซึ่งหมายถึงเมสซีจะไม่ได้สวมเสื้อสีชมพูสุดฮิตตัวนี้ลงสนามอีกแล้ว แต่ภายในเดือนกุมภาพันธ์ที่คาดว่าเสื้ออินเตอร์ ไมอามี สำหรับฤดูกาลใหม่ 2024 จะออกวางจำหน่ายนั้น กระแสก็น่าจะไม่ต่างไปจากนี้มากนัก
หรือหากมันจะลดลงบ้างก็อาจจะเป็นเรื่องที่ เดวิด เบ็คแฮม ดีใจ
เพราะขนาดตัวของเขาเองที่อยากจะส่งเสื้ออินเตอร์ ไมอามี ไปให้เป็นของขวัญคนสนิทก็ได้รับการแจ้งว่า “เสื้อหมดหาไม่ได้แล้ว ต้องรอก่อน” เหมือนกัน
อะไรมันจะฮิตขนาดนั้น!
อ้างอิง