×

อ.สมชัย ฟันธง 1 ก.พ. 67 คนไทยยังไม่ได้เงิน 1 หมื่นบาท แต่อาจลุ้นได้ 1 พ.ค. เพราะสอดคล้องกับงบก้อนใหญ่

25.10.2023
  • LOADING...
อ.สมชัย ฟันธง 1 ก.พ. 67 คนไทยยังไม่ได้เงิน 1 หมื่นบาท

วานนี้ (24 ตุลาคม) รศ.สมชัย ศรีสุทธิยากร ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยการเมืองและการพัฒนา มหาวิทยาลัยรังสิต และอดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้สัมภาษณ์ในรายการ THE STANDARD NOW ดำเนินรายการโดย อ๊อฟ-ชัยนนท์ หาญคีรีรัตน์ ถึงประเด็นนโยบายเงินดิจิทัลวอลเล็ต 1,000 บาทของรัฐบาล

 

รศ.สมชัย กล่าวว่า วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ปีหน้า (2567) ขอฟันธงว่า ประชาชนไทยจะไม่ได้เงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท 

 

เนื่องจากเงินจำนวนดังกล่าวหากงบประมาณก้อนใหญ่มาจากงบประมาณแผ่นดิน ซึ่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณปี 2567 จะผ่านสภาและทูลเกล้าฯ วันที่ 17 เมษายน ปีหน้า

 

ฉะนั้นรัฐบาลจะไม่สามารถนำงบประมาณก้อนใหญ่ปีนี้มาใช้ก่อนวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ปีหน้าได้ ส่งผลให้เงิน 5.6 แสนล้านบาทที่จะนำมาใช้กับนโยบายดังกล่าวไม่สามารถนำออกมาใช้ได้ ทั้งนี้ สามารถนำออกมาใช้ได้หลังวันที่ 17 เมษายน 2567

 

รศ.สมชัย ระบุว่า หากรัฐบาลต้องการใช้งบฯ ดังกล่าวก่อนวันที่ 1 กุมภาพันธ์ จะมีอยู่ 2 แหล่ง คือ 

 

  1. การใช้นโยบายกึ่งการคลัง โดยอาศัยอำนาจคณะรัฐมนตรีเพื่อพูดคุยให้ธนาคารของรัฐบาลสำรองเงินออกมาจ่ายก่อน 

 

อย่างไรก็ตาม หากอ้างอิง พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐปี 2561 ที่ระบุไว้ว่า ให้เป็นหน้าที่คณะกรรมการกำหนดนโยบายคือคนกำหนดเพดานที่จะใช้เงิน ซึ่ง ณ เวลานั้นกำหนดเพดานไว้ร้อยละ 32 ของงบประมาณรายจ่ายประจำปี แต่ตอนนี้มีรายงานว่าเป็นร้อยละ 33 หรือเกินร้อยละ 1 ดังนั้นหากจะใช้งบนี้ต้องขยับเพดานเพิ่มขึ้น ซึ่งไม่แน่ใจว่าผู้ที่เกี่ยวข้องจะกล้าขยับเพดานนี้หรือไม่

 

ขณะที่แหล่งที่ 2 คือแหล่งเงินกู้ ซึ่งการที่จะกู้นั้นต้องผ่านสภาเพื่อออก พ.ร.บ. ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ แต่สภาจะปิดสมัยประชุมสภาวันที่ 31 ตุลาคมนี้ ฉะนั้นอาจเป็นไปได้หรือไม่ที่จะออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) กู้เงินภายใต้สถานการณ์ฉุกเฉินก่อนกลางเดือนธันวาคม ซึ่งจะเปิดประชุมสภาใหม่อีกครั้ง

 

“ยังคิดว่ารัฐบาลน่าจะใช้วิธีการเอาเงินก้อนใหญ่จากงบประมาณก่อน ถ้าจะเอาเงินก้อนใหญ่จากงบประมาณในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 ก็ต้องเรียนตามตรงว่า อย่าเพิ่งไปตั้งความหวัง ก็ต้องคิดว่าวันที่ 1 พฤษภาคมเป็นไปได้“ รศ.สมชัย กล่าวปิดท้าย

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

X
Close Advertising