วันนี้ (16 ตุลาคม) สุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากไปรับคนไทยที่เดินทางมาด้วยเครื่องบินของกองทัพอากาศกลับจากอิสราเอลจำนวน 130 คนว่า อุปสรรคสำคัญในการอพยพคือยังมีการสู้รบ โดยเมื่อวานนี้ (15 ตุลาคม) ได้รับรายงานว่ายังมีการยิงจรวดโจมตีกันอย่างต่อเนื่อง ทำให้การเดินทางจากที่ต่างๆ มายังสนามบินมีความลำบาก จึงต้องทำงานให้รัดกุมเพราะการเดินทางต้องมาด้วยความปลอดภัย ส่วนเรื่องอื่นๆ เช่น เรื่องของหนังสือเดินทางนั้นเล็กน้อย เพราะทางสถานทูตพร้อมที่จะออกทดแทนและแก้ปัญหาให้อยู่แล้ว
“สิ้นเดือนตุลาคมนี้จะมีคนไทยอพยพออกมาประมาณ 6,000 คน แต่ตอนนี้กำลังคิดวิธีการอื่นๆ หากมีวิธีการอื่นๆ เพิ่มเติมก็อาจจะได้มากกว่า 6,000 คน” สุทินกล่าว
นอกจากนี้ยังกล่าวกับประชาชนที่อพยพมาจากอิสราเอลว่า รัฐบาลได้เร่งดำเนินการในการอพยพ โดยได้เตรียมพร้อมที่จะบินตั้งแต่วันแรก แต่ปัญหาคือต้องรอการอนุญาตจากอิสราเอลจึงจะบินได้
“ตอนนี้เขากำลังรบกัน ถ้าเครื่องบินเราบินไปเกะกะทางยุทธการเขาไม่ให้บิน เพราะฉะนั้นกินเวลาอยู่หลายวัน พวกเราแจ้งความประสงค์จะกลับแต่ยังบินไม่ได้ก็ต้องรออนุญาตจากอิสราเอล ก็ได้แต่ห่วงใย จนวันหลังๆ ได้รับอนุญาตจึงบินทันที ซึ่งวันนี้บินอยู่หลายไฟลต์” สุทินกล่าว
สุทินกล่าวอีกว่า เนื่องจากเครื่องบิน C-130 ต้องเติมน้ำมันหลายที่ และเป็นเครื่องบินทหาร เมื่อบินผ่านหลายประเทศก็ต้องขอหลายที่ ทำให้ยากขึ้น รัฐบาลจึงใช้เครื่องบินพาณิชย์เข้ามาช่วย วันนี้การอพยพพวกเราจึงทำ 2 ระบบควบคู่กัน คือใช้เครื่องบินของทางกองทัพอากาศ และเช่าเหมาลำเครื่องบินพาณิชย์
ส่วนบางคนใจร้อนซื้อตั๋วเครื่องบินมาเอง พอมาถึงไทยก็คืนเงินให้ อันนี้คือการช่วยเหลือ บนเครื่องบินก็ได้จัดพยาบาลและแพทย์จากหน่วยดูแล เพื่อให้เข้าใจว่ารัฐบาลไม่ทอดทิ้งและกองทัพทำเต็มที่แล้ว
จากนี้จะดูแลในเรื่องของการตรวจสุขภาพ วันนี้มีกระทรวงแรงงานมาด้วย โดยจะจ่ายให้ก่อน 15,000 บาทในเบื้องต้น กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์วันนี้ก็มาดูแลเรื่องค่าใช้จ่าย ค่ารถกลับบ้าน และกลับไปถึงบ้านก็จะมีกระบวนการในการติดตามดูแล
โดยพอกลับถึงประเทศไทยแล้วกระทรวงแรงงานจะสำรวจว่าใครประสงค์จะกลับไปอีกให้แจ้งไว้ หากเหตุการณ์สงบและสัญญายังเหลือจะกลับไปอีกก็ให้คุยกับกระทรวงแรงงาน ถ้าไม่อยากไปหรือจะไปประเทศอื่นกระทรวงแรงงานก็พร้อมที่จะหางานให้
สุทินกล่าวอีกว่า รัฐบาลกำลังคิดแผนใหม่อยู่ว่าจะเอาเครื่องบิน C-130 ที่บินไกลไม่ได้ ไปลำเลียงแรงงานจากอิสราเอลไปไว้ประเทศที่สาม เช่น จอร์แดน ซาอุดีอาระเบีย ดูไบ ไซปรัส นอกจากนี้คิดว่าถ้าจำเป็นอาจจะต้องเสริมด้วยทางเรือ โดยทางกองทัพเรือเอาเรือไปจอดรับ แต่ตอนนี้อาจจะยังไม่ถึงขั้นนั้น ย้ำอีกครั้งหนึ่งว่าดีใจและขอให้ทุกคนกลับบ้านด้วยความปลอดภัย