ชาวปาเลสไตน์ราว 1.1 ล้านคนที่อาศัยอยู่ทางตอนเหนือของฉนวนกาซาเร่งเดินทางอพยพลงสู่ตอนใต้ ไม่ว่าจะเป็นด้วยการโดยสารรถยนต์ สัตว์ลากรถ หรือเดินเท้า หลังจากที่กองทัพอิสราเอลประกาศเตือนวานนี้ (13 ตุลาคม) ว่า พวกเขาต้องเร่งอพยพออกจากพื้นที่ดังกล่าวภายใน 24 ชั่วโมง ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ที่ว่า อิสราเอลอาจทำการโจมตีภาคพื้นดินในดินแดนแห่งนี้ในอีกไม่ช้า
โดยวานนี้ กองทัพอิสราเอลได้โปรยใบปลิวหลายพันใบลงสู่ฉนวนกาซา ซึ่งระบุว่า “คุณต้องออกจากบ้านของคุณทันที และเพื่อความปลอดภัยอย่ากลับไปที่บ้านของคุณจนกว่าจะมีประกาศเพิ่มเติมจากกองกำลังป้องกันอิสราเอล จงออกจากสถานพักพิงทั้งหมดในกาซา อย่าข้ามกำแพงรักษาความปลอดภัย เพราะใครก็ตามที่ทำเช่นนั้น กำลังเสี่ยงชีวิตของตนเอง”
อย่างไรก็ตาม กลุ่มฮามาสบอกประชาชนว่าอย่าได้หลงเชื่อประกาศดังกล่าว โดยระบุว่า นี่เป็นข้อมูลบิดเบือนที่หวังสร้างความตื่นตระหนก และทำให้แผนบุกโจมตีและทำลายกลุ่มฮามาสง่ายขึ้นกว่าเดิม
ด้านองค์การสหประชาชาติระบุว่า คำสั่งดังกล่าวนั้น ‘น่ากลัว’ ขณะที่สหรัฐอเมริกาเรียกร้องให้อิสราเอลใช้มาตรการป้องกันทุกวิถีทางเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้มีการสังหารพลเรือนเกิดขึ้น โดย แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เปิดเผยว่า เขากำลังอยู่ระหว่างประสานงานกับทางการอิสราเอลเพื่อรักษา ‘พื้นที่ปลอดภัยในฉนวนกาซา’
นับตั้งแต่ที่เหตุความขัดแย้งระหว่างสองดินแดนปะทุขึ้นรอบใหม่เมื่อวันเสาร์ที่ 7 ตุลาคม กลุ่มติดอาวุธฮามาสได้ลักพาตัวประชาชนชาวอิสราเอลและชาวต่างชาติไปอย่างน้อย 150 คน และพาตัวไปขังไว้ในฉนวนกาซา ขณะที่ปฏิบัติการทางทหารของกลุ่มฮามาสได้ทำให้ประชาชนในฝั่งอิสราเอลเสียชีวิตอย่างน้อย 1,300 คน อย่างไรก็ตาม การโต้ตอบกลับที่รุนแรงของอิสราเอลก็ทำให้มีผู้คนในฉนวนกาซาเสียชีวิตแล้วกว่า 1,900 คน อีกทั้งทางการยังสั่งปิดล้อมฉนวนกาซา ตัดขาดการส่งเชื้อเพลิง อาหาร และน้ำจากภายนอก ซึ่งทำให้สภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนมีความเสี่ยงยิ่งขึ้นกว่าเดิม
ภาพ: MAHMUD HAMS / AFP
ภาพ: MAHMUD HAMS / AFP
ภาพ: SAID KHATIB / AFP
ภาพ: Ashraf Amra / Anadolu via Getty Images
ภาพ: Ashraf Amra / Anadolu via Getty Images
อ้างอิง: