วานนี้ (4 ตุลาคม) The Guardian สื่อชื่อดังของอังกฤษ รายงานว่า ฟุตบอลโลกปี 2030 จะมีเจ้าภาพใน 3 ทวีป นั่นคือ ยุโรป แอฟริกา และอเมริกาใต้
ก่อนหน้านี้ โมร็อกโก, โปรตุเกส และสเปน เสนอตัวเป็นเจ้าภาพร่วม 3 ประเทศใน 2 ทวีป และถูกมองว่ามีศักยภาพที่จะถูกเลือกให้เป็นเจ้าภาพการแข่งขันในปี 2030 มากที่สุดในบรรดาผู้เสนอตัวทั้งหมด
ล่าสุดมีการยืนยันว่า โมร็อกโก, โปรตุเกส และสเปน ถูกเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน แต่มีการตัดสินใจที่จะให้อุรุกวัย, อาร์เจนตินา และปารากวัย ได้ร่วมจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกในคราวนี้ด้วย
นั่นหมายความว่า เราจะได้เห็นฟุตบอลโลก 2030 มีชาติเจ้าภาพร่วมถึง 6 ประเทศ ซึ่งนับเป็นการเฉลิมฉลองฟุตบอลโลกในวาระครบ 100 ปีของฟุตบอลโลก
ขณะเดียวกันนั่นยังหมายถึงการที่ฟุตบอลโลก 2030 จะมีทีมที่ได้ผ่านเข้ารอบคัดเลือกโดยอัตโนมัติมากที่สุดถึง 6 ชาติ เนื่องจากทั้งโมร็อกโก, โปรตุเกส, สเปน, อุรุกวัย, อาร์เจนตินา และปารากวัย จะถูกนับเป็นชาติเจ้าภาพทั้งหมด ทำให้โควตาในรอบคัดเลือกจะเหลือเพียง 42 จาก 48 ทีมเท่านั้น
โดยทาง จานนี อินฟานติโน กล่าวถึงการตัดสินใจในคราวนี้ว่า “ในโลกที่ถูกแบ่งแยก ฟีฟ่าและฟุตบอลกำลังรวมกันเป็นหนึ่งเดียวกัน
“ฟีฟ่าซึ่งเป็นตัวแทนของโลกฟุตบอลเห็นพ้องต้องกันอย่างเป็นเอกฉันท์ที่จะเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 100 ปีของฟุตบอลโลก ซึ่งจัดขึ้นครั้งแรกที่อุรุกวัยในปี 1930 ด้วยวิธีที่เหมาะสมที่สุด
“ด้วยเหตุนี้ การเฉลิมฉลองในวาระดังกล่าวควรอย่างยิ่งที่จะเกิดขึ้นในทวีปอเมริกาใต้ และสามประเทศในทวีปดังกล่าว ได้แก่ อุรุกวัย อาร์เจนตินา และปารากวัย จะจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2030 ชาติละหนึ่งนัด
“แน่นอนว่านัดแรกจากสามนัดดังกล่าวจะต้องเล่นกันที่สนามเอสตาดิโอ เซนเตนาริโอ ในตำนานของมอนเตวิเดโอ ซึ่งเป็นสถานที่ที่ฟุตบอลโลกเริ่มขึ้น เพื่อเฉลิมฉลองการครบรอบ 100 ปีของฟุตบอลโลกฟีฟ่า”
อ้างอิง: