วันนี้ (28 กันยายน) ที่รัฐสภา จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ และรักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวพรรคประชาธิปัตย์จะแยกไปตั้งพรรคใหม่ และดึง อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรค ว่า ยังไม่เคยได้ยิน แล้วไม่สามารถยืนยันข้อเท็จจริงได้ ต้องไปถามผู้ที่มีชื่อปรากฏตามข่าว แต่เมื่อเช้าที่ผ่านมา ชัยชนะ เดชเดโช สส. จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ไปแล้ว
ส่วนความสัมพันธ์ภายในพรรค ขณะนี้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องใช่หรือไม่ จุรินทร์กล่าวว่า ทุกอย่างจะเดินหน้าผ่านพ้นไปได้ด้วยดี และการเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ที่เมื่อวานได้ให้สัมภาษณ์ก็ขอเวลาจูนกันนิดหนึ่ง ทุกอย่างจะยุติได้ ความจริงพรรคประชาธิปัตย์เคยผ่านวิกฤตมาหลายครั้ง ในอดีตหนักหน่วงกว่านี้อีก
จุรินทร์กล่าวยกตัวอย่างเหตุการณ์วันที่ 10 มกราคม ที่กรรมการบริหารพรรคร่วมใจยกทีมลาออกเนื่องจากพ่ายการเลือกตั้ง เป็นเหตุการณ์ที่หนักหนาแต่พรรคประชาธิปัตย์ก็ฟื้นกลับมาได้ ที่สำคัญประชาชนก็ไม่ทิ้งพรรคประชาธิปัตย์และพร้อมให้ทำหน้าที่ต่อไป ซึ่งสามารถกลับมาได้และได้เป็นรัฐบาลถึงสองสมัย แต่ทั้งหมดนี้ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ให้ความสำคัญกับการทำให้พรรคเดินหน้าไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่งก็อาจจะมีปัญหาอยู่บ้าง หากทำให้ประชาชนหรือสมาชิกพรรคไม่สบายใจ อย่างน้อยในฐานะรักษาการหัวหน้าพรรคต้องขออภัย และยืนยันว่า ในช่วงที่ตนรักษาการอยู่จะพยายามให้ทุกอย่างเดินหน้าสู่ความเรียบร้อย และมีเป้าหมายจะเป็นพรรคการเมืองที่เป็นที่พึ่งให้ประชาชนได้
จุรินทร์กล่าวย้ำว่า ปัญหาภายในพรรคประชาธิปัตย์จะไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการทำหน้าที่ฝ่ายค้าน และไม่ให้กระทบผลประโยชน์ของประชาชน ส่วนคำถามที่ว่า การปรับความเข้าใจภายในพรรคเป็นลักษณะการใช้คนกลางหรือการเรียกมาพูดคุยระหว่างกันนั้น เป็นเรื่องภายในพรรค มีวิธีที่จะสามารถคุยกันได้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงการเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่ ได้วางไทม์ไลน์ว่าจะต้องได้หัวหน้าพรรคคนใหม่ภายในปีนี้หรือไม่ จุรินทร์กล่าวว่า จะทำให้เร็วที่สุดตามข้อเท็จจริง ตามสถานการณ์ เชื่อว่าแต่ละฝ่ายเริ่มหันหน้าเข้าหากัน และส่วนตัวจะพยายามให้ปรับจูนกันได้ แต่หลักใหญ่คือการทำหน้าที่ไปในทางเดียวกัน คือเป็นฝ่ายค้านในการตรวจสอบรัฐบาล
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า สามารถเรียกได้ว่ารอยร้าวในพรรคดีขึ้นแล้วใช่หรือไม่ จุรินทร์กล่าวว่า ไม่อยากให้เรียกว่ารอยร้าว แต่ทุกคนตระหนักในภารกิจ ในการทำให้พรรคเดินหน้าและเติบโตไปให้ได้อีกครั้งหนึ่ง การที่จะทำได้คือการให้ประชาชนและสมาชิกทั่วประเทศที่ยังเป็นกังวล ที่รักประชาธิปัตย์ มีกำลังใจกลับมาช่วยพรรคอีกครั้งหนึ่ง
จุรินทร์ยังกล่าวถึงการตรวจสอบรัฐบาลว่า เริ่มต้นตั้งแต่การตรวจสอบนโยบายรัฐบาลที่ได้แถลงต่อรัฐสภาที่ผ่านมา ขณะนั้นชัดเจนแล้วว่าพรรคประชาธิปัตย์พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้านเต็มที่ ไม่ใช่ครึ่งๆ กลางๆ ส่วนที่ 2 คือการตรวจสอบงบประมาณ เป็นการชี้วัดว่ามีการเดินตามนโยบายจริงจังมากน้อยแค่ไหน เพราะบางนโยบายต้องใช้เงิน ถ้าไม่มีเงินก็ทำได้ยาก ส่วนที่ 3 คือการตรวจสอบพฤติกรรมของรัฐบาล ที่ไม่ได้แปลว่าจะจงเกลียดจงชัง แต่เป็นการทำหน้าที่โดยซื่อสัตย์ จะทำทั้งหมดอย่างเต็มที่
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การที่พรรคก้าวไกลจะเสนอให้ ชัยธวัช ตุลาธน ขึ้นมาเป็นผู้นำฝ่ายค้าน จะสามารถทำงานด้วยกันได้หรือไม่ จุรินทร์กล่าวว่า เป็นหน้าที่ที่ต้องทำงานร่วมกัน ประชาธิปัตย์พร้อมทำหน้าที่ร่วมกับทุกพรรค แต่อะไรที่เป็นจุดยืนเฉพาะได้พูดแล้วตอนแถลงนโยบาย