บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของจีนสูญเงินรวมกันกว่า 2 หมื่นล้านหยวนแล้ว เนื่องจากการอ่อนค่าของเงินหยวน โดย Evergrande, Sunac และ Country Garden เป็น 3 บริษัทที่ขาดทุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินท้องถิ่นมากที่สุด เนื่องจากมีหนี้หรือออกหุ้นกู้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐจำนวนมาก
Nikkei Asia รายงานว่า บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของจีน 24 แห่ง ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเกือบ 2.12 หมื่นล้านหยวน หรือราว 1.04 แสนล้านบาท ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ เนื่องจากเงินหยวนอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ทำให้แรงกดดันต่อความสามารถในการชำระหนี้เพิ่มสูงขึ้น
โดยบริษัท China Evergrande Group กลายเป็นบริษัทที่ขาดทุนสุทธิจากอัตราแลกเปลี่ยนมากที่สุดในบรรดาบริษัทอสังหาริมทรัพย์จีนทั้งหมด ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ อยู่ที่ 4.14 พันล้านหยวน เนื่องจากเงินหยวนอ่อนค่าลงเกือบ 10% ในช่วงเวลาดังกล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- น้ำมันแพงสะเทือนสกุลเงินเอเชีย! Jamie McGeever คอลัมนิสต์ตลาดการเงิน ออกโรงเตือนพายุลูกใหญ่กำลังก่อตัว
- เงินหยวนอ่อนค่าใกล้ระดับต่ำสุดของปี หลังเศรษฐกิจจีนเผชิญข่าวร้ายไม่หยุด
ทั้งนี้ ตั้งแต่ต้นปี (YTD) ถึงวันที่ 19 กันยายน เงินหยวนอ่อนค่าไปแล้วกว่า 5.5% และแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 16 ปี เมื่อเทียบกับดอลลาร์ เมื่อวันที่ 8 กันยายน
อ้างอิง: Nikkei Asia
ขณะที่ Sunac China Holdings ซึ่งประสบกับการผิดนัดชำระ (Default) หุ้นกู้ทั้งสกุลเงินหยวนและต่างประเทศไปแล้ว มีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนสุทธิ 3.24 พันล้านหยวนในช่วงครึ่งปีแรก โดยบริษัทยังไม่ได้ชำระคืนหนี้จำนวน 1.29 แสนล้านหยวน ณ สิ้นเดือนที่ผ่านมา
ส่วน Country Garden Holdings มีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนสุทธิมากกว่า 3 พันล้านหยวน มีส่วนให้ผลขาดทุนสุทธิในครึ่งปีของบริษัทพุ่งสูงแตะระดับ 4.89 หมื่นล้านหยวน ขาดทุนมากเป็นประวัติการณ์
Cedric Lai นักวิเคราะห์จาก Moody’s Investors Service ในฮ่องกง กล่าวว่า การเข้าถึงเงินทุนสำหรับบริษัทอสังหาริมทรัพย์จีนโดยทั่วไป “จะยังคงถูกจำกัด ท่ามกลางความเชื่อมั่นของตลาดที่ตกต่ำ” หลังจาก Moody’s ได้ปรับลดแนวโน้ม (Outlook) เครดิตภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนเป็นลบ (Negative) จากมีเสถียรภาพ (Stable)
ถึงแม้จะมีมาตรการช่วยเหลือล่าสุด แต่ Moody’s คาดว่า ยอดขายอสังหาริมทรัพย์ทั่วประเทศจีนจะลดลงอีก เนื่องจากความกังวลของผู้ซื้อบ้านยังคงอยู่
อ้างอิง: