สำนักข่าว BBC รายงานว่า ทางการแคนาดาได้สั่งอพยพประชาชนในกว่า 30,000 ครัวเรือนของรัฐบริติชโคลัมเบีย หลังจากพื้นที่ดังกล่าวเผชิญกับไฟป่าเผาไหม้เกือบ 400 แห่งด้วยกัน
ในช่วงแรกนั้นทางการได้สั่งอพยพประชาชนราว 15,000 ครัวเรือนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (18 สิงหาคม) ก่อนที่จะเพิ่มจำนวนเป็น 30,000 ครัวเรือนในช่วงเย็นวันเสาร์ที่ผ่านมา (19 สิงหาคม) เนื่องจากสถานการณ์นั้นค่อนข้างรุนแรง
รายงานระบุว่า ไฟป่าขนาดใหญ่ 2 แห่งในภูมิภาคชูสวาป ได้ลามมารวมตัวกันกลายเป็นไฟป่าขนาดใหญ่เมื่อคืนที่ผ่านมา ทำลายบ้านเรือนและอาคารหลายหลังพังเสียหาย ขณะที่ทางการได้ออกคำสั่งจำกัดการเดินทางไปยังเมืองเคโลวนา ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของรัฐหากไม่มีเหตุจำเป็น ส่วนทะเลสาบโอคานากัน แหล่งท่องเที่ยวที่มีทัศนียภาพอันงดงามในตอนนี้ได้ถูกปกคลุมด้วยกลุ่มควันสีเทาหนาซึ่งลอยมาจากไฟป่าหลายแห่งที่รายล้อมอยู่
นอกจากนี้เปลวเพลิงยังได้เผาผลาญบ้านหลายหลังในเมืองเวสต์ เคโลวนา ที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งมีประชากรราว 36,000 คนด้วยกัน
สำหรับสาเหตุที่ทางการแคนาดาออกคำสั่งจำกัดการเดินทางรอบเมืองเคโลวนานั้น เป็นเพราะต้องการสร้างหลักประกันว่าในบริเวณดังกล่าวจะมีที่พักเพียงพอสำหรับบรรดาผู้อพยพและเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานรับมือไฟป่า นอกจากนี้ยังมีคำสั่งจำกัดการเดินทางไปยังอีกหลายเมืองด้วยกัน เช่น แคมลูปส์, โอลิเวอร์ และโอซอยออส เป็นต้น
ส่วนในเมืองเยลโลว์ไนฟ์ สถานการณ์ไฟป่ายังคงรุนแรง โดยประชาชนได้ทยอยเดินทางออกจากพื้นที่ทั้งทางรถยนต์และทางเครื่องบิน หลังจากที่ทางการกำหนดเส้นตายในการอพยพประชาชนออกจากเมืองดังกล่าวในวันศุกร์ที่ผ่านมา
ข้อมูลจาก Canadian Interagency Forest Fire Centre (CIFFC) ระบุว่า ปัจจุบันแคนาดากำลังเผชิญกับฤดูไฟป่าที่รุนแรงสุดในประวัติศาสตร์ โดยขณะนี้มีเหตุไฟป่าเกิดขึ้นกว่า 1,000 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญกล่าวตรงกันว่า ภาวะโลกรวนมีส่วนทำให้สถานการณ์ไฟป่าที่เป็นอยู่นี้เลวร้ายลง เนื่องจากมันเพิ่มความเสี่ยงที่จะทำให้สภาพภูมิอากาศโลกร้อนขึ้น แล้งขึ้น ซึ่งเอื้อต่อการเกิดไฟป่าได้เป็นอย่างดีเมื่อผสมกับกระแสลมที่พัดแรง โดยแคนาดามียอดผู้เสียชีวิตจากฤดูไฟป่านี้แล้ว 4 คน ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นนักดับเพลิงที่เข้าปฏิบัติหน้าที่อย่างแข็งขัน
ภาพ: Nikki Goyer via REUTERS
อ้างอิง: