×

ทักษิณประกาศกลับบ้านครั้งที่ 20 อุ๊งอิ๊งเผย จะไปรับพ่อ 22 ส.ค. นี้ 9 โมงเช้า ที่สนามบินดอนเมือง

โดย THE STANDARD TEAM
19.08.2023
  • LOADING...

วันนี้ (19 สิงหาคม) แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านอินสตาแกรมระบุว่า “วันอังคารที่ 22 สิงหาคม เวลา 09.00 น. ณ สนามบินดอนเมือง จะไปรับคุณพ่อทักษิณ” 

 

ทั้งนี้ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้เป็นพ่อของแพทองธาร ได้ประกาศก่อนหน้านี้ว่าจะเดินทางกลับประเทศไทยเมื่อวันที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมา แต่ก็ได้ยกเลิกไป เนื่องจากแพทย์เรียกให้ไปตรวจร่างกายก่อน ซึ่งมีการยืนยันจากแหล่งข่าวใกล้ชิดในครั้งนั้นว่าทักษิณเตรียมการทุกอย่างไว้แล้ว ทั้งสัมภาระ รวมถึงข้าวของเครื่องใช้บางส่วนด้วย แต่ก็ต้องประกาศเลื่อนการเดินทาง โดยสอดคล้องกับสถานการณ์การเมืองไทยที่ยังไม่ได้ข้อสรุปการเลือกนายกรัฐมนตรี

 

อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่มีการทำรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 ทักษิณเคยเดินทางกลับประเทศไทย 1 ครั้ง พร้อมปรากฏภาพกราบแผ่นดินเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2551 ซึ่งในเวลานั้นทักษิณตกเป็นจำเลยในคดีทุจริตจัดซื้อที่ดินย่านรัชดาฯ ร่วมกับ คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ ภริยา ซึ่งศาลอนุมัติให้ประกันตัว ก่อนที่เจ้าตัวจะไม่ไปตามนัดของศาลที่ให้มารายงานตัวต่อในวันที่ 11 สิงหาคม 2551 และใช้ชีวิตในต่างแดน และไม่ได้เดินทางกลับประเทศไทยอีกเลยเป็นเวลาเกือบ 16 ปี 

 

ที่ผ่านมาทักษิณประกาศผ่านสื่อหลายครั้งว่า ‘อยากกลับบ้าน’ และจะกลับประเทศไทย THE STANDARD รวบรวมมาให้ว่าตั้งแต่ปี 2551 เขากล่าวถึงการอยากกลับบ้าน กลับแผ่นดินเกิด มาแล้วกี่ครั้ง

 

ครั้งที่ 1: วันที่ 30 มีนาคม 2552 ทักษิณกล่าวผ่านระบบวิดีโอลิงก์ ขึ้นจอภาพบนเวทีกลุ่มคนเสื้อแดง ผ่านเวทีชุมนุม นปช. บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล 

 

ครั้งที่ 2: ปี 2555 ทักษิณโฟนอินงานพบปะสังสรรค์คนเสื้อแดงภาคอีสาน 20 จังหวัด ระบุว่า “ถ้าผมกลับมาบ้าน ต้องกลับมาอย่างเท่ๆ แล้วจะบอกว่าจะกลับมาแบบไหนถึงจะเรียกว่าเท่”

 

ครั้งที่ 3: วันที่ 1 มกราคม 2564 ทักษิณวิดีโอคอลให้สัมภาษณ์สื่อว่า อยากมาเลี้ยงหลาน ไม่เล่นการเมือง มีแต่ห่วงบ้านเมืองเท่านั้น 

 

ครั้งที่ 4: วันที่ 29 มิถุนายน 2564 ทักษิณกล่าวในรายการ CareTalk x CareClubHouse ระบุว่า “ผมกลับแน่ แต่เมื่อไรค่อยบอก”

 

ครั้งที่ 5: วันที่ 13 กรกฎาคม 2564 ทักษิณกล่าวยืนยันในรายการ CareTalk x CareClubHouse อีกครั้งว่า “ผมกลับไทยแน่ แต่จะบอกเวลาอีกที อย่างไรไปสุวรรณภูมิ ออกประตูหน้า ไม่ใช่ประตูหลัง”

 

ครั้งที่ 6: วันที่ 6 สิงหาคม 2564 ทักษิณประกาศผ่านรายการ CareTalk x CareClubHouse “อยากกลับตั้งแต่เมื่อวานแล้ว แต่ขอดูเวลาให้เหมาะเจาะ จะกลับเมื่อไรจะบอก”

 

ครั้งที่ 7: วันที่ 4 มกราคม 2565 ทักษิณกล่าวผ่านรายการ CareTalk x CareClubHouse อวยพรให้คนไทยได้ตนเองกลับบ้านให้ไปช่วยงาน พร้อม 4 เงื่อนไข

 

  1. อยากเลี้ยงหลาน 
  2. ไม่สนว่าใครเป็นรัฐบาล หากให้ช่วยก็พร้อมเสมอ 
  3. รับจ้างบรรยาย ขอแค่โอเลี้ยง 1 แก้วพอ 
  4. ไปชวนบรรดาเศรษฐีในเมืองไทยลงขันสตาร์ทอัพรุ่นใหม่

 

ครั้งที่ 8: วันที่ 2 มีนาคม 2565 ทักษิณกล่าวผ่านรายการ CareTalk x CareClubHouse ยืนยัน “กลับบ้าน พ.ศ. นี้แน่”

 

ครั้งที่ 9: วันที่ 19 กรกฎาคม 2565 ทักษิณกล่าวผ่านรายการ CareTalk x CareClubHouse “ผมกลับแน่” หลังถูก พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงในรัฐสภาในศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล

 

ครั้งที่ 10: วันที่ 23 กรกฎาคม 2565 ทักษิณโฟนอินในงานเลี้ยงกลุ่มเครือข่ายคนเสื้อแดงที่จังหวัดนครราชสีมา “ปีนี้เป็นปีสุดท้ายนะ ปีหน้าเราเจอกันที่เมืองไทยก็แล้วกัน”

 

ครั้งที่ 11: วันที่ 26 กรกฎาคม 2565 ทักษิณปล่อยวิดีโอวันเกิด 73 ปี จากดูไบ “ให้อภัยศัตรู อยากกลับบ้าน เพราะสงสารคุณหญิงพจมาน”

 

ครั้งที่ 12: วันที่ 13 กันยายน 2565 ทักษิณกล่าวในรายการของกลุ่มแคร์อีกครั้งว่า “สำหรับผมเอง หากจะกลับบ้านไม่มีหมากอะไรหลายชั้น ไม่ให้รัฐบาลเพื่อไทยเสนอนิรโทษกรรมแน่นอน”

 

ครั้งที่ 13: วันที่ 19 กันยายน 2565 ทักษิณได้โพสต์แสดงความคิดเห็นในวาระครบรอบ 16 ปี การรัฐประหาร ขอกลับบ้านไปเลี้ยงหลาน พร้อมแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ให้กับสังคมไทย 

 

ครั้งที่ 14: วันที่ 25 ตุลาคม 2565 ทักษิณกล่าวผ่านรายการ CareTalk x CareClubHouse ระบุว่า “อยากกลับไปเลี้ยงหลาน ตอนนี้น่าจะใกล้ถึงเวลาแล้ว ได้กลับแน่ แต่รออีกนิดหนึ่ง”

 

ครั้งที่ 15: วันที่ 25 มกราคม 2566 ทักษิณกล่าวผ่านรายการ CARE คิด เคลื่อนไทย ยืนยันอย่างไรก็กลับบ้าน กลับโดยไม่อาศัยพรรคใด รวมถึงเพื่อไทย จะไม่มีการออกกฎหมาย โดยแพทองธารจะเป็นคนประกาศเองว่าตนเองกลับเมื่อไร

 

ครั้งที่ 16: วันที่ 24 มีนาคม 2566 ทักษิณให้สัมภาษณ์สำนักข่าวเกียวโด ระหว่างเดินทางอยู่ในญี่ปุ่นว่า เขาพร้อมที่จะรับโทษจำคุกในประเทศไทย “หากได้รับอนุญาต” ให้ใช้ชีวิตบั้นปลายกับครอบครัว ตนเองได้รับความทุกข์ทรมานมามากพอแล้ว ถ้าหากต้องกลับไปทุกข์ทรมานในคุกเล็กๆ มันไม่เป็นไร พร้อมระบุว่า “แม้ไม่ใช่ราคาที่ต้องจ่าย แต่ผมยอมจ่าย เพื่อให้ได้อยู่กับหลานๆ ผมควรจะใช้ชีวิตที่เหลือกับลูกหลาน”

 

ครั้งที่ 17: วันที่ 1 พฤษภาคม 2566 ทักษิณได้โพสต์ข้อความระบุว่า “เช้าวันนี้ ผมดีใจมากที่ได้หลานคนที่ 7 เป็นชาย ชื่อ ธาษิณ จากน้องอิ๊งค์ แพทองธาร หลานทั้ง 7 คน คลอดในขณะที่ผมต้องอยู่ต่างประเทศ ผมคงต้องขออนุญาตกลับไปเลี้ยงหลาน เพราะผมอายุจะ 74 ปี กรกฎานี้แล้ว พบกันเร็วๆ นี้ครับ ขออนุญาตนะครับ” 

 

ครั้งที่ 18: วันที่ 9 พฤษภาคม 2566 ทักษิณโพสต์ข้อความอีกครั้งระบุว่า “ผมขออนุญาตอีกครั้ง ผมตัดสินใจแล้วว่าจะกลับบ้านไปเลี้ยงหลานภายในเดือนกรกฎาคมนี้ ก่อนวันเกิดผมครับ ขออนุญาตนะครับ เกือบ 17 ปีแล้วที่ต้องพลัดพรากจากครอบครัว ผมก็แก่แล้วครับ”

 

ครั้งที่ 19: วันที่ 26 กรกฎาคม 2566 แพทองธารโพสต์ภาพลงอินสตาแกรมคู่กับทักษิณ เนื่องในโอกาสวันเกิดครบ 74 ปี พร้อมระบุข้อความว่า “26 กรกฎาคมของทุกปี เป็นวันสำคัญของลูกเสมอ แต่ปีนี้ลูกยังไม่อยากเชื่อตัวเองในสิ่งที่ลูกกำลังจะพิมพ์ พ่อจะกลับมาแล้ว วันที่ 10 สิงหาคมนี้ ที่สนามบินดอนเมือง”

 

และครั้งที่ 20 ในช่วงเช้าที่ผ่านมา แพทองธารประกาศไปรับผู้เป็นพ่อในวันอังคารที่ 22 สิงหาคม 2566 เวลา 09.00 น. ที่สนามบินดอนเมือง

 

ทั้งนี้ วานนี้ (18 สิงหาคม) พล.ต.ท. ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เรียกประชุมผู้ที่เกี่ยวข้องในการเตรียมความพร้อมแผนรับทักษิณกลับประเทศไทย เพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องหลายหน่วยงานเข้าร่วม เช่น รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เจ้าหน้าที่จากกรมราชทัณฑ์ เจ้าหน้าที่กองการต่างประเทศ เจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) หน่วยต่อต้านการก่อการร้ายสากล ศูนย์สืบสวนนครบาล กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 และเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ที่อยู่ในเส้นทางที่ขบวนรถที่คุมตัวทักษิณวิ่งผ่าน 

 

สำหรับการกลับมาของทักษิณจะเริ่มจากสนามบินดอนเมือง บริเวณอาคารผู้โดยสารอากาศยานส่วนบุคคล ซึ่งคาดว่าเป็นจุดที่เครื่องบินเจ็ตส่วนตัวของทักษิณจะลงจอดบริเวณในส่วน VIP โดยเมื่อทักษิณเดินทางกลับเข้าประเทศไทยแล้ว ขั้นตอนแรกเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจะเป็นผู้รับตัวและทำบันทึกการจับกุมต่างๆ ตามขั้นตอน ก่อนส่งตัวทักษิณให้เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์คุมตัวขึ้นรถ และนำตัวไปศาลฎีกาแผนกคดีอาญา (สนามหลวง) ตามขั้นตอนของกฎหมาย

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X