ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น บมจ.โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ (BH) พุ่งแตะระดับ 266 บาท ถือเป็นสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของบริษัท และเป็นจุดสูงสุดในรอบเกือบ 8 ปี ทำให้มูลค่าบริษัทเพิ่มขึ้นแตะระดับ 2.1 แสนล้านบาท โดยสถิติราคาสูงสุดเดิมเกิดขึ้นเมื่อปี 2558 ที่ระดับ 260 บาท
ราคาหุ้นของ BH พลิกกลับมาเป็นขาขึ้นตั้งแต่ปลายปี 2563 ก่อนที่กำไรของโรงพยาบาลจะเริ่มเติบโตอย่างก้าวกระโดดหลังโควิดเมื่อปีก่อน โดยมีกำไรสุทธิ 4.9 พันล้านบาท ขณะที่กำไรในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ทำได้ 3.3 พันล้านบาท สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้
บล.กรุงศรี พัฒนสิน ระบุว่า กำไรของ BH มีแนวโน้มแข็งแกร่งหนุนจากอุปสงค์คงค้างจำนวนมากของผู้ป่วยต่างชาติ โดยเฉพาะตะวันออกกลาง และการปรับขึ้นราคา 6.6% ขณะเดียวกัน BH ได้รับการตอบรับที่ดีจากการเปิดให้บริการใหม่ และการจัดโปรโมชันของศูนย์โรคเฉพาะทาง 3 แห่ง
ด้วยกำไรไตรมาส 2 ที่ทำได้สูงกว่าคาด ทำให้ บล.กรุงศรี พัฒนสิน ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปีนี้ขึ้น 14% เป็น 6.7 พันล้านบาท ส่วนปีหน้าปรับขึ้น 15% เป็น 7.2 พันล้านบาท และปี 2568 ปรับขึ้น 16% เป็น 7.6 พันล้านบาท ซึ่งเป็นระดับที่สูงกว่า Consensus 15%
ล่าสุด BH จะขยายฐานลูกค้าใน 10 ประเทศใหม่ และเพิ่มสำนักงานส่งต่อผู้ป่วยเป็น 83 แห่ง จาก 55-60 แห่ง ก่อนโควิดระบาด ครอบคลุม 47 ประเทศ นอกจากนี้ เรายังคาดว่าบริษัทจะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากลูกค้าจีน หลังจากรัฐบาลจีนผ่อนคลายข้อจำกัดในการเดินทางออกนอกประเทศ และคาดว่าผู้ป่วยเมียนมาจะเพิ่มขึ้นหลังจากมีการผ่อนคลายข้อจำกัดในการออกวีซ่าและหนังสือเดินทาง
นอกจากนี้ BH จะเพิ่มจำนวนเตียงผู้ป่วยเป็น 497 เตียง ในไตรมาส 3 ปีนี้ และ 506 เตียงในไตรมาส 4 จากเดิม 471 เตียงในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา โดยมีอัตราการครองเตียง 80% เพื่อรองรับอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้น และจะเพิ่มจำนวนเตียงที่สุขุมวิทซอย 1 อีก 59 เตียง ภายในปลายปี 2567 หรือกลางปี 2568
ผลประกอบการที่เติบโตต่อเนื่องของ BH หลังผ่านวิกฤตโควิด ทำให้ราคาหุ้น BH เป็นหุ้นในกลุ่มการแพทย์ที่ปรับตัวขึ้นมากที่สุดในปีนี้ราว 20% รองจากหุ้น บมจ.โรงพยาบาลมหาชัย (M-CHAI) ที่เพิ่มขึ้นมากที่สุดในกลุ่มกว่า 130%
ด้าน บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ระบุว่า แนวโน้มกำไรสุทธิไตรมาส 3 มีโอกาสทำสถิติสูงสุดใหม่ จากรายได้ที่คาดว่าจะเติบโตเป็นเลขสองหลักอยู่ระหว่าง 23-47% ปัจจัยหนุนการเติบโตคือ คนไข้ต่างชาติเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะจากตะวันออกกลาง และขยายตลาดใหม่ เช่น รัสเซีย และประเทศอื่นๆ ในตะวันออกกลาง รวมถึงอินเดีย รวมทั้งรายได้จากโรคซับซ้อนมากขึ้น และการปรับขึ้นค่าบริการ รวมทั้งการขยายจำนวนเตียง
นอกจากนี้ การเปิดโรงพยาบาลใหม่ที่ภูเก็ตหนุนการเติบโตในระยะยาว เป็นโรงพยาบาลขนาด 150 เตียง ใช้เงินลงทุน 4.3 พันล้านบาท ปัจจุบันได้ซื้อที่ดินแล้ว กำลังรอการอนุมัติ EIA คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในไตรมาส 2 หรือไตรมาส 3 ปี 2568