สวัสดีครับท่านนักลงทุน ปัจจัยทั้งภายในและภายนอกดูดีขึ้น โดยปัจจัยภายในประเทศด้านการเมืองมีความคืบหน้าต่อการจัดตั้งรัฐบาลซึ่งนำโดยพรรคเพื่อไทย โดยมุมมองของ InnovestX คาดว่า หากมีการจัดตั้งรัฐบาลได้ภายในเดือนสิงหาคม แนวโน้ม GDP ไทยในปีนี้ยังเติบโตได้ในระดับ 3.0% และปีหน้า 3.3% ขณะที่หากการจัดตั้งรัฐบาลล่าช้าไปจนถึงช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม จะส่งผลกระทบต่องบประมาณภาครัฐและเศรษฐกิจไทย โดย GDP ในปีนี้จะเติบโตเหลือเพียง 2.7% และปีหน้าเติบโต 3.0% ส่วนกรณีเลวร้าย ต้องรอไปจนถึง สว. หมดวาระในเดือนพฤษภาคมปีหน้า จะกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างมาก โดยเฉพาะในปีหน้าคาดว่า GDP ไทยจะเติบโตเหลือเพียงในช่วง 2.1-2.5%
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ปัจจุบันถือว่าแนวโน้มการจัดตั้งรัฐบาลจะสามารถทำได้ในช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายน ทำให้สถานการณ์ดูผ่อนคลาย และการกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจยังไม่มากนัก
ส่วนปัจจัยภายนอก ตลาดยังคาดหวังถึงการยุติการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ซึ่งดูเหมือนมีความมั่นใจมากขึ้น จากข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐอเมริกาประจำเดือนกรกฎาคมล่าสุดซึ่งเพิ่มขึ้น 3.2%YoY ต่ำกว่าคาดที่ 3.3% ส่วนดัชนี CPI พื้นฐานเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้น 4.7%YoY ตามคาด ส่วนจำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้นสู่ 2.48 แสนราย สูงกว่าคาดที่ 2.31 แสนราย ทำให้ตลาดคาด Fed จะยุติการดำเนินนโยบายคุมเข้มด้านการเงินในปีนี้
ทั้งนี้ ปัจจัยภายในและภายนอกที่ดูผ่อนคลาย ทำให้ SET ยืนได้บริเวณ 1,500 จุด อย่างไรก็ตาม มองว่า SET ยังคงมีความผันผวน โดยเคลื่อนไหวภายในกรอบ 1,480-1,570 จุด เนื่องจากการเมืองภายในประเทศแม้มีความคืบหน้าแต่ยังเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน โดยเฉพาะติดตามประเด็นสำคัญในวันที่ 16 สิงหาคม กรณีศาลรัฐธรรมนูญจะรับคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดินหรือไม่
ขณะที่เศรษฐกิจโลกยังชะลอตัว โดยเฉพาะจากจีน ซึ่งมีสัญญาณชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนท่ามกลางความผันผวนและความไม่แน่นอนที่ยังคงอยู่ แนะนำกลยุทธ์ในเชิงตั้งรับ ไม่ไล่ราคา
โดยเลือกหุ้นในธีมที่มีปัจจัยเฉพาะตัว ดังนี้
- ADVANC ราคาหุ้นมีแนวโน้มปรับตัว Outperform SET อย่างต่อเนื่อง โดยได้รับการสนับสนุนจากผลประกอบการที่ออกมาแข็งแกร่งใน 2Q และเติบโตต่อเนื่องใน 3Q66 และมีเงินปันผลระหว่างกาลที่ 4.0 บาทต่อหุ้น จะขึ้น XD วันที่ 18 สิงหาคม
- BEM คาดว่าราคาหุ้นยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ เมื่อพิจารณาจากแนวโน้มกำไรที่แข็งแกร่งใน 2Q66 อีกทั้งยังคาดว่ากำไรจะเติบโต QoQ และ YoY ใน 3Q66 โดยได้รับการสนับสนุนจากปริมาณรถที่ใช้ทางด่วนและจำนวนผู้โดยสาร MRT ที่เพิ่มขึ้น
- GULF มองบวกต่อแนวโน้มกำไรที่แข็งแกร่ง โดยคาดกำไรมีแนวโน้มดี จากกำลังการผลิตใหม่ของโรงไฟฟ้า IPP ขณะที่ส่วนแบ่งกำไรจาก INTUCH จะช่วยหนุนกำไรปี 2566 ต่อเนื่อง โดยส่วนแบ่งกำไรที่มีเสถียรภาพปีละ 4-5 พันล้านบาท
- MINT หุ้น Valuation ไม่แพงที่ PER 66F ระดับ 29 เท่า ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยในอดีต ขณะที่คาดผลประกอบการที่แข็งแกร่ง โดย 2Q66 คาดกำไรปกติที่ ~3 พันล้านบาท (+YoY, +QoQ) และผลประกอบการที่ดีขึ้นใน 2H66 จะช่วยหนุนให้ราคาหุ้นปรับตัวดีกว่าตลาดได้
- SCGP กำไรสุทธิ 2Q66 สูงกว่าคาด และคาดว่าผลประกอบการจะดีขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปใน 2H66 จากต้นทุนที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าธุรกิจในไทยและอินโดนีเซียจะปรับตัวดีขึ้น อีกทั้งความต้องการบรรจุภัณฑ์จะเข้าสู่ช่วงไฮซีซันใน 3Q66
- รวมทุกช่องทาง InnovestX Official ให้คุณได้ติดตามข้อมูลข่าวสารการลงทุนรอบโลก คลิก https://linktr.ee/InnovestX
- เปิดบัญชีลงทุน InnovestX วันนี้! เปิดครั้งเดียวลงทุนได้ครบทั้งจักรวาลการลงทุน
- โหลดเลย คลิก https://innovestx.onelink.me/23if/bywa6d5r
- ติดตามบทวิเคราะห์การลงทุนอื่นๆ เพิ่มเติมจาก InnovestX คลิก https://bit.ly/respublisher
- #InnovestX #InnovestXResearch #InnovestXApp #จักรวาลการลงทุนในมือคุณ