ย้อนกลับไปสมัยเรียนมหาวิทยาลัย คลาสการเมืองเรื่องการพัฒนา เราจำได้ว่าอาจารย์เคยพูดประเด็นเกี่ยวกับการพัฒนาของสังคมสมัยใหม่ที่นอกจากจะต้องต่อยอดระบบการเมืองและกลไกทางการเมืองเพื่อรองรับและตอบสนองความต้องการของกลุ่มคนที่หลากหลายในสังคมแล้ว การพัฒนาที่มุ่งเน้นไปที่ฐานรากของสังคมก็เป็นอีกประเด็นที่น่าสนใจ สำหรับสังคมไทยที่มีรากฐานหยั่งลึกกับการเกษตร การพัฒนาที่มุ่งเน้นด้านเกษตรกรรมทั้งในด้านแรงงาน การจัดการ การต่อยอด และเพิ่มผลผลิตทางเกษตร และการพัฒนาช่วยเหลืออื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ย่อมทำให้มาตรฐานชีวิตความเป็นอยู่ของคนกลุ่มนี้ดีขึ้น และสามารถเอาตัวรอดในทางธุรกิจและเติบโตได้อย่างยั่งยืน นี่คือสิ่งเล็กๆ ที่ผู้ร่วมก่อตั้ง Homeland Cafe & Grocer กำลังช่วยเหลือและผลักดันให้กลุ่มคนที่อยู่เบื้องหลังระบบการกินของประเทศมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และได้โชว์เคสผลิตผลทางการเกษตรคุณภาพดีโดยไม่ผ่านตัวกลาง เพื่อเชื่อมโยงสังคมเมืองให้ใกล้ชิดกับเกษตรกรท้องถิ่นและกระดูกสันหลังของชาติ
นี่คือโจทย์หลักของ ณัฐ-ภัทรพร สาลีรัฐวิภาค ผู้ร่วมก่อตั้ง Homeland Cafe & Grocer ที่นำเสนอโมเดลธุรกิจที่ผสมผสานแนวคิดการพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน โดยมุ่งเน้นไปที่กลุ่มเกษตรกร ซึ่งเป็นหนึ่งในอาชีพที่ขับเคลื่อนประเทศแต่กลับไม่ได้รับการดูแลหรือช่วยเหลือเท่าที่ควร
ย้อนกลับไปช่วงโควิด ไอเดียของ Homeland เกิดขึ้น และเป็นรูปเป็นร่างบนโลกออนไลน์ ในฐานะร้านชำที่เราแค่กดสั่งของที่อยากได้ แล้วรอรับหน้าบ้านในอีกไม่กี่วันถัดมา Homeland เป็นแพลตฟอร์มที่ขจัดปัญหาพ่อค้าคนกลาง โดยทีมงานลงพื้นที่เข้าหาเกษตรกรเอง เพื่อรับฟังปัญหาและเปิดรับสมัครสมาชิกเกษตรกรที่สนใจนำผลิตผลของตัวเองมาจำหน่ายกับ Homeland โดยมีข้อตกลงด้านกำไรส่วนแบ่งที่เป็นธรรม และมั่นใจว่ากำไรหลักๆ จะไปถึงมือผู้ผลิตโดยตรง นอกจากนี้ทาง Homeland ยังร่วมมือกับ TOCA (Thai Organic Consumer Association) และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาผลิตผลทางการเกษตร Homeland เลยกลายเป็นสื่อกลางในการแนะนำเรื่องราวของเกษตรกรเพื่อสร้างแบรนด์ และการตระหนักถึงให้แก่เกษตรกร อีกทั้งยังช่วยเหลือเกษตรกรด้วยการรับซื้อผลิตผลที่ออกมาล้นตลาดหรือ Surplus
แน่นอนว่าเพียงออนไลน์แพลตฟอร์มย่อมไม่ส่งเสียงดังเท่าการมีหน้าร้านเป็นของตัวเอง จึงเกิดเป็น Homeland Cafe & Grocer คาเฟ่ ร้านชำ และพื้นที่นำเสนอ/แลกเปลี่ยนความรู้ของเกษตรกรท้องถิ่นไทยและกลุ่มคนในสังคมที่เกี่ยวข้องกับระบบอาหารของประเทศ
Homeland Cafe & Grocer ไม่ได้ตั้งขึ้นเพื่อจุดประสงค์ทางวิชาการหรือมาเลกเชอร์การพัฒนาให้ใครต่อใครไปฟัง แต่ต้องการเป็นร้านชำสมัยใหม่ของชาวทองหล่อ-สุขุมวิท และเป็นพื้นที่นำเสนอผลผลิตทางการเกษตรจากผู้ผลิตท้องถิ่นทั่วประเทศ อีกทั้งนำวัตถุดิบส่วนเกินที่รับซื้อจากเกษตรกรมาสร้างสรรค์เป็นอาหารเมนูชวนน้ำลายสอ ส่วนใครที่เป็นสายเข้าครัวทำอาหารกินเองก็สามารถแวะเวียนมาช้อปของสดเข้าบ้าน หรือจะแค่มาแวะจิบกาแฟคลายร้อนยามบ่ายก็ได้
The Vibe
Homeland Cafe & Grocer ตั้งอยู่ในโครงการ SODALITY ซอยทองหล่อ 13 ปรับปรุงจากเดิมเล็กน้อย โดยก่อนหน้านี้ที่นี่เคยเป็นบ้านพักอาศัยมาก่อน บรรยากาศภายในร้านจึงค่อนข้างโฮมมี่และอบอุ่น เน้นเฟอร์นิเจอร์ไม้และของตกแต่งเอิร์ธโทนเป็นหลัก และยังคงสภาพพื้นไม้แบบเดิมไว้อยู่ เมื่อผลักประตูเข้าร้านจะพบกับบาร์กาแฟเป็นสิ่งแรก ขวามือเป็นมุมร้านชำเล็กๆ ส่วนซ้ายมือตลอดจนด้านในเป็นมุมคาเฟ่และร้านอาหาร
The Taste
ที่นี่ใช้วัตถุดิบจากเกษตรกรท้องถิ่น สร้างสรรค์เป็นเมนูอาหารสไตล์บรันช์และจานเดียว ส่วนซอส สลัดเดรสซิ่ง หรือแยมก็ทำขึ้นเองโดยใช้ Surplus ที่รับซื้อมาจากเกษตรกร
เริ่มต้นมื้อสายด้วย Tomato Soup (240 บาท) ซุปมะเขือเทศเย็นที่ใช้มะเขือเทศราชินีจากฟาร์มนครปฐม โรยหน้าด้วยมิโซะกรูตองส์ ตักกินเรียกน้ำย่อยแล้วแนะนำให้เก็บไว้กินกับจานอื่นๆ
Homeland Breakfast (350 บาท) รวมมิตรมื้อเช้าแบบตะวันตกในจานเดียว กับไข่กวนที่ใช้ไข่ไก่อินทรีย์จากราชบุรี มะเขือเทศราชินีย่างจากนครปฐม ขนมปังซาวโดวจ์และเบคอนจาก LARDER นอกจากนี้ยังมีพริกหวาน มันฝรั่ง และผัดเห็ดจากผู้ผลิตท้องถิ่นหมุนเวียนไปเรื่อยๆ หรือจะเป็น Breakfast Burrito (330 บาท) จานนี้เป็นเบรกฟาสต์เวอร์ชันกะทัดรัด มัดรวมทุกอย่างให้อยู่ในเบอร์ริโตชิ้นเดียว แนะนำให้จิ้มกับ Salsa Verde สูตรโฮมเมดที่ทำจากใบโหระพาไทย
สายคาร์บแนะนำ Spicy Prawn Pasta (390 บาท) สปาเกตตีกุ้งผัดพริกกับเลมอน โดยใช้กุ้งจากกลุ่มประมงพื้นบ้าน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
อีกเมนูที่น่าลอง The Fisherfolk Rice Bowl (350 บาท) ข้าวหน้าปลาอินทรีกับสารพัดผัก ข้าวกล้องจากวิสาหกิจชุมชน จังหวัดสุรินทร์ หอมแดงศรีสะเกษ มะนาวป่าละอู และปลาอินทรีจากประจวบคีรีขันธ์ คลุกเคล้าทุกอย่างให้เข้ากันแล้วบีบมะนาวเพื่อเพิ่มรสชาติ อร่อยอย่าบอกใคร
ตบท้ายด้วยของหวาน แนะนำไฮไลต์ประจำร้านอย่าง Key Lime Pie (180 บาท) ที่ใช้มะนาวแป้นจากป่าละอู กับใบมะกรูดจากภูชี้ฟ้าเป็นส่วนผสมหลัก ส่วนเมอแรงก์และครัสต์มะพร้าวจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว หากได้ลองชิมแล้วจะได้ฟีลเหมือนกินขนมเบื้อง
ของหวานอีกเมนูที่ห้ามพลาด คือ Homeland Hotcakes (290 บาท) แพนเค้กร้อนๆ ราดซอสเนยมะม่วงหิมพานต์กับกล้วยน้ำว้าตุ๋น แล้วท็อปด้วยกล้วยน้ำว้าเคลือบน้ำตาลแล้วเบิร์นไฟอ่อนๆ ใครชอบกินกล้วยนี่คือสวรรค์รำไร
Good for
อีกหนึ่งทางเลือกแฮงเอาต์สำหรับผู้ที่ใส่ใจกับประเด็นการพัฒนาสังคมและความยั่งยืน เพื่อนบ้านชาวทองหล่อ-เอกมัยที่หาของชำทำครัวเข้าบ้าน เหล่าทาสแมวหรือหมาที่กำลังหาร้านนั่งเล่น Pet Friendly และสำหรับทุกคนที่อยากกินอะไรอร่อยๆ
Homeland Cafe & Grocer
Open: ทุกวันจันทร์-วันพฤหัสบดี 08.00-18.00 น., วันศุกร์-วันอาทิตย์ 08.00-19.00 น.
Address: 263 ซอยทองหล่อ 13
Tel: 09 5732 1119
Budget: 500-1,000 บาท
Website: https://homelandgrocer.com/
Map:
