วานนี้ (28 กรกฎาคม) ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ช่วงค่ำวานนี้รัฐบาลได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้จัดงานสโมสรสันนิบาตเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2566 ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล
เวลา 18.50 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดี สิริกิจการิณีพีรยพัฒน รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินถึงทำเนียบรัฐบาล กองทหารเกียรติยศถวายความเคารพ ดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี
นายกรัฐมนตรีถวายความเคารพแล้วกราบบังคมทูลรายงานรับเสด็จ ภริยานายกรัฐมนตรีทูลเกล้าฯ ถวายพวงมาลัย เสร็จแล้วนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกราบบังคมทูลเชิญเสด็จฯ ไปยังที่ประทับ ณ โถงกลาง ตึกสันติไมตรี เสด็จเข้าสู่โถงกลาง ตึกสันติไมตรี วงมหิดลซิมโฟนีออร์เคสตราบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี
นายกรัฐมนตรีกราบบังคมทูลถวายพระพรชัยมงคล ความว่า “ขอพระราชทานกราบบังคมทูลทรงทราบฝ่าละอองพระบาท เนื่องในศุภมงคลวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เวียนมาบรรจบอีกวาระหนึ่ง ข้าพระพุทธเจ้า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในนามของคณะรัฐมนตรี คณะทูตานุทูต ข้าราชการ และพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า มีความปลื้มปีติเป็นล้นพ้น ที่ใต้ฝ่าละอองพระบาททรงพระกรุณาเสด็จพระราชดำเนินมาในงานสโมสรสันนิบาต ที่รัฐบาลได้จัดขึ้นเพื่อร่วมกันแสดงความจงรักภักดี และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวันนี้
“ปวงข้าพระพุทธเจ้าต่างประจักษ์แจ้งในน้ำพระราชหฤทัยอันเปี่ยมด้วยพระเมตตาและพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงปฏิบัติบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนับเป็นอเนกประการ เพื่อสร้างความวัฒนาสถาพรแก่ราชอาณาจักร ทั้งพระราชทานความช่วยเหลือแก่อาณาราษฎรทุกแห่งหน เพื่อขจัดปัดเป่าความทุกข์ร้อน และเกื้อหนุนปวงประชาใต้ร่มพระบรมโพธิสมภารให้ได้พำนักอาศัยด้วยความผาสุกร่มเย็น พระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระเกียรติคุณอันแผ่ไพศาล ได้สถิตอยู่ในดวงใจของพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า
“ในโอกาสอันเป็นมงคลยิ่งนี้ ปวงข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทานพระราชานุญาต ขอตั้งจิตอธิษฐานร่วมกันถวายพระพรชัยมงคล ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยและพลานุภาพแห่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากล อีกทั้งพระบรมเดชานุภาพแห่งสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้าทุกพระองค์ โปรดอภิบาลประทานพรให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ทรงพระเจริญด้วยจตุรพิธพรชัย ทรงพระเกษมสำราญ พระบรมเดชานุภาพและพระบารมีแผ่ไพศาล มีพระราชประสงค์จำนงหมายสิ่งใดขอจงสฤษดิ์ดั่งพระราชหฤทัยปรารถนา สถิตเป็นมิ่งขวัญปกเกล้าเหล่าพสกนิกรชาวไทยตราบจิรัฐิติกาล ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม” วงมหิดลซิมโฟนีออร์เคสตราบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี เมื่อจบแล้ว นายกรัฐมนตรีกล่าว “ทรงพระเจริญ” 3 ครั้ง
จากนั้นนายกรัฐมนตรีเข้าเฝ้าฯ ทูลเกล้าฯ ถวายสูจิบัตรแด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดี สิริกิจการิณีพีรยพัฒน รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี
โอกาสนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดี สิริกิจการิณีพีรยพัฒน รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี ทอดพระเนตรการแสดงเฉลิมพระเกียรติชุด ‘เทวฤทธิ์ประสิทธิ์พร’ โดยสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ กระทรวงวัฒนธรรม และการขับร้องเพลง ‘สดุดีจอมราชา’ โดยวงมหิดลซิมโฟนีออร์เคสตรา จากนั้นเสด็จลงจากที่ประทับ ทรงพระดำเนินผ่านแถวผู้มีเกียรติที่มาเฝ้าฯ เสด็จออกจากตึกสันติไมตรี นายกรัฐมนตรีและภริยา และเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ส่งเสด็จ ณ รถยนต์พระที่นั่ง
สำหรับการจัดงานครั้งนี้ รัฐบาลได้เชิญผู้ร่วมงานทั้งฝ่ายไทยและฝ่ายต่างประเทศเช่นที่เคยเชิญในงานสโมสรสันนิบาตเฉลิมพระเกียรติฯ โดยเชิญผู้ได้รับเชิญพร้อมคู่สมรสจำนวนทั้งหมดประมาณ 1,888 คู่ ประกอบด้วย พระราชวงศ์ชั้นหม่อมเจ้าขึ้นไป, ประธานองคมนตรี, องคมนตรี, เลขาธิการองคมนตรี, ข้าราชการในพระองค์ชั้นผู้ใหญ่, ประธาน-รองประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญ, หัวหน้าส่วนราชการองค์กรตามรัฐธรรมนูญ, อดีตนายกรัฐมนตรี, คณะรัฐมนตรี, สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร, สมาชิกวุฒิสภา และเลขาธิการวุฒิสภา, หัวหน้า-รองหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า, ข้าราชการพลเรือน ระดับอธิบดี/เทียบเท่าขึ้นไป, ข้าราชการทหาร, ข้าราชการตำรวจ (ระดับเจ้ากรม-ผู้บัญชาการระดับอัตราพลเอกขึ้นไป), ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร, รองผู้ว่า กทม., ประธานสภา กทม., รองประธานสภา กทม., ปลัด กทม., รองปลัด กทม., หัวหน้าส่วนราชการไม่สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี ขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรี, หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชนภายใต้การกำกับของสำนักนายกรัฐมนตรี, หน่วยงานอิสระภายใต้การกำกับของสำนักนายกรัฐมนตรี, เอกอัครราชทูตต่างประเทศประจำประเทศไทย, เอกอัครราชทูตต่างประเทศประจำประเทศไทยซึ่งมีถิ่นพำนักในต่างประเทศ, กงสุลกิตติมศักดิ์ต่างประเทศประจำประเทศไทย, กงสุลอาชีพ, ผู้แทนสหประชาชาติในประเทศไทย, ข้าราชการการเมืองในสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี, ผู้บริหารสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี, ประธาน-เลขาธิการองค์กรอิสระ, หัวหน้า-รองหัวหน้าหน่วยงานของรัฐที่ไม่เป็นส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจ, ประธานสภา-สมาคมต่างๆ, ประธานมูลนิธิ (ในพระบรมราชูปถัมภ์), ผู้สื่อข่าวและบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ (สื่อมวลชนและสื่อมวลชนต่างประเทศที่ประจำประเทศไทย) และภาคีเครือข่ายภาคเอกชน