6 มนต์เสน่ห์ที่แตกต่างทั่วมุมเมืองอยุธยา ครบเครื่องทั้งประวัติศาสตร์ สถานที่หย่อนใจ เหลาในบึง และกุ้งแม่น้ำตัวเบ้ง! [Advertorial]

สิ่งหนึ่งที่ทำให้ ‘พระนครศรีอยุธยา’ ไม่เคยเปลี่ยนไปเลยนั่นคือมนต์เสน่ห์ของเมืองเก่าที่ดึงดูดให้เรามีความรู้สึกร่วมไปกับสถานที่ และประวัติศาสตร์อย่างเหลือเชื่อ เมื่อได้เห็นร่องรอยอารยธรรมของจริงที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า ไหนจะวัดเก่า ไหนจะวังเก่าที่ล้วนแล้วแต่น่าชื่นชม ซึ่งยังไม่รวมความโดดเด่นในเรื่องของอาหารการกินที่เหมาะจะให้อยุธยาเป็นจุดหมายของการออกเดินทางพักผ่อนในวันหยุดสบายๆ กับครอบครัว

 

ด้วยความไม่ใกล้ไม่ไกลจนเกินไปจากกรุงเทพฯ แถมยังมีแหล่งแฮงเอาต์ที่ตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ได้ถ้วนทั่วทุกวัย และยิ่งตอนนี้ความฮอตของท่านขุนเดช และแม่นางการะเกดจากละครวาระแห่งชาติ บุพเพสันนิวาส ก็ยิ่งทำให้อยุธยามีชีวิตชีวามากขึ้นไปอีกจากเหล่านักเดินทางที่แวะเวียนมาตามรอยก็ดี เซลฟีก็ดี – แล้วไยออเจ้าจะไม่มาเยือนอยุธยาสักคราเล่า?

 

ครั้งนี้ THE STANDARD นึกสนุกชวนเพื่อนๆ ไปขับรถเชฟโรเลต เทรลเบลเซอร์ ในวันชิลล์ๆ สำรวจและปักหมุดพิกัดน่าเที่ยวของอยุธยา ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นจังหวัดที่ฮอตที่สุดในเพลานี้ ทั้งเรื่องกิน เรื่องดื่ม ไหนจะเรื่องประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจอีก ไอ้เรื่องอินละครก็ส่วนหนึ่ง แต่ถึงคุณจะไม่ใช่คอละคร คุณก็อาจจะหลงรักเมืองนี้ได้ไม่ยาก!

 

 

เรื่องขับขี่ปลอดภัยต้องมาก่อน

ถึงแม้อยุธยาจะไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก แต่ความปลอดภัยในการขับขี่ก็ย่อมต้องมาก่อนเสมอ ดังนั้นหากคุณขับรถออกต่างจังหวัดครั้งแรก อยุธยาเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจด้วยระยะทางที่ไม่ไกลนัก ถนนหนทางขับขี่สบาย โดยเฉพาะครั้งนี้เราโดยสารไปกับเชฟโรเลต เทรลเบลเซอร์ ที่มีระบบความปลอดภัยชั้นเลิศ เรายิ่งคลายกังวลไปได้มาก เพราะตัวรถมีตั้งแต่ระบบการแจ้งเตือนหากคุณขับรถออกนอกเลน (Lane Departure Warning) หรือไม่เปิดสัญญาณไฟเลี้ยวขณะขับออกจากเลนอย่างกะทันหันในความเร็วเกิน 60 กม./ชม. รถจะส่งสัญญาณภาพและเสียงเตือนทันที

 

 

หรือหากคุณขับเข้าใกล้คันข้างหน้ามากเกินไปในระยะความเร็ว 40 กม./ชม. ระบบแจ้งเตือนการชนด้านหน้า (Forward Collision Alert) ของรถก็แจ้งสัญญาณเตือนทันที เพื่อเรียกสติและความปลอดภัยของคุณในทันใดก่อนจะเผลอไปสัมผัสรถคันข้างหน้าอย่างไม่ตั้งใจ

 

เมื่อเราขับขี่อย่างปลอดภัยแล้ว ไม่ว่าจะตะลุยไปแหล่งแฮงเอาต์ไหนก็เป็นเรื่องง่าย ปลอดภัยหายห่วง! และนี่คือ 6 หมุดหมายที่เราอยากให้คุณไปสำรวจทั่วตัวเมืองอยุธยา – เตรียมตัวให้พร้อม!

 

 

หลากหลายอาหารสดและ ‘กุ้งแม่น้ำ’ ที่พลาดไม่ได้

ทุกครอบครัวจะต้องมีแม่ครัวหรือพ่อครัวรสมือดีประจำบ้าน และแน่นอนว่าสิ่งที่เขาหรือเธอจะชื่นชอบเป็นพิเศษคือการเลือกซื้อของสดเพื่อนำไปประกอบอาหาร เราจึงไม่อยากให้คุณพลาด ‘ตลาดกลางเพื่อเกษตรกรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา’ ตลาดที่รวบรวมผู้ค้าท้องถิ่นไว้มากมาย รวมไปถึงของขึ้นชื่อเมื่อนึกถึงอยุธยาอย่าง ‘กุ้งแม่น้ำ’ ก็มีให้เลือกหลากไซส์หลากราคาตามกำลังทรัพย์ หากคุณยังจำความน้ำลายสอจากฉากในละครบุพเพสันนิวาสที่แม่นางการะเกดสั่งเจ้าเด็กๆ ลูกบ่าวไพร่งมกุ้งและซี๊ดปากไปกับความ ‘แสบ’ ของน้ำจิ้มซีฟู้ดได้ หรือเห็นภาพกุ้งแม่น้ำตัวเบ้งๆ พร้อมมันกุ้งสีส้มสดประหนึ่งใส่ฟิลเตอร์ในอินสตาแกรมของเพื่อนคุณ คุณต้องไม่รีรอที่จะสั่งกุ้งแม่น้ำสักโลแล้วให้ร้านค้าในตลาดเผาให้สุกเสร็จสรรพ หรือจะซื้อกลับไปทำที่บ้านก็ไม่ว่ากัน และนอกจากกุ้งแม่น้ำแล้ว ที่นี่ยังมีทั้งหอยหวาน หอยขม ปลา ปลาหมึก และอาหารชนิดอื่นๆ ให้คุณเลือกอีกเพียบ

 

 

In Case You Didn’t Know

การเดินทางมาตลาดกลางนั้นสะดวกมาก เพราะตั้งอยู่ติดกับถนนสายเอเชีย ทางหลวงหมายเลข 32 ไม่ต้องกลัวหลง แต่เรื่องหนึ่งที่อาจจะต้องระแวดระวังไว้สักนิดคือที่จอดรถของที่นี่ค่อนข้างจะแน่นตลอดเวลาและทางเดินรถค่อนข้างแคบ ขยับซ้ายขยับขวาเดินหน้าถอยหลังก็ต้องระมัดระวังสักหน่อย เดี๋ยวจะมีแผล – จ้องกล้องท้ายรถดีๆ ล่ะ!

 

ระบบจอแสดงผลขณะเข้าเกียร์ R ของเชฟโรเลต เทรลเบลเซอร์

เป็นระบบ Rear Cross-Traffic Alert แสดงมุมมองที่กว้างกว่า มั่นใจ 180 องศาไม่พลาด

สะดวกสบายด้วยเส้นกะระยะทุกครั้งที่ถอยเข้า-ออกจากที่จอดรถ

 

ตลาดกลางเพื่อเกษตรกรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

Open: เปิดให้บริการทุกวัน 24 ชั่วโมง

Maps: 

 

 

ชิมรสชาติร่วมสมัยที่ดัดแปลงจากของท้องถิ่น

ถ้าพูดถึงกุ้งแม่น้ำแล้วคิดถึงอยุธยา อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นเสมือนตัวแทนประจำจังหวัดที่ทุกคนต่างชื่นชอบก็คงหนีไม่พ้น ‘โรตีสายไหม’ ซึ่งโดยปกติแล้วตลาดใหญ่ในการค้าขายสายไหม ทั้งเจ้าดังแต่ไม่อร่อย หรือเจ้าไม่ดังแต่อร่อยก็ตาม จะขายกันอย่างคึกคักอยู่บริเวณหน้าโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา คุณลองจอดรถแล้วเดินเลือกซื้อ เลือกชิมรสชาติของแต่ละร้านสักหน่อยก็ไม่เสียหาย

 

แต่ถ้าคุณคาดหวังว่าขนมหวานสีสวยเหล่านั้นจะสามารถมอบประสบการณ์ทางรสชาติใหม่ๆ ให้คุณ เราไม่อยากให้คุณพลาดร้าน ‘Busaba Cafe & Meal’ ที่นำวัตถุดิบท้องถิ่นอย่างสายไหม และเทคนิคการทำอาหารแบบไทยๆ มาดัดแปลง แต่งเติม เพื่อเสริมรสชาติให้เมนูคุ้นเคยในคาเฟ่ทั่วไปมีระดับขึ้นมาอีก

 

 

เริ่มต้นจาก ‘บุษบาลาเต้ร้อน’ ถ้าคุณคุ้นเคยความมันและความหวานจากนมในลาเต้แก้วโปรด คุณต้องได้ลองแก้วนี้กับซิกเนเจอร์ดริงก์ของทางร้านนี้สักครั้ง เพราะเขาเลือกใช้สายไหมมาท็อปปิ้งด้านบนฟองนม และใช้น้ำตาลมะพร้าวแทนความหวานดั้งเดิม ลาเต้ร้อนที่คุ้นเคยก็มอบสัมผัสใหม่ได้อย่างเหลือเชื่อ รวมถึง ‘กาแฟเย็นอบควันเทียน’ โดดเด่นด้วยความหอมทั้งกาแฟและควันเทียนซึ่งเป็นไซรัปเฉพาะของทางร้าน

 

 

ทางด้านของคาวก็น่าสนใจไม่แพ้กัน โดยเฉพาะเมนู ‘ไข่กระทะเนื้อเค็มผัดพริก’ ไข่กระทะซูเฟล่ที่ตีไข่ขาวจนฟูฟ่อง เคียงมากับเนื้อเค็มชิ้นพอดีคำ และมันฝรั่ง ถูกปากแบบเผ็ดกำลังดี

 

 

In Case You Didn’t Know:

ด้วยความสำเร็จของร้าน Busaba Craft Design Cafe สาขาแรกที่ตั้งอยู่บริเวณตรงข้ามวัดมหาธาตุ จึงก่อให้เกิดร้านสาขาใหม่นี้ขึ้นมา โดยเป็นสาขาแรกที่แบรนด์ (Busaba) เสิร์ฟอาหารคาว ซึ่งเน้นการนำเอาวัตถุดิบไทยที่หาได้ในท้องถิ่นมาดัดแปลง และใส่เข้าไปในเมนูที่คุณคุ้นเคยได้อย่างไม่ประดักประเดิดและสร้างสรรค์ นอกจากนี้ในร้านยังมีของกระจุกกระจิกน่ารักๆ จากแบรนด์ท้องถิ่นให้คุณได้เลือกชมอีกด้วย เพราะฉะนั้นจำไว้ว่าหากอยากจิบกาแฟและชมวิววัด ไป Busaba Craft Design Cafe แต่ถ้าอยากทานอาหารคาวต้องมุ่งหน้าไปที่ Busaba Cafe & Meal – อย่าจำสลับกัน!

 

ที่สำคัญถนนอู่ทองอันเป็นสถานที่ตั้งของร้าน Busaba Cafe & Meal เป็นถนนสองเลนสวนกันและค่อนข้างแคบ สิ่งหนึ่งที่คนขับรถพะว้าพะวังที่สุดคงจะเป็นการมองไม่เห็นจุดอับขณะขับรถ กลัวจะมีจักรยานหรือมอเตอร์ไซค์ที่มองไม่เห็นขับตามมา แต่ทันทีที่คุณเปิดไฟเลี้ยว เรดาร์ของระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตา (Side Blind Zone Alert) จะตรวจจับยานพาหนะในบริเวณจุดอับสายตาทันที และหากตรวจพบเชฟโรเลต เทรลเบลเซอร์ ก็จะแสดงสัญญาณไฟแบบ LED บนกระจกมองข้างโดยอัตโนมัติ

 

Busaba Cafe & Meal

Open: เปิดให้บริการทุกวัน 10.00-21.00 น. (ปิดวันพุธ)

Address: ถนนอู่ทอง ตำบลท่าวาสุกรี อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 13000

Budget: 70-250 บาท

Contact: 08 1751 1703

Page: www.facebook.com/BusabaCafeMeal

Map: 

 

 

 

ย้อนรอยประวัติศาสตร์และตามรอยละคร ครบจบที่เดียว

หากคุณเป็นคนชื่นชอบสาระทางด้านประวัติศาสตร์ หรืออินกับคุณพี่หมื่นและแม่การะเกดจนอยากจะตามรอยละคร ที่ ‘พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเจ้าสามพระยา’ สามารถให้คุณได้ทำกิจกรรมเหล่านั้นครบจบที่เดียว เพราะพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ถือเป็นพิพิธภัณฑ์ที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในจังหวัดอยุธยา โดยชื่อ ‘เจ้าสามพระยา’ นั้นเป็นการอัญเชิญพระนามของ สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 แห่งกรุงศรีอยุธยา มาตั้งเป็นชื่อพิพิธภัณฑ์ เนื่องจากพระองค์ทรงเป็นผู้ก่อสร้างพระปรางค์วัดราชบูรณะ อันเป็นโบราณสถานที่สำคัญซึ่งภายในพิพิธภัณฑ์ยังจัดแสดงโบราณวัตถุที่พบในกรุของวัดดังกล่าวไว้มากมายอีกด้วย

 

 

โบราณวัตถุน่าสนใจในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้มีมากมาย อาทิ พระพุทธรูปจากต่างสมัยซึ่งรวบรวมมาตั้งแต่ยุคทวารวดี เรื่อยมาจนถึงยุคลพบุรีและอยุธยา เพื่อแสดงให้เห็นถึงวิวัฒนาการของรูปแบบศิลปะที่เปลี่ยนไปในแต่ละสมัย ซึ่งได้รับอิทธิพลสืบต่อกันมาอย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังจัดแสดงเครื่องไม้จำหลักฝีมือช่างสมัยอยุธยา ซึ่งนับเป็นงานประณีตศิลป์ที่มีความวิจิตรบรรจงที่สมบูรณ์แบบที่สุดชิ้นหนึ่ง ซึ่งก็คือบานประตูซุ้มคูหาพระสถูปวัดพระศรีสรรเพชญ์

 

 

In Case You Didn’t Know:

ใครที่เป็นแฟนละคร ที่นี่เป็นสถานที่ถ่ายทำฉากห้องเรียนของเกศสุรางค์และผองเพื่อน พร้อมทั้งยังมี ‘เครื่องกรองน้ำโบราณ’ ของจริงในคุณได้ถ่ายรูปและเรียนรู้ประวัติศาสตร์ไปพร้อมๆ กันอีกด้วย เหมาะจะพาลูกๆ หลานๆ หรือครอบครัวได้มาใช้เวลาร่วมกันชมอดีตอันรุ่งเรืองของกรุงศรีอยุธยาผ่านเรื่องราวและวัตถุที่จัดแสดง

 

ไม่ต้องห่วงว่าจะไปเที่ยวกันไม่พร้อมหน้า เพราะเชฟโรเลต เทรลเบลเซอร์

สามารถโดยสารได้ 7 ที่นั่งให้คุณไปสนุกด้วยกันทั้งครอบครัว

พร้อมทั้งยังมีช่องลมแอร์ในทุกๆ แถวเก้าอี้ รับแอร์เย็นๆ อย่างทั่วถึงทุกที่นั่งแน่นอน

 

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา

Open: เปิดให้บริการทุกวัน 9.00-16.00 น.

Address: 108 ถนนโรจนะ ตำบลประตูชัย อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 10300

Budget: ประชาชนทั่วไป 10 บาท ชาวต่างชาติ 30 บาท นักเรียนและนักศึกษาในเครื่องแบบไม่เก็บค่าเข้าชม

Contact: 0 3524 4570

Map: 

 

 

 

ถึงรสขนมไทยแบบโบราณแท้ๆ

มาอยุธยาทั้งที คุณก็ควรจะต้องลองชิมขนมไทยโบราณ รสชาติประหนึ่งแม่มารี กีมาร์มานั่งทำให้ทานอยู่ตรงหน้าที่ร้าน ‘บ้านข้าวหนม’ คาเฟ่ขนมหวานไซส์กระจิริดที่เต็มไปด้วยขนมไทยหลากหลายชนิด และถ้าให้ลองไล่เรียงดูขนมในร้านก็มีตั้งแต่ ขนมชั้น ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ช่อม่วง จ่ามงกุฎ เม็ดขนุน มะพร้าวแก้ว ขนมตาล ขนมถ้วย และอื่นๆ อีกมากมายละลานตา และไม่ใช่แค่ความหลากหลายของชนิดขนมเท่านั้น เพราะว่าเจ้าของร้านยังเป็นคนเลือกขนมมาจากคนทำขนมในท้องถิ่นบางส่วนเพื่อเป็นการกระจายรายได้อีกด้วย

 

 

ไม่ใช่แค่ขนมที่น่าทาน เพราะเครื่องดื่มเขาก็น่าสนใจใช่ย่อย ทั้งแก้วซิกเนเจอร์ ‘ชุบชูใจ’ นมเย็นสีชมพูสวยนอนตัวด้านล่างแก้วโดยมีนมอัญชันสีม่วงฟ้านอนทับอยู่ด้านบน นอกจากจะสีสวยแล้ว รสชาติก็หวานกำลังดีไม่เลี่ยนปาก นอกจากนี้เรายังอยากให้คุณได้ลอง ‘ชาเขียวหลงยุค’ ชาเชียวรสเข้มหนัก เติมความหวานจากน้ำตาลอ้อย เพิ่มดีเทลให้คุณได้มีอะไรให้เคี้ยวหวานๆ เพลินๆ

 

 

บ้านข้าวหนม

Open: เปิดให้บริการทุกวัน 8.00-18.00 น. (วันเสาร์และวันอาทิตย์ให้บริการถึง 19.00 น.)

Address: ถนนอู่ทอง ตำบลประตูชัย อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 10300

Budget: 50-150 บาท

Contact: 09 7921 9465

Page: goo.gl/Tb52Pm

Map: 

 

 

 

รสชาติภัตตาคาร หาได้ข้างทาง

คุณคงเคยเห็นข่าวที่ว่าด้วยเรื่องของอดีตเชฟไทยจากร้านอาหารมิชลินสตาร์ในยุโรป ผันตัวมาเปิดร้านอาหารข้างทางผ่านตาคุณไปบ้างในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา และข่าวดังกล่าวก็ชี้เชิญให้เราอยากจะลิ้มรสมือเชฟสักหน่อย ซึ่งร้าน ‘เหลาในบึง’ ของเชฟวิทย์-วรวิทย์ สุมานาท นั้นตั้งอยู่ภายในบริเวณบึงพระราม ละแวกตลาดต้นไม้ จอดรถแล้วเดินเท้าเข้ามาด้านใน คุณจะเจอร้านอาหารข้างทางง่ายๆ ใต้สแลนบังแดดและศาลาขนาดพอเหมาะต้อนรับคุณอยู่

 

 

เมนูของเชฟวิทย์มีไม่มากนัก แต่เรียกได้ว่าน่าสนใจทุกเมนู ด้วยหน้าตาของอาหารที่ธรรมดาแต่ให้ปริมาณเยอะ ใช้วัตถุดิบสดใหม่ และราคาที่เหมาะสม จึงทำให้เราอยากจะสั่งทุกอย่างมาลองชิมให้หมด! ของเด็ดที่เราอยากให้คุณชิมคือ ‘หมูกรอบ ซอส XO’ หมูสามชั้นชิ้นเบิ้มหมักกับสมุนไพรลับหกชนิด จิ้มกับซอสรสเข้มคล้ายๆ ซอสบาร์บีคิว ให้รสสัมผัสที่กรอบและนุ่มในที เป็นรสชาติที่น่าจดจำ ส่วนอาหารจานหลักอย่าง ‘ผัดไทย Full-Option’ เองก็เป็นผัดไทยที่ครบเครื่อง เส้นเหนียวนุ่มรสชาติดีและเครื่องเยอะมาก ทั้งหมูกรอบ หมูแดง ส่วนถ้าใครไม่อินกับอาหารทะเล เชฟวิทย์พร้อมเสิร์ฟ ‘เนื้อผัดใบยี่หร่า’ ที่กลิ่นหอมหวนเย้ายวนเสียจนลืมความเผ็ดซ่าพร่าลิ้นในปากไป แต่จานที่เรารักมากที่สุดคงจะเป็น ‘ข้าวผัดกุ้งมันกุ้ง’ ความดีงามของมันกุ้งและกุ้งไซส์พอดีคำคลุกเคล้ากัน อร่อยปากมันเชียวล่ะ!

 

In Case You Didn’t Know:

ร้านเหลาในบึง อาจจะหายากด้วยที่ตั้งที่ค่อนข้างลึกลับ และต้องใช้ ‘ความอดทน’ ในการรอคิวสักนิด อย่างปกติที่สุดการรอจะอยู่ที่ประมาณ 2-3 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ รอโต๊ะหนึ่งชั่วโมง รออาหารอีกชั่วโมง และหากคุณวอล์กอินเข้าไปที่ร้าน ต้องกะเวลาดีๆ เพราะว่าเชฟจะปิดรับคิวราวเที่ยงๆ บ่ายๆ เท่านั้น หรือทางที่ดีควรจะโทรไปจองคิวแต่รุ่งเช้าจะได้ไม่พลาดรสชาติภัตตาคารที่อยากให้คุณได้ลองสักครั้ง (เชฟบอกว่าโทรจองได้ตั้งแต่ตีห้าครึ่ง)

 

เชฟโรเลต เทรลเบลเซอร์ มีระบบ Chevrolet MyLink เชื่อมต่อการสื่อสาร

และความบันเทิงแบบจัดเต็ม ซึ่งคุณสามารถเชื่อมต่อจากสมาร์ทโฟนสู่หน้าจอสัมผัสได้อย่างง่ายดาย

 

 

ใช้งานง่ายเพราะ Chevrolet MyLink รองรับภาษาไทย ทั้งยังสั่งงานได้ด้วยเสียง โทรออกและรับสายจากพวงมาลัย และยังมีระบบนำทาง ไม่ต้องกลัวหลง สะดวกสบายและปลอดภัย

 

เหลาในบึง

Open: เปิดให้บริการทุกวัน 7.30-15.00 น.

Address: ตลาดต้นไม้บึงพระราม ตำบลประตูชัย อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 10300

Budget: 100-450 บาท

Contact: 08 7455 3252

Map: 

 

 

 

หย่อนใจในเขตเมืองเก่า

เมื่อพระอาทิตย์เริ่มเหนื่อยและอยากลาลับขอบฟ้า คือเวลาอันแสนรื่นรมย์ของการเดินหย่อนใจในโบราณสถาน สำหรับคนที่ไม่ค่อยชอบแดดแรงและขี้เกียจทาครีมกันแดด เราขอแนะนำให้คุณขับรถวน ‘สวนสาธารณะพระราม’ ที่เต็มไปด้วยโบราณสถานรายล้อมและต้นไม้ใหญ่ โดยเริ่มต้นจากถนนชีกุน ผ่านหน้าวัดมหาธาตุ ตรงยาวไปเลี้ยวซ้ายเข้าถนนอู่ทองผ่านโซนพระราชวังเก่า เลี้ยวซ้ายกลับเข้าสู่ถนนคลองท่อ ผ่านเพนียดคล้องช้าง วัดพระศรีสรรเพชญ์ และวนกลับมาสู่สวนสาธารณะพระราม

 

 

In Case You Didn’t Know:

ในช่วงเย็นๆ เรามักจะได้เห็นกิจกรรมหย่อนใจของชาวอยุธยาเองก็ดี หรือนักท่องเที่ยวทั่วไปทั้งไทยเทศที่ออกมาเดินเล่น ปั่นจักรยาน วิ่ง หรือนั่งปิกนิกรับลมโชยอ่อน และถ้าหากคุณเป็นคนชอบอะไรเขียวๆ สดชื่นๆ แถวๆ บึงพระรามเขามีโซนขายต้นไม้ให้คุณไปขนกลับบ้านด้วย

 

พับเบาะเพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระได้ จะขนต้นไม้ จะบรรทุกจักรยานไปด้วยก็หายห่วง

หรืออยากจะยัดโต๊ะปิกนิกพับได้ก็แล้วแต่ความสามารถของคุณ!

 

Maps: