เมื่อคืนวันที่ 26 กรกฎาคม ตามเวลาประเทศไทย สภาคองเกรสได้เปิดการไต่สวนแบบสาธารณะเกี่ยวกับปรากฏการณ์ผิดปกติที่ไม่สามารถระบุได้ หรือ UAP (Unidentified Anomalous Phenomena) หรือ UFO (Unidentified Flying Object) ตามที่ใช้กันแพร่หลายในสาธารณะ ที่มีผลต่อความมั่นคงของประเทศ ความปลอดภัยของสาธารณะ และความโปร่งใสของรัฐบาล
นี่คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ไม่ได้หลุดมาจากฉากในภาพยนตร์ไซไฟ และแน่นอนว่าการไต่สวนดังกล่าวย่อมได้รับความสนใจจากสาธารณะเป็นอย่างสูง โดยเฉพาะความสงสัยที่ว่าทางรัฐบาลมียานของ ‘เอเลี่ยน’ อยู่ในครอบครองจริงหรือไม่ เนื่องจาก เดวิด กรัสช์ อดีตเจ้าหน้าที่ข่าวกรองผู้ออกมาเปิดโปงเรื่องราวดังกล่าวได้ถูกเชิญมาเป็นพยานผู้ให้การในวันนี้
นอกจากนี้ ยังมี ไรอัน เกรฟส์ และ เดวิด เฟรเวอร์ สองอดีตนักบินกองทัพเรือผู้อ้างว่าตนเองได้เคยพบเจอ UAP ในระหว่างการฝึกบิน ขึ้นให้การต่อหน้าสมาชิกสภาคองเกรส โดยเป็นการไต่สวนครั้งแรก หลังจากเมื่อช่วงปลายเดือนพฤษภาคม 2023 NASA ได้จัดประชุมแบบสาธารณะเพื่อเปิดเผยผลการศึกษา UAP จากคณะผู้เชี่ยวชาญเป็นครั้งแรก
สำหรับผู้ที่คาดหวังถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสิ่งมีชีวิตนอกโลก หรือเอเลี่ยนตัวเขียวแบบที่คุ้นตาผ่านภาพยนตร์ต่างๆ อาจต้องผิดหวัง เนื่องจากไม่มีการเปิดเผยข้อมูลใหม่เกี่ยวกับชีวิตจากต่างดาวในการให้การครั้งนี้ แต่มีการพูดถึงความพยายามในการปกปิดข้อมูลจากรัฐบาลสหรัฐอเมริกา เช่น การเก็บกู้ซากของ UAP และพยายามทำวิศวกรรมย้อนรอยมานานหลายทศวรรษ เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับวัตถุปริศนาดังกล่าว
ส.ส. เวอร์จิเนีย ฟ็อกซ์ หนึ่งในคณะกรรมาธิการ ได้สอบถามกรัสช์ว่าการกล่าวรายงานของ ฌอน เคิร์กแพทริค ผู้อำนวยการ AARO ของเพนตากอน ผู้ระบุว่ารัฐบาลสหรัฐฯ ไม่มีหลักฐานของชีวิตทรงภูมิจากต่างดาวว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ก่อนที่เจ้าตัวจะตอบกลับว่า “นั่นไม่เป็นความจริง” พร้อมกับระบุเพิ่มเติมในการตอบคำถามอื่นว่าสหรัฐฯ เคยมีความพยายามในการบิดเบือนความจริงเกี่ยวกับการมีอยู่ของ UAP แต่ไม่ได้ระบุเพิ่มเติมจากสิ่งที่เขาได้เคยแถลงออกสู่สาธารณะไปก่อนหน้านี้
ด้านเกรฟส์กล่าวต่อคณะกรรมาธิการว่าการพบเห็น UAP ไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับนักบินในกองทัพและพลเรือน ส่วนเฟรเวอร์ได้เห็นด้วยกับคำถามที่ว่า UAP อาจเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ โดยระบุว่า “เทคโนโลยีที่เราพบเห็นนั้นก้าวล้ำไปกว่าทุกสิ่งที่พวกเรามี” และอ้างว่ามีความเป็นไปได้ที่ UAP เหล่านี้มีความสนใจในสหรัฐฯ เนื่องจากความสามารถทางนิวเคลียร์ และต้องการทดสอบช่องโหว่ในระบบป้องกันทางอากาศของประเทศ
อย่างไรก็ตาม กรัสช์ถูกเพ่งเล็งจากการให้การที่ไม่มีการลงรายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูลต่างๆ ของ UAP อย่างที่เจ้าตัวเคยให้สัมภาษณ์กับสื่อไปก่อนหน้านี้ โดยอ้างเหตุผลด้านความมั่นคงของประเทศ แต่หลายฝ่ายมองว่าเพราะนี่คือการขึ้นให้การภายใต้คำสาบานต่อสภาคองเกรส ที่การให้ความเท็จอาจนำไปสู่การจับกุมได้
ในเวลาเดียวกัน เพนตากอนได้ออกมาปฏิเสธข่าวลือที่อ้างถึงความพยายามปกปิดข้อมูล โดยโฆษกกระทรวงกลาโหมได้แถลงว่า “ไม่มีข้อมูลที่มีความเชื่อถือสามารถสนับสนุนการอ้างถึงวัตถุจากนอกโลก หรือความพยายามในการทำวิศวกรรมย้อนรอย ทั้งในอดีตและปัจจุบัน”
ด้าน ส.ส. โรเบิร์ต การ์เซีย ได้เน้นย้ำถึงการต้องใช้วิทยาศาสตร์มาช่วยหาคำตอบเกี่ยวกับเรื่องของ UAP โดยระบุว่า “ผมเชื่อในการตามรอยข้อเท็จจริง และเน้นย้ำการใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์เพื่อนำข้อมูลออกมาให้ได้มากที่สุด ความโปร่งใสเป็นเรื่องสำคัญของรัฐบาล เราอาศัยอยู่ในกาแล็กซีที่กว้างใหญ่และเต็มไปด้วยคำถามที่ยังไม่มีคำตอบ”
หลังจากนี้คณะกรรมาธิการได้ระบุว่าจะมีการไต่สวนแบบลับเพิ่มเติม เพื่อนำไปสู่การเปิดเผยข้อมูลบางส่วนที่ไม่อาจระบุได้ต่อสาธารณะ ซึ่งความสำคัญจากการไต่สวนครั้งนี้อาจไม่ใช่การค้นพบยานเอเลี่ยนอยู่ใต้ถุนฐานทัพลับของสหรัฐฯ แต่คือการต้องการความน่าเชื่อถือและโปร่งใสจากรัฐบาลสหรัฐฯ เพราะแม้แต่ ส.ส. และ ส.ว. ก็ยังไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลในชั้นความลับของกองทัพได้ ดังเช่นในรายงานข้อมูลการพบ UAP ที่เปิดเผยออกมาก่อนหน้านี้ จนนำไปสู่การไต่สวนขึ้น
ส่วนเรื่องของชีวิตนอกโลกนั้น เรามีความน่าจะเป็นอยู่มากมายจากโอกาสการพบดาวเคราะห์ได้ถึงล้านล้านดวงทั่วเอกภพ แต่จากข้อมูลทั้งหมดที่มีนับจนถึงวินาทีนี้ ยังไม่มีหลักฐานใดบ่งชี้ถึงชีวิตหรือร่องรอยของชีวิตต่างดาว ทั้งในอดีตและปัจจุบัน
ภาพ: Drew Angerer / Getty Images
อ้างอิง: