วันนี้ (22 กรกฎาคม) เมื่อเวลา 14.40 น. ที่ทำการพรรคเพื่อไทย ภายหลังการหารือร่วมกันระหว่างตัวแทนพรรคภูมิใจไทยและพรรคเพื่อไทยในการหาแนวทางแก้ไขปัญหาวิกฤตและหาทางออกของประเทศร่วมกัน รวมถึงแนวทางการเข้าร่วมรัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ
คณะหารือได้ร่วมกันแถลงข่าว นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยต้องขอบคุณหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยและคณะที่ให้เกียรติมาร่วมปรึกษาหารือในวันนี้ ซึ่งวันนี้เป็นการเชิญพรรคภูมิใจไทยมาเพื่อปรึกษาหารือแนวทางที่จะหาทางออกให้ประเทศในการจัดตั้งรัฐบาลให้ได้
สืบเนื่องจาก 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล ภายหลังที่พรรคก้าวไกลได้มอบภารกิจให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล หลังจากที่ประชุมทั้ง 8 พรรคร่วมมีมติร่วมกัน จึงได้ให้เพื่อไทยดำเนินการประสานพูดคุยเพื่อหาเสียงสนับสนุนให้ถึงเป้าหมายในการจัดตั้งรัฐบาล นั่นคือต้องได้เสียงไม่ต่ำกว่า 375 เสียง
พรรคเพื่อไทยเริ่มต้นพูดคุยเพื่อหาคะแนนหาเสียงเพิ่มจากพรรคการเมืองตามที่ที่ประชุมได้ให้แนวทางไว้ โดยเริ่มจากพรรคภูมิใจไทย เพื่อปรึกษาหารือการจัดตั้งรัฐบาล เพราะมีในส่วนรายละเอียดการหารือที่เกิดขึ้นได้พูดคุยว่าเป็นไปได้มากน้อยเพียงใดในการจะทำงานร่วมกัน
ด้านอนุทิน ชาญวีรกูล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ขอบพระคุณหัวหน้าพรรคเพื่อไทยและคณะที่ได้เชิญให้ตนและคณะมาพบในวันนี้ เพื่อหารือแนวทางแก้ปัญหาบ้านเมือง ซึ่งเป็นไปด้วยบรรยากาศที่ดี ตนและคณะเคยอาศัยอยู่อาคารหลังนี้มาก่อน ดีใจ นึกถึงบรรยากาศเก่าๆ นึกถึงความสัมพันธ์ที่ดีมาโดยตลอดในทางตัวบุคคลและในทางพรรค
วันนี้มารับทราบเจตนารมณ์ จุดประสงค์ของพรรคเพื่อไทย ซึ่งตรงกับพรรคภูมิใจไทยข้อหนึ่งคือ อยากให้แก้ปัญหาทางการเมืองโดยเร็วที่สุด อยากให้ประเทศไทยของเรามีรัฐบาลมาบริหารราชการแผ่นดินให้เร็วที่สุด
อนุทินกล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยได้รับทราบเจตนารมณ์นี้ และได้เรียนหัวหน้าและผู้บริหารพรรคเพื่อไทยว่าทางพรรคมีข้อกังวลและข้อจำกัดอย่างไร เพราะพรรคภูมิใจไทยไม่ได้อยู่ในข้อตกลงของ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล ทั้งนี้เจตนารมณ์ที่ได้พูดคุยก็เป็นไปตามที่พรรคภูมิใจไทยได้แถลงไว้ก่อนหน้านี้ทั้งหมด
“เรามีความจำเป็นต้องเรียนให้หัวหน้าพรรคเพื่อไทยทราบว่า ถ้าเราจะเข้ามามีส่วนร่วม คงจะไม่สามารถทำงานได้ถ้าการร่วมงานกันยังมีพรรคก้าวไกล ทั้งนี้ไม่ใช่เรื่องของความขัดแย้ง แต่เป็นเรื่องแนวทางการทำงาน แนวทางความคิด วิธีการทำงาน”อนุทินกล่าว
ซึ่งเรื่องนี้ในลำดับต่อไปท่านคงไปพิจารณาข้อจำกัดของพรรคภูมิใจไทย และจากนี้ถ้ามีอะไรที่พรรคภูมิใจไทยสามารถทำให้ผ่านอุปสรรคไปได้ พรรคภูมิใจไทยก็พร้อมจะให้ความร่วมมือกับพรรคเพื่อไทย ในฐานะที่วันนี้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เพื่อให้ได้ประโยชน์ของประชาชนและประเทศไทยมากที่สุด
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เงื่อนไขของพรรคภูมิใจไทยถ้ามีพรรคก้าวไกลจะไม่สามารถร่วมงานได้ใช่หรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า เรื่องนี้เรามีข้อตกลงใน 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล โดยขั้นตอนหลังจากที่ทำงานกับ 8 พรรคร่วม มีข้อตกลงว่าจะมีการทำงานพูดคุยหาเสียงเพิ่มเติม จากนั้นเมื่อมีคำตอบหรือข้อเสนอใดๆ อย่างพรรคภูมิใจไทยที่ตอบชัดเจนในเงื่อนไขว่าถ้ามีก้าวไกลเป็นพรรคร่วม ก็มีข้อจำกัดที่ไม่สามารถร่วมงานได้
แม้พรรคเพื่อไทยจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล หมายความว่า 312+71 ก็เป็นไปไม่ได้ แต่ในข้อหารือนี้เป็นสิทธิของพรรคเพื่อไทยที่จะทำตามกระบวนการนำคำตอบที่ได้จากการหารือเข้าสู่ที่ประชุม 8 พรรคร่วมต่อไป
นพ.ชลน่านกล่าวต่อว่า เราจะพยายามแสวงหาคำตอบจากทุกพรรคถ้าเป็นไปได้ เพื่อจะบอกกับ 8 พรรคร่วมว่าสิ่งที่เราได้รับ ภารกิจเราได้ดำเนินการแสวงหาและคำตอบเป็นแบบนี้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า หากพรรคก้าวไกลลดเพดานการแก้ไขมาตรา 112 จะสามารถร่วมงานได้หรือไม่ อนุทินกล่าวว่า ตนได้เรียนไปแล้วว่าเรื่องนี้อยู่ที่วิธีการทำงาน เท่าที่เราอยู่ในสภาผู้แทนราษฎรด้วยกันมาก่อน มันมีความแตกต่างกัน ซึ่งเรื่องนี้ได้เรียนมาตลอดว่าพรรคภูมิใจไทยมีข้อจำกัดอย่างไรบ้าง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้การเชิญพรรคการเมืองที่ไม่เห็นด้วยกับแนวทางพรรคก้าวไกลถือเป็นการบอกเลิกทางอ้อมหรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า ตนไม่ได้คิดแบบนั้น แต่การหารือที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของ 8 พรรคร่วมประชุมให้ดำเนินการมา ถ้าตั้งสมมติฐานว่าเป็นการเตรียมบอกเลิกหรือไม่ ตนขอกล่าวว่าเป็นสมมติฐานที่คิดกันไปเอง เราตั้งใจว่าจากนี้จะเชิญเกือบทุกพรรค ยกเว้นบางพรรคที่ไม่อยู่ในเงื่อนไข
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ตอนนี้พรรคประชาธิปัตย์ยังไม่อยู่ในเงื่อนไขใช่หรือไม่ นพ.ชลน่านระบุว่า ใช่ ส่วนพรรคพลังประชารัฐ ทางพรรคเพื่อไทยกำลังหาแนวทางว่าจะพูดคุยกันได้หรือไม่
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้การเชิญพรรคภูมิใจไทยมาถือว่าปิดตำนานความขัดแย้งในอดีตหรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า เรื่องนี้ตนเชื่อว่าไม่มีความขัดแย้งใดๆ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ข้อความคิดเห็นของกัณวีร์ สืบแสง เลขาธิการพรรคเป็นธรรม ที่ระบุว่าให้รออีก 10 เดือนเพื่อโหวตนายกฯ ตั้งรัฐบาล คิดเห็นอย่างไร นพ.ชลน่านกล่าวว่า ต้องขอบคุณในข้อเสนอนั้น แต่การที่เอาประเทศชาติและประชาชนมาเป็นตัวตั้ง ต้องถามประเทศและประชาชนว่าจะสามารถรอได้ 10 เดือนหรือไม่
อนุทินกล่าวเสริมว่า ส่วนนี้จะต้องดูข้อจำกัดของรัฐบาลรักษาการที่มีการระบุไว้ในรัฐธรรมนูญด้วยเช่นกันว่าจะสามารถปฏิบัติได้อย่างไร