หัวหน้าฝ่ายการลงทุนของ Bridgewater Associates หนึ่งในกองทุนเฮดจ์ฟันด์ชั้นนำของโลกเตือนว่า การต่อสู้กับเงินเฟ้อของสหรัฐฯ นั้นยังอีกยาวไกล และเดิมพันว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ในปีหน้านั้นจะเกิดขึ้นก่อนเวลาอันควร
Bob Prince หัวหน้าฝ่ายการลงทุนของ Bridgewater Associates ยังไม่คล้อยตามกับภาวะการพุ่งขึ้นของหุ้นและพันธบัตรทั่วโลก แม้ว่าข้อมูลอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ เดือนมิถุนายน ที่ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปี เหลือเพียง 3% พร้อมกล่าวว่าตลาดกำลังคิดผิดว่า Fed จะผ่อนปรนนโยบายการเงินในเร็วๆ นี้
Prince กล่าวว่า “Fed จะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ย และจะไม่ดำเนินการในสิ่งที่ตลาดเชื่อและสะท้อนอยู่ในราคาไปแล้ว”
การกำหนดราคาในตลาดฟิวเจอร์สบ่งชี้ว่านักลงทุนคาดว่าจะ Fed จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% จากช่วงเป้าหมายปัจจุบันที่ 5% เป็น 5.25% ภายในฤดูใบไม้ร่วง และในอีก 12 เดือนข้างหน้า นักลงทุนเชื่อว่า Fed จะกลับทิศทาง โดยลดต้นทุนการกู้ยืมลง 6 เท่า เหลือประมาณ 3.8% ภายในเดือนพฤศจิกายน 2024
บรรดาเทรดเดอร์ต่างเพิ่มการเดิมพันในการลดอัตราดอกเบี้ยหลังจากการปรากฏตัวเลขเงินเฟ้อในสัปดาห์นี้ แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะลดลงอย่างรวดเร็ว แต่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานซึ่งไม่รวมถึงภาคสินค้าอาหารและพลังงานลดลงช้ากว่าเป็น 4.8% โดยอัตราดังกล่าวยังคงสูงกว่าเป้าหมายของ Fed ที่ระบุไว้ที่ 2%
‘แม้อัตราเงินเฟ้อลดลงแล้วแต่ก็ยังสูงเกินไป และมีแนวโน้มว่าจะเริ่มคงที่ เราน่าจะติดอยู่ที่อัตราเงินเฟ้อระดับนี้ ความเสี่ยงที่สำคัญในตอนนี้คือราคาพลังงานจะดีดตัวขึ้นเมื่อค่าจ้างยังคงแข็งแกร่ง ซึ่งอาจทำให้อัตราเงินเฟ้อดีดตัวขึ้นอีกได้’ Prince กล่าว
Prince เชื่อว่าอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานน่าจะถึงจุดต่ำสุดระหว่าง 3.5-4% ซึ่งผลักดันให้ Fed ต้องเข้มงวดต่อนโยบายการเงินต่อไป ทำให้นักลงทุนหลายคนอาจต้องผิดหวัง แม้ในสัปดาห์นี้หุ้นสหรัฐฯ จะแตะระดับสูงสุดในรอบปี
ความคาดหวังที่ว่า Fed จะยุติภาวะอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นครั้งประวัติศาสตร์ในเร็วๆ นี้ ได้ช่วยผลักดันให้ตลาดเริ่มมองบวกตลอดทั้งปี ดัชนีหุ้นหลัก 2 ดัชนีของสหรัฐฯ ซึ่งได้แก่ S&P 500 และ Nasdaq Composite ได้หลุดจากการเป็นตลาดหมีในปีนี้แล้ว โดยเพิ่มขึ้น 16.5% และ 33% ตามลำดับ
ขณะที่ผลตอบแทนจากพันธบัตรเริ่มเกิดความไม่ชัดเจนมากขึ้น โดยดัชนีพันธบัตรรวมทั่วโลกของ Bloomberg เพิ่มขึ้น 2.4% ในปีนี้ แต่นักลงทุนยังคงเก็งผลตอบแทนสูงสุดในรอบหลายทศวรรษ ด้วยความหวังว่า Fed ใกล้ยุติความเข้มงวดทางการเงินในเร็ววัน
ถึงกระนั้น Prince ก็ระบุว่า ปัจจุบันยังไม่ใช่สภาพแวดล้อมที่ดีที่จะถือครองสินทรัพย์ทั่วไป โดยเฉพาะในตราสารหนี้หรือหุ้น และเสริมว่าในตอนนี้เงินสดเป็นทางเลือกที่น่าสนใจกว่า
Fed ยังต้องคงอัตราดอกเบี้ยให้สูงไปอีกนาน เนื่องจากการต่อสู้กับเงินเฟ้อถูกขัดขวางจากตลาดแรงงานที่ยังแข็งแกร่ง นโยบายทางการเงินในช่วงแรกของการระบาดใหญ่ของโควิด ช่วยสร้างเงินออมในครัวเรือน แต่ก็ทำให้ตลาดแรงงานตึงตัวด้วยเช่นกัน และส่งผลให้ค่าจ้างเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ท่ามกลางรายได้ของผู้บริโภคในสหรัฐฯ สูงขึ้น ทำให้พวกเขาสามารถดูดซับเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นได้ต่อไป
อ้างอิง: