×

‘New Season New Me’ เทรนต์ อาร์โนลด์ กับผมทรงเก่า เพราะเราต่างเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ

12.07.2023
  • LOADING...
Trent Alexander-Arnold

ในวันเปิดเทอมสำหรับเหล่านักเตะระดับสตาร์ของลิเวอร์พูลชุดที่ 2 ที่กลับมารายงานตัวฝึกซ้อมพรีซีซันที่ศูนย์ฝึก AXA เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา มีหนึ่งคนที่ได้รับความสนใจจากทุกคนมากเป็นพิเศษ

           

เปล่าหรอก – ไม่ใช่สองนักเตะใหม่อย่างอเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ที่ถูกจับภาพว่านั่งเหนียมอายที่โต๊ะในโรงอาหารและดูประหม่าเมื่อได้รับการทักทายจากเจอร์เกน คล็อปป์เป็นครั้งแรก และไม่ใช่โดมินิก โซโบสไล ที่ดูสมาร์ทและเข้ากับชุดฝึกซ้อมของสโมสรใหม่

           

แต่เป็นเทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ที่สร้างความประหลาดใจให้กับทุกคน

           

ความประหลาดใจนั้นมาจากผมทรงใหม่ของเขา ซึ่งความจริงก็เป็นผมทรงเก่าของเขานั่นแหละ

           

“เทรนต์ ยินดีต้อนรับกลับมานะ” เสียงทักทายจากช่างภาพทีมโซเชียลมีเดียของลิเวอร์พูลที่บันทึกเหตุการณ์การกลับมาของเขา เอามาบอกเล่าต่อให้แฟนๆ เดอะ ค็อปทั่วโลกได้ติดตามกันอย่างใกล้ชิด ก่อนจะยิงคำถามหยอกเอินใส่กัน “ว่าแต่ช่วยบอกเราถึงทรงผมใหม่ของคุณหน่อยได้ไหม”

           

สตาร์วัย 24 ปีที่ดูรูปร่างช่วงบนเหมือนจะหนาขึ้นกว่าเดิมอีกยิ้มเขินๆ

           

“ทรงผมใหม่มันช่วยตอบแทนด้วยตัวของมันเองอยู่แล้วนะ” 🙂

 

ผม (ที่หมายถึงผมผู้เขียน ไม่ใช่ผมของเทรนต์นะครับ หรือว่าใช่ เอ๊ะ?) นั่งดูคลิปสตอรีสั้นๆ ของเทรนต์ด้วยความรู้สึกไม่ต่างจากทุกคนในสโมสรลิเวอร์พูล

 

แอบประทับใจ หัวใจบอกแบบนั้น

 

 

เพราะตลอดช่วงฤดูกาลที่แล้วเขาเป็นหนึ่งในนักเตะลิเวอร์พูลที่ได้รับเสียงวิจารณ์ในทางลบมากที่สุด ซึ่งเกิดจากผลงานที่ต้องยอมรับว่าไม่เอาไหนเอาเสียเลยในตำแหน่งแบ็กขวา ที่แทบจะเป็นบ่อน้ำมันหรือขุมทรัพย์มหาสมบัติสำหรับปีกฝั่งตรงข้ามที่พร้อมจะหาทางเล่นงานได้อย่างสม่ำเสมอ

 

ไม่เฉพาะตัวฝีเท้าจัดจ้านอย่างกาเบรียล มาร์ติเนลลี หรือคาโอรุ มิโตมะ ที่ผลัดกันพาเทรนต์ออกทัวร์ ยังมีอีกหลายคนที่ทำได้จนถึงขั้นเป็นที่พูดกันว่าปีกคนไหนฟอร์มตกอยากเรียกความมั่นใจ ก็ขอให้มาเจอนักเตะหมายเลข 66 ของลิเวอร์พูลคนนี้

 

คนที่ทำให้มิไคโล มูดริก ได้ความมั่นใจ (แบบผิดๆ) ว่าจะสามารถลากผ่านแบ็กทุกคนในพรีเมียร์ลีกได้อย่างสบายๆ

 

ฟอร์มการเล่นที่ตกต่ำของเขาเป็นปัญหาใหญ่ไม่เฉพาะต่อตัวของเขาเอง แต่ส่งผลถึงลิเวอร์พูลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะนอกจากหน้าที่หลักที่ควรจะเป็นของกองหลังอย่างเกมรับจะหละหลวมสะเพร่า เมื่อขาดความมั่นใจ ความสามารถในการเปิดเกมรุกก็หายต๋อมไปด้วย จำนวนแอสซิสต์ของเขาที่เคยสูงสุดในทีมเสมอหายไปอย่างน่าใจหาย

 

ช่วงเวลานั้นมีความพยายามในการหาคำตอบกันมากว่าเกิดอะไรขึ้น

 

บ้างก็ว่าจะโทษเทรนต์คนเดียวไม่ได้ เพราะมันก็แย่ทั้งทีม บ้างก็ว่าอาจจะลงเล่นเยอะเกินไปหรือเปล่า เพราะเขาแทบไม่ได้พักเลย (โดยเฉพาะในฤดูกาลก่อนหน้าที่ไล่ล่าถึง 4 แชมป์จนสุดทาง) ซึ่งเรื่องนี้ก็จะวนกลับไปอีกว่าหรือเป็นเพราะเขาไม่มีคู่แข่งในทีมเลย ก็เลยเหมือนหย่อนยาน

 

บางคนไม่รู้จะตำหนิอะไร ก็โทษว่าเป็นเพราะ ‘ทรงผม’ ใหม่ของเขาที่ทำเป็นทรงแนวๆ เดรดล็อก แอ็กอาร์ตล่ะสิ!

 

ความกังวลใจนั้นไปถึงขั้นว่าเขาจะเป็นเหมือนเดเล อัลลี อดีตสตาร์ดาวโรจน์ของวงการฟุตบอลอังกฤษที่แจ้งเกิดอย่างสวยหรูกับท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ในระดับความไฮป์ที่ไม่ได้น้อยกว่าจูด เบลลิงแฮม เลยในช่วงเวลานั้น

 

น่าเสียดายสำหรับอัลลี ที่ดูเหมือนเขาประสบความสำเร็จไวเกินไป และเมื่อเจอปัญหาอุปสรรคก็เริ่มหมดไฟไปอย่างรวดเร็ว โดยที่เราไม่รู้เลยว่าเขาจะสามารถกลับมาเป็นคนเดิมได้ไหม

 

หลายคนก็กลัวเทรนต์จะเป็นแบบเดียวกัน

 

 

มันก็ชวนคิดใช่ไหม ฟอร์มการเล่นตกต่อเนื่อง เหมือนจะหาทางกลับไม่เจอ ถูกปิดประตูใส่ไม่ให้ไปฟุตบอลโลกกับทีมชาติอังกฤษที่เหมือนจะเป็นจุดต่ำสุดของเขาแล้ว

           

อย่างไรก็ดี หากสังเกตกัน – ไม่ว่าจะเป็นแฟนลิเวอร์พูลหรือไม่ก็ตาม – เทรนต์แสดงให้เห็นว่าเขาไม่ยอมเผชิญชะตากรรมในแบบเดียวกับอัลลี

           

2 เดือนสุดท้ายของฤดูกาล 2022/23 เทรนต์กลับมาเป็นนักเตะที่เต็มไปด้วยพลังและชีวิตชีวาอีกครั้ง หนึ่งในเหตุผลสำคัญคือการที่เขาได้ปรับบทบาทใหม่จากการเป็นแบ็กขวาที่มีหน้าที่ในการสร้างเกมรุกอย่างเดียว กลายเป็นนักเตะไฮบริดลูกผสมระหว่างแบ็กขวาและกองกลางตัวรับ

 

จากคนที่มีหน้าที่คอยเปิดบอลจากริมเส้นเป็นหลัก กลายมาเป็นคนที่คอยรับบอลจากกองหลังเพื่อกำหนดจังหวะและทิศทางในการสร้างเกมรุก ซึ่งกลายเป็นงานที่สนุกสำหรับเขา เพราะมีสกิลเซ็ตหลายอย่างที่เหมาะสมสำหรับบทบาทนี้

 

Awareness อ่านสถานการณ์รอบตัวได้ดี

 

Vision วิสัยทัศน์ในการเล่น มองภาพทุกอย่างได้อย่างชัดเจนและคาดการณ์ล่วงหน้า

 

Passing การเปิดบอลที่แม่นยำเหมือนจับวาง ไม่ว่าจะเป็นบอลสั้น บอลยาว บอลเรียดขึ้นหน้า หรือบอลทแยงมุม ปั่นไซด์โป้ง ไซด์ก้อย เท้าซ้าย หรือเท้าขวา

 

จนบางทีก็แอบคิดว่าควรจะเรียกบทบาทใหม่ของเทรนต์ว่าเป็น ‘ควอเตอร์แบ็ก’ เหมือนกับแพทริก มาโฮมส์ดีไหม

           

ด้วยการปรับเปลี่ยนนี้ทำให้เขาพลิกฟอร์มขึ้นมาอย่างมากทันทีในระดับที่เหมือนเป็นคนละคน โดยย้อนกลับไปถึงเกมที่พบกับอาร์เซนอลในช่วงต้นเดือนเมษายน ซึ่งขณะนั้นเทรนต์เพิ่งจะทำแอสซิสต์ได้แค่ 2 ครั้งเท่านั้น (ชาว Fantasy Football คงจะผิดหวังมากกว่าใคร) ปรากฏว่าตั้งแต่เกมนั้นเป็นต้นมาเทรนต์ทำแอสซิสต์ได้อีกถึง 7 ครั้ง รวมเป็น 9 ครั้งในตอนจบฤดูกาล

 

เฉพาะเดือนเมษายนเดือนเดียวเขาทำได้ถึง 6 แอสซิสต์จากการเล่น 5 นัดในพรีเมียร์ลีก เป็นสถิติการทำแอสซิสต์สูงสุดที่ทำได้ในเวลาเดือนเดียวของนักเตะลิเวอร์พูล

 

เทรนต์ยังจบฤดูกาลด้วยการเป็นผู้เล่นที่สร้างโอกาสสำคัญ (Big chances – การสร้างโอกาสที่มีโอกาสทำประตูได้สูง) ได้มากถึง 25 ครั้งตามการบันทึกของ Opta สำนักสถิติชื่อดัง ซึ่งมีเพียงแค่บรูโน แฟร์นันด์ส และเควิน เดอ บรอยน์ เท่านั้นที่สร้างโอกาสแบบนี้ได้มากกว่า และทั้งสองคนเป็นมิดฟิลด์ตัวรุก!

 

 

 

การเปลี่ยนแปลงยังส่งผลไปถึงการสานต่อตำแหน่งนี้ในทีมชาติอังกฤษเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งเทรนต์ทำได้อย่างน่าประทับใจในเกมฟุตบอลยูโร 2024 รอบคัดเลือกที่อังกฤษพบกับมอลตา และมาซิโดเนียเหนือ ซึ่งนอกจากจะแอสซิสต์ได้ เขายังยิงประตูสุดสวยเป็นการประกาศการกลับมาอย่างสวยงามอีกครั้ง

           

แน่นอนครับว่ามันชวนให้คิดว่าเทรนต์กลับมาได้เพราะบทบาทใหม่ ซึ่งก็ต้องชมคล็อปป์และทีมสตาฟฟ์โค้ชของลิเวอร์พูลที่คิดแผนใหม่ ที่ปรับเปลี่ยนจุดเดียวพลิกได้ทั้งกระดาน (ไม่ใช่เทรนต์ดีขึ้น แต่ปัญหาของทีมเกือบทั้งหมดถูกแก้ได้ในระบบใหม่ 3-2-2-3)

           

แต่ที่สุดแล้วสิ่งสำคัญที่สุดจริงๆ ในการที่ทำให้เขากลับมา มันมาจากจิตใจ (Mentality) ของเขาเอง

           

ท่ามกลางเสียงวิจารณ์แบบสาดเสียเทเสียราวกับไม่เคยมองเห็นความดีงามในสิ่งที่เคยทำมาก่อน (ซึ่งก็เป็นปกติของสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าแฟนบอล โดยเฉพาะแฟนบอลบนโซเชียลมีเดีย) มันง่ายมากที่นักฟุตบอลที่ใกล้จะหลงทางคนหนึ่งจะหาทางกลับมาไม่เจอ ติดหล่มไปกับหลุมดำของความคิดติดลบ

           

เทรนต์แสดงให้เห็นว่าเขาพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อกลับมาให้ได้ ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม

           

กำลังใจที่เข้มแข็งนี้เองที่เป็นจุดเริ่มต้นของทุกสิ่ง และมันยังเป็นการบอกกับเราทุกคนในทางอ้อมด้วยครับว่า ไม่ว่าเราจะต้องเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบากแค่ไหน ต่อให้เหมือนจะไม่มีแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์อย่างไร

 

ถ้าเราตั้งใจมากพอ ทุกคนสามารถกลับมาเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ

 

เหมือนเทรนต์ที่ตอนนี้ไม่ได้พอใจแค่ผลงานในช่วงปลายฤดูกาลที่แล้วหรือผลงานกับแคมป์ทีมชาติ แต่เขาอยากพิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นเขาในแบบตัวตนใหม่

 

วิธีของเขาคือการทุ่มเทอย่างเต็มที่ ด้วยการตัดช่วงเวลาพักผ่อนอันแสนมีค่าของนักฟุตบอลลง 1 สัปดาห์ เพื่อจะกลับมาใช้เวลาในการฝึกซ้อมเตรียมความพร้อมของร่างกายสำหรับการเริ่มต้นใหม่ในฤดูกาลหน้า

 

ดังจะเห็นได้ว่ารูปร่างของเขาเหมือนจะบึ้กยิ่งขึ้นกว่าเดิมอีก

 

และอีกสิ่งที่เขาอยากทำให้เห็นว่าเขายังคงเป็น ‘คนเก่า’ เป็นเด็กน้อยคนเดิมที่มีความฝันอยากพาลิเวอร์พูลยิ่งใหญ่ คือการตัดผมใหม่แต่เป็นผมทรงเดิม หัวหลิมๆ ในแบบที่แฟนลิเวอร์พูลเคยคุ้นกันมาก่อนที่เขาจะเป็นสตาร์

 

New Season New Me

 

‘ฤดูกาลใหม่ ผมคนใหม่’          

 

คำตอบจากเทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เกี่ยวกับผมทรงใหม่ที่เหมือนทรงเก่าของเขา

 

ทรงผมของเด็กหนุ่มที่นั่งจ้องเหรียญแชมเปียนส์ลีกเงียบๆ คนเดียวในอุโมงค์สนาม หลังจบนัดชิงชนะเลิศที่ลิเวอร์พูลคว้าแชมป์ยุโรปสมัยที่ 6 และหวังจะพาทีมของเขาให้กลับมาเป็นที่ภูมิใจของทุกคนอีกครั้ง

FYI
  • สมัยเด็กๆ เทรนต์ชื่นชอบการเล่นหมากรุกมาก เพราะเล่นกับพ่อมาตั้งแต่เด็ก และเคยดวลกับแม็กนุส คาร์ลเซน นักหมากรุกเทวดามือหนึ่งของโลกมาแล้ว (เพื่อโปรโมตกีฬาหมากรุก) ปรากฏว่าเขาแพ้ในการเดิน 17 ตา แต่ก็เก่งกว่าบิล เกตส์ ที่แพ้ในการเดิน 9 ตาเท่านั้น
  • ในเวลาว่างเขาจะใช้เวลาไปกับการช่วยเหลือผู้คนเสมอ ซึ่งเป็นสิ่งที่แม่สอนตั้งแต่เด็ก ล่าสุดคือการก่อตั้งมูลนิธิ The After Academy ที่จะให้การช่วยเหลือนักฟุตบอลเยาวชนที่ไม่ได้ไปต่อกับการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ ให้สามารถมีชีวิตที่ดีเหมือนคนปกติได้
  • เทรนต์ทำแอสซิสต์ในสีเสื้อลิเวอร์พูลไปแล้ว 71 ครั้ง หลังแจ้งเกิดเมื่อปี 2016
  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising