เจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐอเมริกา เชิญชวนรัฐบาลจีนร่วมมือกับรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อรับมือกับภัยคุกคามด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก ในระหว่างที่เยลเลนเยือนจีนอย่างเป็นทางการ ซึ่งนับเป็นการเดินทางเยือนจีนครั้งที่สองของผู้แทนระดับสูงสหรัฐฯ ในรอบสองสัปดาห์ ต่อจาก แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ
เยลเลนระบุว่า ทั้งสหรัฐฯ และจีนต่างเป็นผู้ปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์รายใหญ่ที่สุดอันดับต้นๆ ของโลก ดังนั้นทั้งสองประเทศน่าจะแสดงบทบาทนำในการรับมือกับวิกฤตด้านสิ่งแวดล้อมร่วมกัน
ทางด้าน เหอลี่เฟิง รองนายกรัฐมนตรีของจีนที่พบกับเยลเลนกล่าวว่า เขารู้สึกเสียใจกับ “เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด” ที่เกิดขึ้นจนส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะกรณีบอลลูนจีนที่เคลื่อนเข้าสู่เขตน่านฟ้าของสหรัฐฯ เมื่อช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ที่ผ่านมานับตั้งแต่รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่เคยมีความร่วมมืออย่างเป็นทางการระหว่างสหรัฐฯ และจีนในประเด็นเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเลย อีกทั้งรัฐบาลจีนเองก็ประกาศระงับการเจรจาในประเด็นนี้ หลังจาก แนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครต ตัดสินใจเดินทางเยือนเกาะไต้หวันในช่วงเดือนสิงหาคม 2022 ส่งผลให้รัฐบาลจีนไม่พอใจอย่างมากในช่วงเวลานั้น
ปัจจุบันจีนเป็นหนึ่งในผู้ลงทุนรายใหญ่ที่สุดของโลกในด้านพลังงานแสงอาทิตย์ และเป็นผู้ผลิตแผงเซลล์แสงอาทิตย์และกังหันลมรายใหญ่ที่สุด ในขณะที่สหรัฐฯ เองก็ได้ลงทุนมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐในโครงการริเริ่มต่างๆ ที่มุ่งแก้ปัญหาด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลกในช่วงตลอดหลายปีที่ผ่านมา
โดยเยลเลนได้เสนอให้จีนเข้าร่วมกับสหรัฐฯ ในการสนับสนุนกองทุน Green Climate Fund เพื่อแก้ไขวิกฤตด้านสิ่งแวดล้อมที่กำลังสั่นคลอนความมั่นคงของมนุษย์ในขณะนี้ร่วมกัน
ภาพ: Mark Schiefelbein – Pool / Getty Images
อ้างอิง: