เศรษฐีชาวจีนสอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ผ่าน หลังพยายามสอบมามากถึง 27 ครั้ง

เหลียงซื่อ เศรษฐีชาวจีนวัย 56 ปี สอบเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยไม่ผ่าน หลังจากที่พยายามสอบเข้ามามากถึง 27 ครั้ง โดยครั้งล่าสุดเขาสอบได้คะแนนเพียง 424 คะแนน จากคะแนนเต็ม 750 คะแนน ซึ่งยังขาดไปอีก 34 คะแนน ถึงจะอยู่ในเกณฑ์คะแนนมาตรฐานที่จำเป็นสำหรับการสมัครเข้ามหาวิทยาลัยในประเทศจีน

โดยในปี 2023 มีนักเรียนเกือบ 13 ล้านคนที่มีคะแนนผ่านเกณฑ์และได้เข้าศึกษาต่อในระดับชั้นมหาวิทยาลัย ซึ่งก่อนหน้านี้เหลียงก็เคยอยู่ในความสนใจของสื่อท้องถิ่นจีนและเคยได้รับการรายงานข่าวเกี่ยวกับความพยายามของเขาที่ตั้งใจจะเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย สะท้อนมุมมองที่ว่า ‘ไม่มีใครแก่เกินเรียน’

เหลียงเริ่มสอบเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยครั้งแรกเมื่อปี 1983 เวลาผ่านมานานถึง 40 ปี เขาเข้าร่วมการสอบมาแล้วถึง 27 ครั้ง โดยเขาให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นของจีนอย่าง Tianmu News ว่า “ผมเคยพูดว่าผมไม่เชื่อว่าผมจะทำไม่ได้ แต่ตอนนี้ผมเริ่มท้อแล้ว” พร้อมกับสงสัยในความสามารถของตนเอง หลังจากยังไม่ประสบผลสำเร็จตามที่คาดหวังไว้

ข้อมูลจากทางการจีนเปิดเผยว่า มีผู้เข้าสอบเพียง 41.6% เท่านั้นที่มีคะแนนผ่านเกณฑ์และได้รับโอกาสให้เข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยในประเทศจีนเมื่อปี 2021 ที่ผ่านมา

ระดับความยากของข้อสอบทำให้หลายฝ่ายตั้งคำถามว่า ข้อสอบสอบเข้าเหล่านี้เป็นประตูสู่โอกาสหรือเป็นการทำลายโอกาสกันแน่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้สมัครสอบที่มาจากครอบครัวที่มีฐานะยากจนแล้วยิ่งอาศัยอยู่ในประเทศที่ให้คุณค่ากับวุฒิทางการศึกษาอย่างมากหากต้องการที่จะมีหน้าที่การงานที่ดี

เหลียงกล่าวว่าเขาใฝ่ฝันมาโดยตลอดที่จะเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย และได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้มีความรู้ เขาเริ่มสอบเข้ามหาวิทยาลัยครั้งแรกเมื่อตอนอายุ 16 ปี ก่อนที่จะเริ่มทำงานควบคู่ไปด้วย ล้มลุกคลุกคลานอยู่นานจนประสบความสำเร็จในการประกอบอาชีพธุรกิจค้าส่งไม้ โดยมีรายได้มากกว่า 1 ล้านหยวนต่อปีและขยับขยายมาทำธุรกิจก่อสร้างจนมีฐานะมั่งคั่งในท้ายที่สุด

หลังจากปี 2001 ที่ทางการจีนยกเลิกข้อจำกัดเรื่องอายุของผู้มีความประสงค์ที่จะสมัครเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย เหลียงก็กลับมามุ่งมั่นในเส้นทางการศึกษาของเขาอีกครั้งนับตั้งแต่นั้น โดยเขากำลังทบทวนตัวเองอีกครั้งเกี่ยวกับการสอบนี้ พร้อมทั้งกล่าวว่าเขาอาจจะลองให้โอกาสตัวเองอีกสักครั้งในปีหน้า ถ้ายังไม่ผ่าน เขาอาจจะต้องยอมแพ้ ถ้าปี 2024 เขาสอบไม่ผ่านอีก เขาจะเลิกใช้ชื่อสกุลเหลียงของตนเอง

ภาพ: Getty Images via BBC

อ้างอิง: