ภาพของ แจ็ค กรีลิช ในวันรายงานตัวเข้าแคมป์ทีมชาติอังกฤษเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้แก่แฟนฟุตบอลทั่วโลกไม่น้อย
มองจากดาวอังคารก็รู้ว่าแฮงก์!
เรื่องนี้ก็ไม่เป็นที่น่าแปลกใจ เพราะก่อนหน้านั้นกรีลิชกลายเป็นนักฟุตบอลที่ได้รับความสนใจจากแฟนๆ ทั่วโลก จากการฉลองแบบสุดสวิงริงโก้ หลังมีส่วนในการพาแมนเชสเตอร์ ซิตี้ สร้างประวัติศาสตร์คว้า 3 แชมป์ได้ในฤดูกาลเดียว
จากการฉลองในสนามอตาเติร์กสเตเดียม ไปสู่การร้องรำทำเพลงกับแฟนบอลในช่วงเช้าวันถัดไปโดยที่ยังใส่ชุดแข่ง จนถึงภาพการถอดเสื้อฉลองแบบเละๆ (จน ไคล์ วอล์กเกอร์ ต้องช่วยดึงกางเกงไว้ไม่ให้ร่วงจากขบวนรถแห่!)
เรียกได้ว่าสุดจริง ตึงจริง และทำให้หลายคนอยากรู้ว่า ตกลงแล้วเจ้าตัวจำอะไรได้บ้างไหมในช่วงเวลาเหล่านั้น?
กรีลิช ซึ่งมีโอกาสได้เปิดใจกับสื่อมวลชนในอังกฤษ ถึงเรื่องราวของการฉลองแบบสุดเหวี่ยงที่ทำให้เขากลายเป็น ‘ตัวตึง’ ในสายตาของโลกภายนอกไปเรียบร้อย เริ่มต้นจากการยอมรับว่า สิ่งที่เกิดขึ้นทุกอย่างก็เป็นไปตามที่มีคลิปออกมามากมาย
เขาฉลองแบบสุดตัวสุดใจจริงๆ และไม่มีอะไรต้องปิดบัง
“ผมคงไม่มานั่งตรงนี้แล้วโกหกพวกคุณด้วยการบอกว่า เฮ้ย เปล่า ผมไม่ได้ดื่ม ผมไม่ได้ไปปาร์ตี้ เพราะผมทำจริงๆ” กรีลิชยอมรับในการกระทำของตัวเอง
สตาร์วัย 27 ปีบอกว่า ที่เขาเลือกจะยอมรับก็แค่อยากพูดความจริงเท่านั้น ซึ่งดีกว่าการที่บอกว่าไม่ได้ทำ แต่จริงๆ แล้วทำ และมีคนอีกมากมายที่รู้ว่าทำอะไรลงไป หรือพูดไปอย่าง ทั้งๆ ที่รู้อยู่ในใจว่าทำอะไรลงไปบ้าง
เพียงแต่ในการปาร์ตี้ที่เหมือนไม่มีวันสิ้นสุดของเขานั้นก็ไม่ได้ไร้ซึ่งเหตุผลอะไร
“ฟังผมนะ ผมแค่มีความสุขกับตัวเอง ผมเหมือนอยู่ในความฝันกับการได้เล่นในทีมฟุตบอลที่ดีที่สุดในโลกในความคิดของผม แล้วเราก็เพิ่งจะคว้าเทรเบิลแชมป์ได้”
ย้อนกลับไปไม่กี่เดือนก่อนหน้านั้น กรีลิชยังคิดไม่ออกว่าปีนี้แมนฯ ซิตี้ จะจบฤดูกาลด้วยมือเปล่าไหม
“ย้อนไปในช่วงพักเบรกทีมชาติเดือนมีนาคม ตอนนั้นผมก็คิดว่าเราจะได้แชมป์บ้างหรือเปล่านะในปีนี้? เราไม่เคยได้แชมเปียนส์ลีกเลย ในพรีเมียร์ลีกเราก็เป็นอันดับ 2 เอฟเอคัพก็เป็นรายการที่ยาก แต่แล้วเราก็ทำได้ เราคว้าแชมป์ทั้ง 3 รายการ”
ในขณะที่คนมองเห็นภาพของกรีลิชฉลองแบบเละเทะตามโซเชียลมีเดีย แต่กลุ่มคนแรกที่เขาไปร่วมฉลองด้วยคือครอบครัว ซึ่งตามไปเชียร์อยู่ในอตาเติร์กสเตเดียมด้วย
“การที่ได้อยู่ที่นั่นพร้อมกับครอบครัว (นัดชิงฯ แชมเปียนส์ลีก) ทำให้ผมค่อนข้างอ่อนไหวมากหลังจบเกม ตอนนั้นพอเกมจบผมก็ร้องไห้อยู่ในสนาม แล้วพอได้เห็นครอบครัวของผม ได้เห็นแม่ ได้เห็นน้องสาว มันยิ่งทำให้อ่อนไหวยิ่งขึ้นไปอีก มันเป็นเวลาเกือบ 2 ชั่วโมงเลยที่ผมอยู่ในความรู้สึกนี้”
อีกหนึ่งคนสำคัญในชีวิตของกรีลิชคือคุณพ่อ
“พ่อพาผมไปแข่งทุกที่ตั้งแต่ผมอายุ 6 ขวบ”
ดังนั้นกรีลิชจึงต้องการเก็บเกี่ยวช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิตของเขาอย่างเต็มที่ที่สุด สิ่งที่คนไม่ได้เห็นคือ การที่เขาได้ใช้เวลาร่วมฉลองไปกับครอบครัว รวมถึงเพื่อนสนิท สตาฟฟ์ของทีม และกลุ่มเพื่อนๆ ในทีม ซึ่งเป็นช่วงเวลา 3 วันที่เขายืนยันว่านี่แหละดีที่สุดในชีวิตแล้ว
ส่วนคำถามว่า เขาจำได้บ้างไหมว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง? กรีลิชมีคำตอบให้
“ผมจำได้ว่าผมทำอะไรไปบ้าง ผมก็เป็นแบบนี้แหละ เวลาปาร์ตี้ เวลาฉลอง ผมก็เป็นแบบนี้” ซึ่งเขายังยอมรับว่าเขาเป็นสายปาร์ตี้คนหนึ่งและไม่คิดที่จะปิดบังอะไร เพราะไม่อยากเป็นแบบคนที่บอกว่าไม่ดื่ม ไม่ปาร์ตี้ แต่จริงๆ แล้วก็แอบทำตลอด
อย่างไรก็ดี ถึงจะปาร์ตี้หนัก ได้ภาพลักษณ์ตัวตึงแค่ไหน แต่สำหรับแฟนๆ แล้วกรีลิชคือหนึ่งในนักฟุตบอลชาวอังกฤษที่ได้รับความนิยมสูงสุดเสมอ โดยที่ความรักและชื่นชมจากแฟนๆ เหล่านั้นไม่ได้เกิดขึ้นเพียงเพราะพรสวรรค์หรือสไตล์การเล่นเท่านั้น
กรีลิชเป็นที่รักของทุกคนเพราะเขารักทุกคนเสมอ โดยเฉพาะแฟนๆ ตัวน้อยๆ ที่ไม่ว่าจะเหนื่อยหรือยุ่งแค่ไหน หากรู้ว่ามีแฟนๆ รอเขาอยู่ เขาก็พร้อมสละเวลาเพื่อมาพบปะ พูดคุย ถ่ายรูป แจกลายเซ็น หรือแม้แต่ให้สิ่งของติดไม้ติดมือเป็นที่ระลึก
หัวใจที่อ่อนโยนของเขามาจากการที่กรีลิชเคยสูญเสียน้องชายคนเล็กไปอย่างน่าเศร้าตั้งแต่ยังเล็กๆ ทำให้เขาเหลือ ฮอลลี น้องสาวที่พิการทางสมองจากการคลอดก่อนกำหนด 3 เดือน และนั่นทำให้เขาต้องการดูแลน้องสาวให้ดีที่สุด
และการดูแลใครให้ดีที่สุด ต้องเป็นการดูแลด้วยความรัก ด้วยหัวใจ ซึ่งเขาก็ช่วยแม่ดูแลน้องมาอย่างดีตลอด จนทำให้ฮอลลีที่คุณหมอบอกว่า คงไม่สามารถพูดหรือเดินได้ ตอนนี้ก็สามารถใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงกับคนปกติ
ในเวลาที่ไม่ได้อยู่ในสนาม ไม่ได้อยู่ที่หน้าจอ และไม่ได้ไปงานปาร์ตี้ที่ไหน กรีลิชจะใช้เวลาอยู่กับน้องสาวของเขา นั่งคุยกันตลอดเวลา
ภาพของกรีลิชตัวตึงจึงเป็นภาพมุมสนุกๆ ของนักฟุตบอลที่เต็มไปด้วยสีสันคนหนึ่ง ที่ไม่มีอะไรมากไปกว่าแค่มีความสุขกับช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิต
เวลาแบบนั้นใครบ้างไม่อยากฉลอง?
ไทม์ไลน์การฉลองในตำนานของกรีลิช
วันที่ 10 มิถุนายน เวลา 23.00 น. (ตามเวลาประเทศอังกฤษ)
กรีลิชและเพื่อนร่วมทีมแมนฯ ซิตี้ ฉลองความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่กับถ้วยแชมเปียนส์ ลีกใบแรกของพวกเขาที่สนามอตาเติร์กสเตเดียม ในกรุงอิสตันบูล ประเทศตุรกี
วันที่ 11 มิถุนายน เวลา 01.00 น.
กรีลิชมีภาพกระดกเบียร์ฉลองร่วมกับ แบรนดอน แอชตัน เจ้าหน้าที่ดูแลชุดแข่งขันของทีม หรือ Kitman ผู้โด่งดังของแมนฯ ซิตี้ รวมถึง สเตฟาน ออร์เตกา ผู้รักษาประตูสำรองของทีม
วันที่ 11 มิถุนายน เวลา 14.00 น.
เช้าวันใหม่แล้วที่อิสตันบูล แต่กรีลิชก็ยังคงฉลองต่อไปกับแฟนๆ ซิตี้ โดยที่ยังอยู่ในชุดแข่งของทีม ก่อนที่จะนั่งเครื่องบินเพื่อเดินทางกลับอังกฤษ โดยมีภาพถือถ้วยแชมป์ฉลองร่วมกับ เออร์ลิง เบราต์ ฮาลันด์
วันที่ 11 มิถุนายน เวลา 16.00 น.
กรีลิชในสภาพที่เริ่มไม่ไหว เดินทางกลับมาถึงสนามบินแมนเชสเตอร์
วันที่ 11-12 มิถุนายน
ในวันเดียวกับที่เดินทางมาถึงแมนเชสเตอร์ กรีลิชเป็นหนึ่งในกลุ่มนักเตะแมนฯ ซิตี้ ที่เช่าเครื่องบินแบบเหมาลำ เพื่อเดินทางไปปาร์ตี้ฉลองกันต่อที่อิบิซาในประเทศสเปน โดยมีคนเห็นกรีลิชเดินทางกลับมาที่โรงแรมในตอนเช้า และออกไปสนามบินต่อทันทีในไม่กี่ชั่วโมง โดยมี ไคล์ วอล์กเกอร์ คอยดูแล และมีข่าวว่าเจ้าหน้าที่สนามบินเสนอให้นั่งรถเข็นด้วย
งานปาร์ตี้มีขึ้นราว 12 ชั่วโมง ก่อนที่ทุกคนจะเดินทางกลับในช่วงกลางวันด้วยเที่ยวบินส่วนตัว
วันที่ 12 มิถุนายน เวลา 18.00 น.
มาถึงงานฉลองใหญ่อย่างเป็นทางการกับขบวนแห่ ‘Treble Champ’ เป็นอีกครั้งที่กรีลิชฉลองแบบสุดเหวี่ยง ถึงขั้นถอดเสื้อฉลองไปกับแฟนๆ และแน่นอนว่ามีคลิปมากมายที่เกิดขึ้น รวมถึงคลิปที่วอล์กเกอร์ต้องคอยฉุดกางเกงขาสั้นของกรีลิชไว้ เพื่อไม่ให้เขาร่วงลงจากรถ
วันที่ 12 มิถุนายน เวลา 20.00 น.
พิธีการฉลองยังดำเนินต่อไป กรีลิชก็ยังสุดเหวี่ยงต่อเมื่อมีภาพ คาลวิล ฟิลลิปส์ เทขวดว็อดก้าให้เขาบนเวทีฉลอง
วันที่ 13 มิถุนายน เวลา 24.00 น.
งานแห่จบไปแล้ว แต่การฉลองยังไม่จบ กรีลิชในชุดนอนออกไปฉลองต่อ เจ้าตัวยอมรับว่าไม่ได้นอนมาเกิน 24 ชั่วโมงแล้ว
วันที่ 14 มิถุนายน เวลา 12.00 น.
5 นักเตะแมนฯ ซิตี้ ที่ประกอบไปด้วย ฟิล โฟเดน, จอห์น สโตนส์, คาลวิน ฟิลลิปส์, ไคล์ วอล์กเกอร์ และ แจ็ค กรีลิช ไปรายงานตัวเข้าแคมป์ทีมชาติอังกฤษ โดยที่กรีลิชเป็นคนเดียวที่อยู่ในสภาพ ‘กรึ่ม’ ชัดเจน
อ้างอิง: