×

เลือกตั้ง 2566 : นายกฯ ยืนยัน ดอนถกอาเซียนแก้ปัญหาเมียนมาไม่มีเอียงข้าง ย้ำดูแลตามหลักมนุษยธรรม พร้อมหารือด่วนมาตรการการเงินการคลัง

โดย THE STANDARD TEAM
20.06.2023
  • LOADING...
ประยุทธ์ จันทร์โอชา

วันนี้ (20 มิถุนายน) ที่ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้หารือนอกรอบกับ สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน, อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และทีมโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดยใช้เวลาประมาณ 40 นาที เป็นการหารือถึงมาตรการทางการเงินการคลังที่จะหมดอายุในช่วงรัฐบาลรักษาการ ซึ่งการดำเนินการจะคาบเกี่ยวกับรัฐบาลใหม่ และมีมาตรการเกี่ยวกับโครงการใหม่และการใช้จ่ายงบประมาณจะต้องดำเนินการตามมาตรา 169 โดยเฉพาะภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลที่มาตรการลดภาษี 5 บาทต่อลิตรจะสิ้นสุดวันที่ 20 กรกฎาคมนี้

 

พล.อ. ประยุทธ์ เปิดเผยภายหลังการหารือว่า ตนก็ทำงาน ไม่ใช่คุยกันเล่นๆ ซึ่งไม่มีอะไรเป็นพิเศษ เพราะมันเป็นการทำงานของรัฐบาลในปัจจุบัน ที่จะต้องทำทุกอย่างให้ดีที่สุดและลดผลกระทบในทุกมิติของเรา เพราะประเทศต้องเดินหน้าซึ่งก็ต้องได้รับการดูแลมากขึ้น อาทิ เรื่องภัยแล้ง รวมทั้งได้ติดตามแผนงานโครงการต่างๆ ของรัฐบาลที่มีหลายเรื่อง รวมถึงรถไฟความเร็วสูง ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้บริการตามกำหนดการเดิมในปี 2570 

 

พร้อมยืนยันว่า ความก้าวหน้าในการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลรักษาการจะทำให้ดีที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดภาระในวันต่อไปกับรัฐบาลข้างหน้า และจะไม่ให้ขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญมาตรา 169 ในเรื่องการแก้ไขปัญหาต่างๆ โดยดูปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนเป็นหลัก 

 

ส่วนกรณีที่ ดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ประชุมระดับรัฐมนตรีกับกลุ่มประเทศที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาความขัดแย้งในเมียนมานั้น นายกฯ กล่าวว่า ดอนรายงานผลการหารือแล้ว ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร เป็นการประชุมครั้งที่ 3 โดยยืนยันว่า การประชุมทั้ง 9 ประเทศนี้ไม่ได้ไปตกลงอะไรกับใคร แต่เป็นการเดินหน้าแก้ปัญหาในกรอบอาเซียน ซึ่งไม่มีความก้าวหน้าเท่าที่ควร เพราะต้องระวังผลกระทบกับมาตรการขององค์การสหประชาชาติ (UN) ด้วย 

 

ฉะนั้นเมื่อเรามีดินแดนติดกัน เขาก็มีความหวังว่าไทยจะแก้ปัญหาได้มากที่สุด อย่าลืมว่าเราก็มีปัญหาเหมือนกันในเรื่องผลประโยชน์ของชาติและประชาชน ซึ่งหากติดตามดูการสู้รบของเขาก็รุนแรงขึ้น ก็ได้มีการหารือว่าจะลดความรุนแรงได้อย่างไรในเรื่องการสู้รบตามแนวชายแดน เพราะมีประชาชนจากเมียนมาอพยพเข้ามาที่บริเวณชายแดนไทยหลายพันคน ซึ่งเราก็ดูแลตามหลักมนุษยธรรมและป้องกันไม่ให้เกิดความอลหม่านในอนาคต ก็จำเป็นต้องคุย พร้อมยืนยันว่า การพูดคุยไม่ได้มีการตกลงอะไร เพียงแต่เป็นการเสนอแนะแนวทางปฏิบัติ 

 

ส่วนจะบอกทั่วโลกอย่างไรเพราะไทยถูกมองว่าเอียงไปทางเมียนมา พล.อ. ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่มีการเอียง มันเอียงไม่ได้หรอก ซึ่งเราก็ปฏิบัติตามมติของ UN ส่วนมติของอาเซียนหากไม่มีความก้าวหน้าก็ต้องหาวิธีการพูดคุยเพิ่มเติม ซึ่งเราก็ต้องนำเสนอไปในอาเซียนอยู่แล้ว ไม่ใช่ไปขัดแย้งอะไรกับใคร พร้อมขอให้เรามองผลประโยชน์ของประเทศด้วยว่าความเสียหายจะเกิดผลกระทบอะไรบ้าง ซึ่งมี 2 มิติ แต่ในส่วนของความคิดเห็นภายนอกเราก็รับฟัง อะไรที่ปฏิบัติได้เราทำครบแล้ว แต่หลังจากนี้อาจจะมีแรงกดดันไปยังเมียนมามากขึ้น เราต้องพยายามลดปัญหาตรงนี้ให้ได้ เพราะจะมีผลกระทบต่อไทยในเรื่องการค้าชายแดน รวมไปถึงเรื่องแรงงาน ไม่เช่นนั้นปัญหาการค้ามนุษย์ก็ตามมาอีก 

 

พล.อ. ประยุทธ์ กล่าวว่า ทุกประเทศที่มาหารือก็มีความเห็นร่วมกันว่า ควรจะหารือในฐานะเป็นประเทศสมาชิกร่วมกัน เพื่อแสวงหาทางออกและนำไปสู่การประชุมอาเซียนครั้งต่อไป พร้อมย้ำว่า นี่คือสิ่งที่เราต้องทำ เพราะหน้าที่เรารับแรงกดดันสูงมาก เรามีชายแดนติดกันกว่า 3,000 กิโลเมตร

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X