×

เศรษฐานำทีมรับฟังข้อเสนอจาก 24 กลุ่มเศรษฐกิจแพร่ พบประชาชนคาดหวังเพื่อไทยแก้ปัญหาเศรษฐกิจ

โดย THE STANDARD TEAM
20.06.2023
  • LOADING...
เศรษฐา ทวีสิน

วานนี้ (19 มิถุนายน) เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย วิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานนโยบายด้านเกษตร พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย วรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล และ นพ.นิยม วิวรรธนดิฐกุล ว่าที่ ส.ส.แพร่ พรรคเพื่อไทย ร่วมสัมมนาแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจภาคเหนือและรับฟังความเห็นจากตัวแทน 24 กลุ่มเศรษฐกิจจังหวัดแพร่ ประกอบด้วย 

 

  1. หอการค้าแพร่ 
  2. สภาอุตสาหกรรมแพร่ 
  3. ชมรมท่องเที่ยวแพร่ 
  4. ศูนย์บริหารจัดการน้ำจังหวัดแพร่ 
  5. กลุ่มปัญหาที่ดินและป่าชุมชน 
  6. กลุ่มผักออร์แกนิค P8 
  7. กลุ่มทุเรียนแพร่ 
  8. กลุ่มพริกโรงงาน 
  9. กลุ่มวิสาหกิจน้ำผึ้งแพร่ 
  10. กลุ่มส้มเขียวหวาน 
  11. ภาคีเครือข่ายผู้บ่มใบยาสูบและชาวไร่บ่มเองเหนือและอีสาน 
  12. กลุ่มข้าวหอมมะลิ 
  13. กลุ่มกาแฟภูเขาไฟ 
  14. กลุ่มแพร่คล้าฟ ผ้าทอ ม่อฮ่อม 
  15. กลุ่มผ้าจกโบราณ 
  16. กลุ่มไม้สักทอง 
  17. กลุ่มสุราแพร่แข็งจ๊ด 
  18. กลุ่มพุทราแพร่ 
  19. กลุ่มวิสาหกิจโอทอปอาหารแพร่ 
  20. กลุ่มหัตถกรรมเหล็ก 
  21. กลุ่มคมนาคมภาคเหนือ 
  22. กลุ่มสถาบันการศึกษา 
  23. กลุ่มทำเหล็ก
  24. YEC แพร่ (นักธุรกิจรุ่นใหม่ หอการค้าแพร่) 

 

โดยมี นพพล เหลืองทองนารา ส.ส.พิษณุโลก, จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่, ศรีโสภา โกฏคําลือ ส.ส.เชียงใหม่, ณัฐพงษ์ สุปริยศิลป์ ส.ส.น่าน และ รังสรรค์ มณีรัตน์ ส.ส.ลำพูน พรรคเพื่อไทย ร่วมหารือด้วย

 

โดยก่อนเริ่มกิจกรรม เศรษฐาและคณะพรรคเพื่อไทยได้เลือกสวมใส่เสื้อชุดม่อฮ่อมที่ผ่านการออกแบบใหม่โดย ‘กลุ่มแพร่คราฟท์’ ซึ่งเป็นการรวมตัวกันของกลุ่มผู้ประกอบการรุ่นใหม่ในจังหวัดแพร่ ที่เลือกใช้ผ้าพื้นเมืองและสีย้อมธรรมชาติ ไม่ใช้สารเคมี รักษ์โลก ผ่านการออกแบบ-ตัดเย็บโดยคนรุ่นใหม่ ตัดผ้าฝ้ายย้อมของล้านนาให้ออกมาทันสมัย แปลกตา โดนใจวัยรุ่น ทำให้ผู้สื่อข่าวแซวเศรษฐา ส.ส.แพร่ และทีมงานพรรคเพื่อไทยว่า ‘หล่อกระชากวัยเลย’

 

จากนั้นได้เปิดโอกาสให้ตัวแทนจากกลุ่มต่างๆ ลุกขึ้นบอกเล่าถึงปัญหา และเสนอความต้องการ แนวทางแก้ไขปัญหาต่อพรรคเพื่อไทย โดยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มเกษตรกรรม กลุ่มหัตถกรรม และกลุ่มธุรกิจ / อุตสาหกรรม ซึ่ง อนุวัธ วงศ์วรรณ นายกฯ อบจ.แพร่ ระบุว่า แพร่เป็นเมืองที่มีภูเขาสูงรายล้อมรอบจังหวัดเป็นรูปก้นกระทะ ทำให้แม่น้ำยม ซึ่งเป็นแม่น้ำสายหลักของจังหวัด มีความลาดชันสูง เมื่อเกิดเหตุอุทกภัยหนักในฤดูฝนจะทำให้เกิดกระแสน้ำไหลเชี่ยวกราก ลาดเทไปจังหวัดสุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร นครสวรรค์ และจนกระทั่งถึงกรุงเทพมหานคร เป็นหนึ่งในสาเหตุของอุทกภัยหนักซ้ำซากทุกปี 

 

และเมื่อน้ำไหลลงไปหมดแล้วประชาชนยังจะมีน้ำใช้ ซึ่งจะเป็นการบรรเทาปัญหาภัยแล้งที่เกิดขึ้นซ้ำซากทุกปีไปในตัวด้วยเช่นกัน ดังนั้นแนวทางในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว เราจึงเสนอให้กั้นน้ำไว้บนรอบเขาขนาดเล็กที่กระจายอยู่ทั่วทั้งจังหวัดที่เราเรียกกันว่าอ่างดอย ตรงนี้จะเป็นการซับไม่ให้มวลน้ำขนาดใหญ่ไหลบ่ารุนแรงลงไปในแม่น้ำยมในเวลาเดียวกัน และช่วยเพิ่มการกักเก็บน้ำในแต่ละปี จาก 185 ล้านลูกบาศก์เมตร เป็น 1,000 ล้านลูกบาศก์เมตรด้วย ซึ่งเท่ากับได้ประโยชน์ 2 ชั้น คือลดปัญหาอุทกภัยใหญ่ และทำให้ประชาชนในพื้นที่มีน้ำใช้สำหรับทำการเกษตร และมีน้ำสำหรับใช้เพื่อการอุปโภคบริโภคเพียงพอด้วย

 

ต่อมาตัวแทนภาคเอกชนได้สะท้อนปัญหาพร้อมข้อเสนอว่า เราต้องการการปรับปรุงและขยายสนามบิน หลังจากที่มีเที่ยวบินมานานกว่า 10 ปี วันที่ 19 เมษายนที่ผ่านมาต้องประกาศหยุดบิน ทำให้เกิดผลกระทบต่อการท่องเที่ยวและการลงทุนในจังหวัดเป็นอย่างมาก วันนี้จังหวัดแพร่มีความพร้อมในการขยายสนามบิน แต่ขาดการดำเนินการอย่างจริงจังโดยรัฐ อีกประเด็นคือการขยายถนน เพราะเส้นทางการคมนาคมของเราโดนล้อมโดยภูเขาและป่าไม้ ทำให้เราขยายเส้นทางคมนาคมได้ลำบาก จึงฝากเรื่องนี้ให้พิจารณาแก้ไขด้วย 

 

สำคัญที่สุดสำหรับภาคเอกชนคือการลดต้นทุนการผลิต ไม่ว่าจะเป็นราคาปุ๋ย ราคาพลังงาน และภาษี สุดท้ายเรื่องการท่องเที่ยว เรามีทั้งสถานที่ท่องเที่ยวที่งดงาม มีอาหารและวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ แต่ยังขาดการวางแผนและการโปรโมตการท่องเที่ยวให้กลายเป็นเมืองท่องเที่ยวอีกเมืองหนึ่ง 

 

ตัวแทนหอการค้าจังหวัดแพร่ระบุว่า เราต้องการบูตเศรษฐกิจด้วยการท่องเที่ยว โดยปรับปรุงจากสิ่งที่มีให้ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะเราเพิ่งเผชิญกับวิกฤตโควิดมา การท่องเที่ยวเป็นหน่วยที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด แต่การท่องเที่ยวก็เป็นสิ่งที่จะสามารถดึงเม็ดเงินกลับมาได้ไวที่สุดด้วยเช่นกัน จังหวัดแพร่มีพื้นที่ป่ามากกว่า 80% ซึ่งเราสามารถโปรโมตการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติและอันซีนได้ เราอยากให้เปิดเส้นทางท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามใหม่ 

 

นอกจากนี้ เราต้องการเติมเงินเข้าจังหวัดเพื่อขยายการเติบโตของธุรกิจโรงแรม เราอยากให้รัฐช่วยสนับสนุนการจัดกิจกรรมหรืออีเวนต์ต่างๆ เพื่อให้พื้นที่และธุรกิจโรงแรมได้มีเม็ดเงินมาเติมกำลังต่อไป

 

ตัวแทนภาคอุตสาหกรรมระบุว่า จังหวัดแพร่ถูกพันธนาการด้วยผังเมือง ทำให้ไม่สามารถขยายพื้นที่ทางอุตสาหกรรมได้ เพราะติดพื้นที่สีเขียว ทำให้สร้างโรงงานไม่ได้ ห้องเย็นก็ทำไม่ได้ ส่งผลกระทบต่อรายได้ทางการเกษตร เพราะเราแปรรูปอะไรไม่ได้เลย เราจึงรวบรวมปัญหาเหล่านี้ทำเป็นเอกสารมอบไปยังทางพรรคเพื่อไทย เพื่อช่วยพวกเราหาทางแก้ไขปัญหาด้วย นอกจากนี้ เราต้องการให้ภาครัฐดูแลเรื่องการรับรองผลิตภัณฑ์ของประชาชน ซึ่งที่ผ่านมามีความยากลำบากและติดขั้นตอนต่างๆ ทำให้การรับรองสินค้าและผลิตภัณฑ์ของประชาชนมีความล่าช้า กระทบทั้งต่อการผลิตและรายได้ของผู้ประกอบการ

 

“วันนี้เราถือว่าพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคใหญ่พรรคหนึ่งที่กำลังจะก้าวไปเป็นพรรครัฐบาลในอนาคตอันใกล้นี้ พวกเราเชื่อมั่นการบริหารประเทศให้ดีขึ้นของท่านตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน พวกเราชาวแพร่ทั้งจังหวัดจึงได้ยกความไว้วางใจของพวกเราให้กับพรรคเพื่อไทยอย่างท่วมท้นเสมอมา ดังนั้น เราเชื่อและหวังอย่างยิ่งว่า เมื่อท่านได้เข้าไปนั่งบริหารงานในกระทรวงต่างๆ แล้ว ท่านจะหยิบเอาปัญหาของพวกเราชาวแพร่ที่ได้สะท้อนและนำเสนอให้ท่านได้รับทราบในวันนี้ เข้าไปดำเนินการแก้ไขให้กับเราอย่างเต็มกำลังความสามารถ

 

“สำหรับพวกเรา พรรคเพื่อไทยคือพรรคแห่งความหวัง ตลอดระยะเวลา 9 ปีที่ผ่านมาที่เราอยู่ภายใต้รัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ เราสูญเสียโอกาสไปมากมายหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นโอกาสในการเติบโต โอกาสทางเศรษฐกิจ และโอกาสที่เราจะได้อยู่ดีกินดี มีที่ดินทำกิน และส่งมอบโอกาสดีๆ เหล่านั้นให้กับลูกหลาน 4 ปีที่แล้ว เราเคยเลือกผู้แทนฯ ที่ไม่เคยลงพื้นที่ทำงาน ไม่เคยลงรับฟังปัญหาจากประชาชน และสุดท้ายก็กลายเป็นผู้แทนฯ งูเห่า แพร่ขาดงบประมาณ ขาดการพัฒนาอย่างถูกทิศทาง ขาดโอกาสสื่อสารกับรัฐบาลเพื่อแก้ไขปัญหาของจังหวัดแพร่ วันนี้เราดีใจที่ได้ผู้แทนฯ จากพรรคเพื่อไทย และได้พรรคเพื่อไทยกลับคืนมาอีกครั้ง  ดิฉันหวังว่าท่าน ส.ส. และพรรคเพื่อไทยจะไม่ทอดทิ้งเราชาวแพร่เหมือนอย่างที่รัฐบาลก่อนหน้านี้เคยทำมา” ตัวแทนกลุ่มอุตสาหกรรมระบุ

 

ด้านวรวัจน์กล่าวว่า วันนี้ถือเป็นโอกาสดีของเราจังหวัดแพร่ เราผูกพันกับพรรคเพื่อไทยมาโดยตลอด เหตุที่ผูกพันเพราะพรรคเพื่อไทยลงมาพัฒนาและวางรากฐานอาชีพให้กับประชาชนจังหวัดแพร่ จุดแข็งที่สุดของพรรคเพื่อไทยคือการวางรากฐานทางเศรษฐกิจ และเรามั่นใจว่าพรรคเพื่อไทยจะทำได้อีกครั้ง เพราะตลอด 9-10 ปีที่ผ่านมา เราถูกทอดทิ้ง ไม่มีงบประมาณอะไรลงมาที่จังหวัดของเราเลย เราขาดการพัฒนาไปช่วงหนึ่ง วันนี้เราจึงดีใจที่เราจะได้เข้ามาทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่อีกครั้ง

 

ขณะที่เศรษฐากล่าวว่า วันนี้ กกต. ได้รับรอง ส.ส. ของเราแล้ว สมศักดิ์ศรีที่ทำให้พรรคเพื่อไทยได้รับเลือกเข้ามายกจังหวัด เพราะท่าน ส.ส. ใกล้ชิดและดูแลพี่น้องประชาชนอย่างจริงจัง ตนเองได้รับมอบหมายให้มารับฟังปัญหาและวางเป้าหมายเพื่อการเลือกตั้งครั้งต่อไป หลังจากวันนี้เมื่อมีการรับฟังปัญหาแล้ว อาจจะมีคณะกรรมการย่อยลงมารับฟังปัญหาเฉพาะกลุ่มแบบจริงจังและเจาะลึก เพื่อวางแนวทางการแก้ปัญหาให้ประชาชน ไม่ใช่เพียงมาฟังแล้วจากไป วันนี้ทางพื้นที่ต้องพูดคุยกันก่อน แต่เรายืนยันว่าเราต้องขึ้นค่าแรงให้ประชาชน แต่ต้องขึ้นอย่างเหมาะสมไปพร้อมกับเพิ่มรายได้ให้มากขึ้น 

 

นอกจากนี้ นโยบายเรื่องการส่งเสริมการท่องเที่ยวเป็นเรื่องที่สำคัญ และการขยายสนามบินเป็นสิ่งที่ตนเห็นด้วย แต่สนามบินจะมาได้ เราต้องขยายทั้งธุรกิจและการท่องเที่ยวให้แข็งแรงก่อน อยากให้คนมาแพร่แล้วมาอยู่นานๆ ตนอยากให้แพร่มีมรดกโลก เพราะแพร่มีวัดและสถานที่สำคัญๆ จำนวนมาก วันนี้การท่องเที่ยวกำลังค่อยๆ กลับมาบูม ดังนั้นปัญหาบางอย่างอาจจะต้องให้เวลาเพื่อแก้ไขปัญหาด้วยเช่นกัน 

 

วันนี้เราเป็นประเทศที่มีความมั่นคงทางอาหาร ในขณะที่หลายๆ ประเทศไม่มีอาหารกิน ถ้าเรามีการแปรรูปหรือเก็บรักษาอาหารด้วยเทคโนโลยีได้ดีอย่างที่แพร่กำลังดำเนินการอยู่นี้ จะเป็นโอกาสในการสร้างรายได้ให้กับประชาชน ซึ่งทางเรามองเห็น ส่วนราคาพลังงานวันนี้เรามีทีมงานศึกษาเรื่องนี้เพื่อแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนแล้ว อย่างไรก็ตาม แพร่เป็นจังหวัดที่พรรคเพื่อไทยต้องกลับมาทำงานให้พี่น้องประชาชนอย่างแน่นอน เพื่อตอบแทนทุกคะแนนที่พี่น้องประชาชนให้เรามาผ่านการเลือกตั้งที่ผลออกมาให้เพื่อไทยยกจังหวัด เราจะกลับมาทำงานร่วมกันกับพี่น้องประชาชน เป็นการทำงานในมิติใหม่ที่พรรคเพื่อไทยจะหาทางแก้ไขปัญหา และทำงานร่วมกันไปกับพี่น้องประชาชน

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X