อัตราการว่างงานของคนหนุ่มสาวอายุระหว่าง 16-24 ปีในประเทศจีนพุ่งขึ้นทำสถิติใหม่อีกครั้งในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยเพิ่มขึ้นจากระดับ 20.4% ในเดือนเมษายนขึ้นมาอยู่ที่ 20.8% ขณะที่อัตราการว่างงานโดยรวมของทั้งประเทศยังทรงตัวอยู่ที่ 5.2% ไม่เปลี่ยนแปลง
นอกจากตัวเลขการจ้างงานของคนหนุ่มสาวแล้ว จีนยังรายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจที่น่าผิดหวังอีกหลายตัวในเดือนพฤษภาคม เช่น ยอดขายปลีกที่ขยายตัวได้ 12.7% ต่ำกว่าคาดการณ์ที่ 13.6% และยอดการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้น 3.3% ต่ำกว่าคาดการณ์ที่ 3.6%
นอกจากนี้ การลงทุนในสินทรัพย์ถาวร (Fixed Asset) ในเดือนที่ผ่านมาของจีนยังปรับเพิ่มขึ้นเพียง 4% ผิดจากคาดการณ์ของ Reuters ที่มองว่าจะเติบโตได้ 4.4%
Fu Linghui โฆษกของสำนักงานสถิติแห่งชาติ เปิดเผยว่า ภาพรวมเศรษฐกิจในไตรมาส 2 ของจีนยังขยายตัวได้สูงกว่าในช่วงไตรมาสแรก ซึ่งเป็นผลมาจากฐานที่ต่ำในปีก่อนหน้า อย่างไรก็ดี คาดว่าเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังจะกลับเข้าสู่ระดับปกติ โดยทางการจีนยังคงเป้าหมาย GDP ในปีนี้ไว้ที่ระดับ 5%
Bruce Pang หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์และฝ่ายวิจัยของ JLL Greater China ระบุว่า เศรษฐกิจจีนอาจต้องใช้เวลา 2-3 ปีในการฟื้นตัวจากความเสียหายที่เกิดขึ้นในช่วงปิดเมืองเพื่อควบคุมการระบาดของโควิดและผลกระทบจากปัญหาความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์เพื่อกลับสู่ระดับการเติบโตที่สูงกว่า 6%
ในวันอังคารที่ผ่านมา (13 มิถุนายน) ธนาคารกลางจีน (PBOC) ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายระยะสั้นแบบเซอร์ไพรส์ตลาด โดยลดดอกเบี้ย Reverse Repurchase Rate ระยะ 7 วัน ลง 10% สู่ระดับ 1.9% ถือเป็นการปรับลดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020
การปรับลดดอกเบี้ยดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความกังวลของรัฐบาลจีนเกี่ยวกับการฟื้นตัวที่อ่อนแอของเศรษฐกิจ โดยนักวิเคราะห์คาดว่า ทางการจีนมีแผนจะใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้นอีกในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
อ้างอิง: