×

7 THINGS WE LOVE ABOUT THESE GENDER FLUID BRANDS ดีไซเนอร์ที่ไม่แคร์เพศสภาพ แต่เน้นอัตลักษณ์ของผู้สวมใส่

11.06.2023
  • LOADING...

แฟชั่นเปรียบได้กับเครื่องมือในการแสดงตัวตนไม่ต่างกับยูนิฟอร์มที่สามารถบ่งบอกถึงหน้าที่และอาชีพของเราได้ เพียงแต่แฟชั่นมีวิธีการนำเสนอที่หลากหลายและสร้างสรรค์กว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเทรนด์การแต่งของเราเริ่มปรับเปลี่ยนตามวิถีของสังคมที่เปลี่ยนไป ไม่ว่าจะเป็นกระแสโควิดผลักดันให้เลานจ์แวร์กลายเป็นยูนิฟอร์มของคนทำงานในยุค Work from Home เป็นต้น อีกหนึ่งเทรนด์ที่กำลังก้าวเข้ามามีบทบาทต่อสังคมโดยเฉพาะเด็กรุ่นใหม่ที่อยากเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น นั่นก็คือ ‘Gender Fluid’

 

กระแสการแต่งตัวแบบไม่แคร์เพศสภาพแต่เน้นขับอัตลักษณ์ของผู้สวมใส่ การเบลอเส้นแบ่งระหว่างเพศกำลังเริ่มเปิดกว้างมากขึ้น คำจำกัดความของ ‘ผู้ชาย’ ไม่จำเป็นต้องอยู่ในรูปแบบมัสคูลิน (Masculine) อย่างเดียวเสมอไป แต่ว่าการจะริเริ่มสิ่งใหม่ที่สร้างแรงกระเพื่อมได้จำเป็นต้องมีกลุ่มคนขับเคลื่อนที่เปรียบเสมือนเชื้อเพลิงหลัก เหล่าดีไซเนอร์หน้าใหม่ใจกล้าหัวคิดแตกต่างคือกำลังสำคัญที่ผลักดันความเท่าเทียมในการเป็นตัวของตัวเองสำหรับคนยุคใหม่ครั้งนี้ 

 

THE STANDARD POP อยากพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ 7 ดีไซเนอร์ผู้ท้าขนบการแต่งตัวให้ก้าวไปข้างหน้าแบบไร้กรอบ 

 

Harris Reed 

 

 

อีกหนึ่งดีไซเนอร์ที่กำลังมาแรง Harris Reed ดีไซเนอร์เชื้อสายอังกฤษ-อเมริกัน เขาเป็นอีกหนึ่งแรงสำคัญในการผลักดันให้เสื้อผ้าสามารถสวมใส่ได้หลากหลายแบบไร้เพศ ซิกเนเจอร์งานดีไซน์ของเขาต้องยกให้กับงานเทเลอร์ที่เขาผสมผสานลงบนเสื้อผ้าสุดดราม่าของเขา งานดีไซน์ของเขาเป็น Semi-Couture งานคราฟต์ชั้นสูงที่อัดแน่นไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ ไม่แปลกเลยที่เซเลบริตี้แถวหน้าของโลกจะชื่นชอบชุดของเขาเป็นพิเศษยามเดินพรมแดง ไฮไลต์ในอาชีพของเขาต้องยกให้กับชุดที่เขาออกแบบให้กับ Lil Nas X ที่งาน VMAs ในปี 2022 เพราะนอกจากชุดจะแกรนด์แล้วนั้น ตัว Lil Nas X ยังเป็นกระบอกเสียงของศิลปิน LGBTQIA+ ซึ่งตรงกับงานของ Harris อย่างมาก 

 

ปีที่ผ่านมามีข่าวใหญ่สำหรับตัวเขาเมื่อแบรนด์ Nina Ricci ประกาศให้เขาดำรงตำแหน่งครีเอทีฟไดเรกเตอร์เพื่อพาแบรนด์เก่าแก่ให้กลับมาแข็งแรงอีกครั้ง ผลงานสร้างชื่อแรกของเขาให้กับแบรนด์คือการออกแบบชุดให้กับ Harry Styles ที่งาน BRIT Awards ของปีนี้ เป็นการเซ็ตสแตนดาร์ดใหม่ให้กับแบรนด์อย่าง Nina Ricci ถึงมุมมองแบบใหม่ที่เปิดรับผู้สวมใส่ที่หลากหลายมากขึ้น 

 

 

Charles Jeffrey Loverboy 

 

 

Charles Jeffrey Loverboy เป็นที่รู้จักครั้งแรกในปี 2015 หลังจากที่ Charles Jeffrey เรียนจบจาก Central Saint Martins สำหรับแบรนด์ของ Charles มีจุดยืนในฐานะแบรนด์ที่สนับสนุน LGBTQIA+ ตั้งแต่เริ่มต้น กระแสของแบรนด์โด่งดังมากในคอมมูนิตี้ของ Queer ที่ประเทศอังกฤษ ก่อนที่งานดีไซน์ของเขาจะเริ่มเป็นที่ยอมรับในวงกว้างมากขึ้น ต้องขอบคุณเซเลบริตี้อย่าง Harry Style, Tilda Swinton และ BTS ที่เลือกชุดของเขาไปสวมใส่ สไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์มีแรงบันดาลใจมาจากพังก์ในยุค 70 ผสมผสานความแกลมสุดโต่งแบบ 80 เสื้อผ้าสีสันฉูดฉาดงานดีไซน์แบบที่ใครใส่ต้องโดนมอง เสื้อผ้าของ Charles ไม่จำกัดเพศ ทุกชิ้นสามารถสวมใส่โดยเพศสภาพแบบใดก็ได้ สาเหตุที่เขาชื่นชอบเสื้อผ้าแรงๆ สีจัดๆ เพราะเขาคิดว่าการเป็นตัวเองไม่จำเป็นต้องเก็บเงียบหรือแอบ เราสามารถตะโกนมันออกมาได้

 

 

Chromat 

 

 

Chromat ก่อตั้งขึ้นในปี 2010 โดย Becca McCharen-Tran เธอมาพร้อมกับความเชื่อว่า ‘ความแตกต่างคือความสวยงาม’ และนั่นคือจุดยืนของแบรนด์ Chromat ตั้งแต่วันแรกจวบจนทุกวันนี้ Becca เติบโตขึ้นในสังคมที่ไม่ยอมรับเรื่องรสนิยมทางเพศที่แตกต่าง ในฐานะเลสเบี้ยนเธออยากสร้างสรรค์งานดีไซน์ที่เสริมคุณค่าตัวตนของคนนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นเพศไหนหรือรูปร่างแบบไหนก็ตาม ซิกเนเจอร์ของ Chromat ต้องยกให้กับชุด Beachwear นอกจากจะเน้นเรื่องวัสดุ Sustainable แล้วนั้น งานดีไซน์ของเธอขานรับกับคนทุกประเภท ทุกครั้งที่ Becca จัดแฟชั่นโชว์หรือถ่ายแคมเปญเรามักเห็นผู้หญิงพลัสไซส์และทรานส์ปรากฏอยู่ด้วยตลอด เธอให้ความสำคัญกับคนทุกรูปแบบ และงานดีไซน์ของ Chromat ถูกออกแบบเพื่อให้ผู้สวมใส่รู้สึกรักในตัวของตัวเอง 

 

 

Telfar 

 

 

เปิดตัวครั้งแรกในปี 2005 สำหรับแบรนด์ Telfar โดย Telfar Clemens ดีไซเนอร์ผิวดำชาวอเมริกันที่ตั้งใจให้แบรนด์ของเขาหลากหลายตั้งแต่เรื่องเพศไปจนถึงไซส์ เสื้อผ้ากลิ่นอายสตรีทสไตล์เน้นงานดีไซน์ที่สวมใส่ได้จริงแต่แฝงด้วยดีเทลที่บิดให้ต่างจากแบรนด์อื่นๆ ไฮไลต์ที่ทำให้คนรู้จักแบรนด์ Telfar จริงๆ มาจาก Shopping Bag กระเป๋าปั๊มตัว T ชื่อดังที่ไม่สามารถหาซื้อตามหน้าร้านได้นอกจากพรีออร์เดอร์เท่านั้น กระเป๋าทรงเหลี่ยมหลากไซส์ถูกออกแบบมาเพื่อให้ไม่ว่าจะเพศไหนก็สามารถใช้ได้ ความโด่งดังของ Telfar ต่อยอดให้แบรนด์มากมายต่างขอคอลแล็บทำคอลเล็กชันพิเศษร่วมกับเขา เช่น Eastpack, UGG, Moose Knuckles และอีกมากมาย ไม่ใช่แค่นั้น ชื่อของ Telfar ยังถูกพูดถึงในเพลง Summer Renaissance ของ Beyoncé อีกด้วย สิ่งที่สำคัญมากๆ ของ Telfar ไม่ว่าเขาจะประสบความสำเร็จแค่ไหนก็ตาม ในฐานะที่เขาตั้งตนเองเป็นแบรนด์ Unisex เขานำเสนอภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้มิตรต่อทุกเพศและทุกเชื้อชาติเสมอ 

 

 

Eckhaus Latta 

 

 

แบรนด์แฟชั่นจากประเทศอเมริกาก่อตั้งโดย Mike Eckhaus และ Zoe Latta ทั้งคู่พบกันตั้งแต่สมัยเรียนที่ Rhode Island School of Design ในขณะที่ Mike เรียนด้านการปั้นและ Zoe ด้านสิ่งทอ ทั้งสองเปิดแบรนด์ Eckhaus Latta ในปี 2011 นอกจากในแง่ของดีไซน์ที่เน้นหนักในเรื่องของการผสมผสานเนื้อผ้าและซิลูเอตแล้วนั้น ทั้งสองยังให้ความสำคัญในงานดีไซน์ที่มีความเป็น Gender Neutrality หรือไม่ตีกรอบเพศในลักษณะที่ไม่เอะอะแบบแบรนด์อื่นๆ แต่กลับเน้นงานดีไซน์ที่เรียบง่ายกว่าแต่แฝงด้วยไอเดียการผสมผสานเท็กซ์เจอร์ของเนื้อผ้าที่หลากหลาย เล่นกับเชปและฟอร์มที่ถูกคิดมาเพื่อรูปร่างหลากไซส์ ถ้าสังเกตจะเห็นเลยว่าโชว์ทุกครั้งของ Eckhaus Latta มักจะแคสต์คนทั่วไปมาเดินโชว์ร่วมกับนางแบบเสมอเพื่อสื่อสารให้เห็นถึงความหลากหลายของมนุษย์ยามสวมใส่เสื้อผ้าของพวกเขานั่นเอง 

 

 

Peter Do 

 

 

Peter Do ดีไซเนอร์ชาวอเมริกันเชื้อสายเวียดนาม ผู้เคยผ่านงานมาแล้วจาก Celine ยุค Phoebe Philo และ Derek Lam เขาเปิดแบรนด์ของตัวเองในปี 2018 โดยเน้นงานดีไซน์เทเลอร์แบบคมกริบจนกลายเป็นซิกเนเจอร์หลักของแบรนด์ แม้เริ่มต้น Peter Do เน้นทำเสื้อผ้าผู้หญิงก็ตาม แต่เสื้อผ้าของเขากลับได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากผู้ชายและถูกขอให้ผลิตในไซส์ของผู้ชาย กอปรกับที่เขามักถูกถามอยู่บ่อยครั้งว่าผู้หญิงของ Peter Do เป็นอย่างไร คำถามตีกรอบงานดีไซน์จนเขาต้องตั้งคำถามกับตัวเองใหม่ เสื้อผ้าที่เขาออกแบบนั้นตัวเขาเองก็สวมใส่อยู่ประจำเช่นเดียวกับเพื่อนๆ ของเขาซึ่งหลายคนไม่ใช่ผู้หญิง และนั่นเป็นเหตุผลที่เขาตัดสินใจก้าวออกจากกรอบและทำเสื้อผ้าผู้ชายในคอลเล็กชัน Spring/Summer 2023 ที่ผ่านมา นางแบบและนายแบบของโชว์ครั้งนั้นทุกคนสวมใส่เสื้อผ้าลักษณะเดียวกัน แตกต่างกันแค่รูปร่าง ซึ่งเป้าหมายของ Peter เขาต้องการขยายความหลากหลายในเสื้อผ้าของเขา งานเทเลอร์คมกริบที่สามารถจะอยู่ตัวใครก็ได้ ล่าสุดเขาถูกแต่งตั้งให้เข้ามาดูแลแบรนด์ Helmut Lang รากฐานของแบรนด์นี้คือการดีไซน์มินิมัลที่ไหลลื่น ต้องมาดูกันว่าเขาจะผลักดันกระแสของ Gender Fluid ให้กับแบรนด์สุดคูลนี้อย่างไร 

 

 

Ludovic de Saint Sernin 

 

 

ดีไซเนอร์สุดฮอตของยุคนี้ Ludovic de Saint Sernin โด่งดังจากเสื้อผ้าสุดเปรี้ยวไร้เพศของเขา เขาตัดสินใจเปิดแบรนด์ของตนเองเพื่อทำเสื้อผ้าสนองตัวตนอันไหลลื่นของเขาเอง หลังจากเปิดตัวในปี 2018 งานดีไซน์ของเขาถูกพูดถึงเป็นวงกว้างจากซิกเนเจอร์เสื้อผ้าสุดเซ็กซี่ โดยเฉพาะซิลูเอตเสื้อผ้าของผู้หญิงที่เขานำมาใช้บนเสื้อผ้าของผู้ชาย ไม่แปลกเลยที่ผู้ชายของ Ludovic จะใส่เสื้อเกาะอก เดรสเข้ารูป หรือแม้แต่กระโปรง ไอเท็มสุดเฟมินีนที่ถูกนำมาตีความใหม่ให้ไร้กรอบของเพศสภาพ ผลงาน Y2K สุดเย้ายวนของเขาได้รับความสนใจและถูกสวมใส่โดยเซเลบริตี้แถวหน้าของโลก เช่น Kylie และ Kendall Jenner, Bella Hadid, Dua Lipa, Megan Thee Stallion และ Rihanna 

 

เมื่อไม่นานมานี้ Ludovic เข้ารับตำแหน่งครีเอทีฟไดเรกเตอร์ให้กับแบรนด์ Ann Demeulemeester แม้จะอยู่ได้แค่คอลเล็กชันเดียวเท่านั้น แต่ซิกเนอเจอร์สุดเซ็กซี่ของเขาสามารถทำให้แบรนด์ที่เคยเงียบกริบให้กลับมาตื่นตัวได้อีกครั้ง ผลงานของ Ludovic ถือเป็นตัวอย่างของดีไซเนอร์ที่กล้าเป็นตัวเองและผลักดันความคิดเหล่านั้นออกมาเป็นผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตามที่เขาต้องออกจาก Ann Demeulemeester สิ่งที่เขาสร้างสรรค์มาโดยตลอดได้ประจักษ์ต่อสายตาชาวโลกแล้ว 

 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

X
Close Advertising