เมื่อวันที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา ประชาชน ภาคเอกชน และองค์กรต่างๆ ทั่วโลกกว่า 188 ประเทศ ร่วมกันสร้างสถิติใหม่ในการเข้าร่วมกิจกรรม Earth Hour 2018 โดยมีสถานที่สำคัญเกือบ 18,000 แห่ง ร่วมแสดงพลังด้วยการปิดไฟ 1 ชั่วโมง เพื่อลดภาวะโลกร้อน และหยุดยั้งการใช้ทรัพยากรธรรมชาติโดยไม่จำเป็น
สำหรับกิจกรรม Earth Hour 2018 มีสถานที่สำคัญๆ ของประเทศและเมืองต่างๆ เข้าร่วมมากมาย ทั้งซิดนีย์โอเปราเฮาส์ ออสเตรเลีย, หอนาฬิกาบิ๊กเบน อังกฤษ, โตเกียวสกายทรี ญี่ปุ่น, ตึกเอ็มไพร์สเตท สหรัฐอเมริกา รวมถึงหอไอเฟล ในฝรั่งเศส โดยสถานที่แต่ละแห่งได้ทำการปิดไฟตั้งแต่ 20.30-21.30 น. เพื่อเป็นสัญลักษณ์
ส่วนประเทศไทย กรุงเทพมหานครได้จัดกิจกรรมหลักที่เซ็นทรัลพลาซา แกรนด์ พระราม 9 และมีการปิดไฟสถานที่สำคัญหลายแห่ง เช่น พระบรมมหาราชวัง, วัดพระแก้ว, วัดอรุณราชวรมหาวิหาร, สะพานพระราม 8, ภูเขาทอง, วัดสระเกศ รวมถึงต่างจังหวัดในหลายเมืองด้วย ซึ่งผลจากการปิดไฟ 1 ชั่วโมงในพื้นที่กรุงเทพฯ พบว่า สามารถลดปริมาณการใช้ไฟฟ้าไปได้ 2,002 เมกะวัตต์ หรือคิดเป็นอัตราลดการใช้ไฟฟ้าลงได้ 7,863,635 บาท เทียบเป็นปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลดลง 1,026 ตัน
อย่างไรก็ตาม กิจกรรมปิดไฟในช่วง Earth Hour เป็นเพียงการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ของประชาชนทั่วโลกเท่านั้น แต่ความสำคัญที่แท้จริงอยู่ที่การตระหนักรู้ว่า ทุกพฤติกรรมของเราล้วนแล้วแต่เชื่อมโยงและส่งผลกระทบไปถึงโลกใบนี้ทั้งสิ้น
