×

เลือกตั้ง 2566 : พิธายืนยันขึ้นค่าแรงตามนโยบายที่หาเสียงไว้ พร้อมผลักดันนโยบายให้ได้มากที่สุด แม้ไม่อยู่ใน MOU

โดย THE STANDARD TEAM
23.05.2023
  • LOADING...

วันนี้ (23 พฤษภาคม) พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย พริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้จัดการการสื่อสารและการรณรงค์นโยบายพรรคก้าวไกล และ วีระยุทธ กาญจน์ชูฉัตร ทีมเศรษฐกิจพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าในการทำงานของพรรคก้าวไกล ซึ่งอยู่ในกระบวนการจัดตั้งรัฐบาล ว่าถึงแม้ภาคธุรกิจและตลาดทุนอาจกังวลกับความล่าช้าในการรับรองผลของคณะกรรมการการเลือกตั้ง และท่าทีของสมาชิกวุฒิสภา

 

พิธากล่าวว่า แต่ตนและพรรคก้าวไกลเริ่มทำงานทันทีด้วยการเดินสายพูดคุยกับประชาชนกลุ่มต่างๆ เพื่อรับฟังปัญหาและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น โดยช่วงเช้าที่ผ่านมาตนและคณะทำงานเพื่อเปลี่ยนผ่านรัฐบาลของพรรคก้าวไกลได้ร่วมประชุมหารือกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ในหลายเรื่อง โดยเฉพาะประเด็นเรื่องค่าแรงที่เห็นตรงกันว่าต้องมองภาพระยะยาวไปที่การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศเป็นหลัก จำเป็นต้องแก้ไขปัญหาหลายด้านไปพร้อมกัน ไม่ว่าจะเป็นการจัดการต้นทุนพลังงาน การยกระดับทักษะแรงงาน การช่วยเหลือส่งเสริม SMEs การพัฒนาอย่างยั่งยืน การปรับปรุงกฎระเบียบลดใบอนุญาต ตลอดจนการจัดการน้ำเพื่อเกษตรกรรมและอุตสาหกรรม ต้องออกแบบให้ครบวงจรและประสานงานข้ามกระทรวงให้ได้

 

พิธายืนยันว่าพรรคก้าวไกลเห็นความจำเป็นในการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำตามที่หาเสียงไว้ พร้อมกันนี้ต้องมีแพ็กเกจนโยบายเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อ SMEs โดยยืนยันว่าหัวใจสำคัญคือการปรับระบบค่าแรงขั้นต่ำขึ้นทุกปีโดยอัตโนมัติ ตามร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คุ้มครองแรงงาน ที่จะนำเสนอโดยพรรคก้าวไกล 

 

“การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเพื่อบรรเทาทุกข์ของประชาชนจะมีแน่นอน และเชื่อว่าพรรคร่วมรัฐบาลพรรคอื่นที่มีนโยบายค่าแรงจะเห็นด้วย โดยพรรคก้าวไกลเคยเสนอว่าค่าแรงขั้นต่ำที่เป็นธรรม สอดคล้องกับผลิตภาพแรงงานที่เพิ่มขึ้นและอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจอยู่ที่ 450 บาทต่อวัน หลังจากนี้เราจะเดินหน้ารับฟังความเห็นจากคนทุกกลุ่มอย่างรอบคอบ เพื่อหาข้อสรุปและนโยบายสนับสนุนการปรับตัวที่เหมาะสม” พิธากล่าว

 

ส่วนความชัดเจนต่อประเด็นในบันทึกความเข้าใจร่วมกันในการจัดตั้งรัฐบาล (MOU) และนโยบายที่พรรคก้าวไกลจะผลักดันนั้น พิธากล่าวว่า นโยบายที่อยู่ใน MOU คือ ‘วาระร่วมกันขั้นต่ำ’ ที่พรรคก้าวไกลและว่าที่พรรคร่วมรัฐบาลอื่นจะทำร่วมกันผ่านอำนาจฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติ ทั้งนี้ ในอนาคตก็อาจมีการเพิ่มเติมวาระร่วมอื่นเข้าไปได้อีก หากพรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาลทุกพรรคเห็นตรงกัน

 

ขณะเดียวกันพรรคก้าวไกลก็มี ‘วาระเฉพาะ’ ของพรรคที่พร้อมผลักดันต่อด้วยกลไกฝ่ายบริหารและกลไกรัฐสภา ได้แก่ ร่างกฎหมายก้าวไกล 45 ฉบับ ซึ่งบางเรื่องปรากฏใน MOU แล้ว พรรคก้าวไกลขอยืนยันว่าจะขับเคลื่อน 300 นโยบายที่สื่อสารกับประชาชนเอาไว้ก่อนเลือกตั้งให้ได้มากที่สุด ภายใต้บริบทของรัฐบาลผสมที่มีพรรคก้าวไกลเป็นแกนนำ

 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X