InnovestX ชี้ นักลงทุนกังวลการเมืองมีความไม่ชัดเจน หลังก้าวไกลชนะเลือกตั้งเป็นแกนนำรัฐบาล เหตุมีนโยบายอ่อนไหวกระทบสถานภาพทางการเมือง แถมหวั่นนโยบายหยุดทุนผูกขาดกระทบไฟฟ้า ค้าปลีก และสื่อสาร
สิทธิชัย ดวงรัตนฉายา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิจัยการลงทุน บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ (InnovestX) กล่าวผ่านรายการ Morning Wealth ว่า ตลาดหุ้นไทยที่ปรับตัวลดลงหลังทราบผลการเลือกตั้ง ซึ่งพรรคก้าวไกลได้คะแนนเสียงจากการเลือกตั้งสูงสุด ได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ส่งผลให้นักลงทุนมีความกังวลจากความไม่ชัดเจนทางการเมืองเกิดขึ้นว่าจะดำเนินต่อไปอย่างไร ประกอบกับยังไม่เคยมีผลงานจากการเป็นรัฐบาล รวมถึงพรรคก้าวไกลยังมีนโยบายที่ประกาศไว้ ซึ่งมีความอ่อนไหวว่าจะมีการปฏิรูปในด้านต่างๆ ซึ่งจะมีความเสี่ยงต่อสถานภาพทางการเมืองด้วย
ส่วนกรณีผลกระทบ Downside ที่จะมาจากนโยบายหยุดธุรกิจทุนผูกขาดของพรรคก้าวไกล ประเมินว่าอาจกระทบเงินลงทุนใหม่ที่จะเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทย รวมถึงจะมีการลดการเปิดประมูลโรงไฟฟ้าใหม่ในอนาคตตามนโยบายที่พรรคก้าวไกลประกาศไว้ ซึ่งจะเป็นความเสี่ยง ส่งผลให้มีความกังวลเกิดขึ้นในหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า รวมถึงนโยบายการลดค่าไฟฟ้า ก็จะมีผลกระทบต่อทั้ง บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF), บมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) และ บมจ.บี.กริม เพาเวอร์ (BGRIM)
“การรีแอ็กชันของตลาดหุ้นไทยถือว่าค่อนข้างรุนแรง โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับทุนผูกขาดที่เป็นนโยบายของพรรคก้าวไกลที่ประกาศไว้ กลุ่มโรงไฟฟ้าคือ GULF, ค้าปลีกคือ CPALL หรือ TRUE, DTAC, ADVANC ที่น่าจะเป็นกลุ่มก้อน อาจมีส่วนแบ่งทางการตลาดที่สูงในตลาดธุรกิจทั้งหมด”
ทั้งนี้ ยังต้องติดตามต่อไปว่าการดำเนินนโยบายในการหยุดทุนผูกขาดของพรรคก้าวไกลจะมีการทำในลักษณะใดและมีความรุนแรงแค่ไหน เป็นประเด็นที่ปัจจุบันนักลงทุนยังไม่เห็นความชัดเจน และยังต้องติดตามถึงความคืบหน้าถึงรูปแบบในการจัดตั้งรัฐบาลด้วยว่าจะออกมาอย่างไร
ส่วนคำแนะนำการลงทุนในระยะสั้นแนะนำให้ลงทุนในหุ้น Defensive ที่ไม่ถูกผลกระทบจากนโยบายของพรรคก้าวไกล เช่น กลุ่มธนาคารพาณิชย์, กลุ่มเฮลท์แคร์ ที่ธุรกิจกำลังจะเข้าสู่ช่วงไฮซีซัน หรือหากยังรับความเสี่ยงไม่ได้ ให้ชะลอการลงทุน ถือเงินสดรอจังหวะเข้าซื้อในช่วงที่ปัจจัยการเมืองมีความชัดเจนมากขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- SCB EIC คาดนักท่องเที่ยวจีนทะลักเข้าไทยปีนี้ ‘ไม่ต่ำกว่า 4 ล้านคน’ พร้อมมองความเสี่ยงโลกถดถอยเริ่มลดลงจาก 3 ปัจจัย
- SCB CIO มองเงินบาทสิ้นปีแตะ ‘33-34 บาทต่อดอลลาร์’ แนะนักลงทุนป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน
- SCBX โชว์กำไรสุทธิปี 65 จำนวน 3.75 หมื่นล้าน โต 5.5% รับรายได้ดอกเบี้ยพุ่ง ขณะที่ ttb กวาดกำไรทะลุ 1.4 หมื่นล้าน เพิ่มจากปีก่อน 36%