Black Knight คือซีรีส์เกาหลีในแนวไซไฟที่น่าสนใจมากๆ ของปีนี้ คิมอูบิน, อีซม, คังยูซอก, คิมอึยซัง, ซองซึงฮอน นักแสดงนำของซีรีส์ และผู้กำกับโจอึยซอก ให้สัมภาษณ์ในวันแถลงข่าวเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม เกี่ยวกับความท้าทายใหม่ของอุตสาหกรรมเกาหลีในการบอกเล่าเรื่องราวแห่งโลกอนาคต ที่มีแนวโน้มว่าจะเกิดขึ้นจริงได้ไม่ยาก
คิมอูบิน เป็นตัวแทนนักแสดงเล่าถึงเรื่องราวอย่างย่อของซีรีส์ “Black Knight อยู่ในโลกอนาคตของคาบสมุทรเกาหลีที่เต็มไปด้วยฝุ่นพิษและแห้งแล้ง อัศวินขนส่งในตำนาน ‘5-8’ รวมถึง ซาวอล เด็กหนุ่มผู้ลี้ภัยที่ใฝ่ฝันจะมีชีวิตที่ดีขึ้น พวกเขาได้ร่วมกันต่อต้านชอนมยองกรุ๊ป ผู้ครอบครองทรัพยากรทั้งหมดเพียงกลุ่มเดียว”
ผู้กำกับโจอึยซอก เจ้าของผลงานภาพยนตร์ Cold Eyes, The World of Silence เล่าถึงจุดเริ่มต้นและแรงจูงใจในการสร้างซีรีส์ Black Knight เรื่องราวจากเว็บตูนยอดนิยมของนักเขียน อียุนคยุน
“Black Knight เล่าเรื่องราวในโลกอนาคตของคาบสมุทรเกาหลี และเล่าถึงอัศวินขนส่งในตำนาน ‘5-8’ ครับ เขาเป็นพนักงานส่งของ มีหน้าที่ขนส่งออกซิเจนและของใช้จำเป็นต่างๆ ให้กับผู้คน แต่พอกลางคืนพนักงานส่งของซึ่งเคยเป็นผู้ลี้ภัยมาก่อน ได้มารวมตัวกันในนามของ Black Knight เพื่อปกป้องเหล่าผู้ลี้ภัย โดยมีความพยายามจะต่อต้านชอนมยองกรุ๊ป ผมคิดว่าพวกเขาเป็นเหมือน Knight หรืออัศวินที่ส่งของตอนกลางวัน และอัศวินลึกลับที่ปกป้องผู้คนในยามค่ำคืนครับ”
“ครั้งแรกที่ผมได้อ่านเว็บตูนต้นฉบับ ผมชอบโลกที่ถูกเล่าถึงในเรื่อง รวมถึงองค์ประกอบของตัวละคร ‘นักล่า’ ที่พนักงานส่งของต้องต่อสู้ด้วย เพื่อส่งสิ่งของจำเป็นให้กับประชาชน ผมได้พูดคุยแลกเปลี่ยนกับผู้เขียนเว็บตูนและดัดแปลงหลายจุด ต้องขอบคุณผู้เขียนเว็บตูนที่ให้อิสระในการปรับเปลี่ยนและเกิดเป็นซีรีส์เรื่องนี้ครับ”
คิมอูบิน, อีซม, คังยูซอก, คิมอึยซัง, ซองซึงฮอน ทีมนักแสดงนำใน Black Knight ได้บอกเล่าความรู้สึกเมื่อได้อ่านบทครั้งแรก และเป็นงานที่ทำให้พวกเขาได้กลับมาเจอกับเพื่อนนักแสดง รวมถึงผู้กำกับที่เชื่อมืออีกครั้ง
พวกคุณรู้สึกอย่างไรบ้างตอนที่ได้อ่านบท Black Knight เป็นครั้งแรก
คิมอูบิน: เมื่อไม่นานมานี้พวกเรายังต้องสวมใส่มาสก์กันอยู่เลยใช่ไหมครับ พอผมได้อ่านบทครั้งแรก ผมรู้สึกว่านี่มันอาจจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้จริงในอนาคต ทำให้ผมยิ่งสนใจเรื่องราวและตัวละครต่างๆ โดยเฉพาะตัวละคร 5-8 อีกอย่างผมเคยร่วมงานกับผู้กำกับโจอึยซอกมาก่อนในภาพยนตร์เรื่อง Master ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่เยี่ยมมาก ผมเชื่อในตัวผู้กำกับ และนั่นเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ผมอยากร่วมงานกับเขาในซีรีส์เรื่องนี้ครับ
ซองซึงฮอน: ผู้กำกับเกริ่นกับผมถึงเรื่องราวของ Black Knight ตอนที่เขากำลังอยู่ในขั้นตอนเขียนบทครับ เขาเล่าถึงโลกดิสโทเปียที่แห้งแล้งเป็นทะเลทราย กรุงโซลที่กลายเป็นดินแดนรกร้าง ที่จริงผมเป็นเพื่อนกับผู้กำกับมากว่า 20 ปีแล้ว ผมจึงเชื่อใจเขา ผมบอกเขาว่าไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวแบบไหนก็ตาม ถ้ามีบทที่เหมาะกับผม ผมก็อยากมีส่วนร่วมด้วย ผมรู้สึกดีใจที่ได้ร่วมงานกับเพื่อนเก่าของผมครับ
คังยูซอก: ตอนที่ผมได้อ่านบท ผมชอบองค์ประกอบความเป็นไซไฟในเนื้อเรื่อง และก็อดสงสัยไม่ได้ว่ามันจะออกมาอย่างไรเมื่อไปอยู่ในจอจริงๆ นอกจากความเป็นไซไฟแล้ว ยังมีฉากแอ็กชันอีกมากมาย เหล่าตัวละครไม่ว่าจะเป็น 5-8 ซาวอล และ ซอลอา ทุกตัวละครต่างก็มีเอกลักษณ์ที่น่าติดตาม ผมคิดว่าคุณผู้ชมเองก็ต้องชอบครับ
อีซม: ครั้งแรกที่ได้อ่านบทฉันรู้สึกว่าพนักงานส่งของมีบทบาทสำคัญต่อชีวิตเรามากค่ะ และในโลกอนาคตพวกเขายิ่งมีบทบาทต่อการอยู่รอดของมวลมนุษย์ ซึ่งน่าสนใจมาก ฉันคิดว่าผู้กำกับตีความเรื่องราวจากต้นฉบับได้อย่างยอดเยี่ยม และเชื่อว่าเขาต้องถ่ายทอดเรื่องราวออกมาเป็นซีรีส์ได้ดีค่ะ
Black Knight เต็มไปด้วยตัวละครในหลายฝ่าย ทั้งฝ่ายคนส่งของ ฝ่ายทหาร ฝ่ายเจ้าของธุรกิจ และฝ่ายประชาชนที่แบ่งเป็นชนชั้นต่างๆ สำหรับคิมอูบิน เขารับบท 5-8 ซึ่งเป็นคนส่งของในตำนาน ด้วยความแข็งแกร่ง แต่ถึงอย่างนั้น ก่อนหน้านี้เขาก็เป็นเพียงคนคนหนึ่งที่อยากมีชีวิตที่ดีขึ้น
ช่วยเล่าเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวละครของคุณในเรื่องนี้ได้หรือไม่?
คิมอูบิน: 5-8 เป็นพนักงานขับรถส่งของ ในซีรีส์ Black Knight คนส่งของทำหน้าที่ขนส่งของใช้ที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตของผู้คน แต่แล้วก็มีกลุ่มนักล่าที่คอยดักปล้นของเหล่านั้น ดังนั้นคนที่จะเป็นพนักงานขนส่งต้องแข็งแกร่งมาก และ 5-8 ก็เป็นอัศวินขนส่งในตำนานที่แข็งแกร่งที่สุดครับ
Black Knight เป็นการรวมตัวของเหล่าพนักงานส่งของทั้งหมด 11 คน รวมทั้ง 5-8 ด้วย พวกเขาเคยเป็นผู้ลี้ภัยมาก่อน ตอนกลางวันส่งพัสดุ แต่พอกลางคืนจะคอยช่วยเหลือบรรดาผู้ลี้ภัยเพื่อให้ได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข และได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมครับ
อะไรคือสิ่งที่คุณให้ความสำคัญที่สุดในการแสดงเป็น 5-8 ในซีรีส์ Black Knight
คิมอูบิน: อันที่จริงไม่ว่าจะเป็นผลงานเรื่องไหน ผมจะตั้งคำถามอยู่เสมอว่า ทำไมตัวละครที่ผมรับถึงคิดแบบนี้ หรือพูด หรือกระทำแบบนั้น ผมว่ามันสำคัญที่สุดครับ ยิ่งสำหรับตัวละคร 5-8 ซึ่งเคยเป็นผู้ลี้ภัยมาก่อน ผู้ลี้ภัยมักจะอ่อนไหวเพราะมีสถานะเป็นคนลี้ภัย ดังนั้นผมจึงนึกถึงความยากลำบากที่เขาต้องเผชิญ และตระหนักว่าโลกใบใหม่ที่ดีกว่าแบบที่เขาต้องการนั้น จริงแล้วๆ เป็นโลกแบบไหนกันแน่ครับ
Black Knight คุณมีฉากแอ็กชันค่อนข้างเยอะมาก พอจะเล่าถึงความประทับใจให้ฟังสักหน่อยได้ไหม
คิมอูบิน: ในบรรดาฉากแอ็กชันของผม ฉากที่จำได้ขึ้นใจมากที่สุดคือฉากที่ 5-8 มองย้อนกลับไปยังอดีต ลำดับเหตุการณ์ต่างๆ มันค่อนข้างโหดร้าย ในขณะที่ผมแสดง ผมต้องการถ่ายทอดอารมณ์ของตัวละครออกมาให้ดีที่สุด และหวังว่ามันจะถูกส่งผ่านไปถึงผู้ชมครับ
ซองซึงฮอน รับบทเป็น รยูซอก ประธานกลุ่ม CM หรือชอนมยองกรุ๊ป เขาเล่าเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวละครของเขา รวมถึงความมุ่งมั่นอันร้ายกาจ
ซองซึงฮอน: สิ่งที่จำเป็นที่สุดในโลกอันรกร้างที่แห้งเป็นผืนทรายและขาดอากาศหายใจก็คือออกซิเจน ชอนมยองกรุ๊ปผลิตออกซิเจนและควบคุมการจัดจำหน่ายทั้งหมด รยูซอกเป็นคนทะเยอทะยานและมั่นใจในตัวเองสูง เขามีแผนการร้ายและหวังจะเป็นผู้บงการทุกสิ่งในโลกใบใหม่ ซึ่งเป็นเหตุผลให้ 5-8 ซาวอลและซอลอาต้องการเปิดโปงและพยายามขัดขวางเขาครับ
คังยูซอก รับบทเป็น ซาวอล เด็กหนุ่มผู้ลี้ภัย ที่บังเอิญไปอาศัยอยู่ในบ้านของซอลอา และได้รับการดูแลจนเติบโตขึ้นมา ส่วนอีซม พลิกบทบาทมารับบทผู้บริหารระดับสูงในกองทัพ พวกเขาเล่าถึงตัวละครใน Black Knight ให้ฟัง
คังยูซอก: ซาวอลชื่นชมและมุ่งมั่นที่จะเป็นแบบเดียวกับ 5-8 เขาอาศัยอยู่กับซอลอาในพื้นที่ต้องห้ามสำหรับผู้ลี้ภัย เขาอยากมีชีวิตเหมือนอัศวิน 5-8 อยากมีคิวอาร์โค้ดเป็นของตัวเอง ผมมองว่าเขาเป็นคนสดใสและกล้าหาญครับ
อีซม: ซอลอาเป็นคนมีเสน่ห์ กล้าหาญ และมีความเป็นผู้นำ ตอนเด็กเธอได้ช่วยเหลือซาวอล เด็กหนุ่มผู้ลี้ภัยและเลี้ยงดูเขามาจนโต ตัวซอลอาเองก็ตั้งข้อกังขาเกี่ยวกับรยูซอกและชอนมยองกรุ๊ป เธอจึงเริ่มสืบสวนความไม่ชอบมาพากลนี้ด้วยตัวเองค่ะ
นอกจากเรื่องราว การแสดง และงานสร้างแล้ว ต้องยอมรับว่างานคอมพิวเตอร์กราฟิกและการสร้างฉากหลังของโลกที่รกร้างจนกลายเป็นทะเลทราย ทำออกมาได้สมจริงมาก ซึ่งทั้งหมดเป็นทีมงานเกาหลีใต้ทั้งสิ้น ผู้กำกับโจอึยซอก ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับงานสร้างไว้ว่า “ทีมนักแสดงต้องแสดงกับบลูสกรีน ขณะเดียวกัน CG ทำให้ทุกอย่างออกมาดูดีมาก เราใช้ความทุ่มเทและใช้เวลาเยอะมาก เพื่อให้ได้ภาพของดินแดนแห้งแล้งจนกลายเป็นทะเลทราย โลกที่เต็มไปด้วยมลพิษจนไม่อาจจะหายใจได้ ต้องขอบคุณทีม VFX ทุกคนที่ทุ่มเทด้วยครับ”
ซองซึงฮอน: ในซีรีส์ Black Knight คุณจะได้เห็นบรรยากาศที่คุ้นตาอย่างนัมซานทาวเวอร์ แต่ก็กลับดูแตกต่างอย่างสิ้นเชิงเมื่ออยู่ในโลกที่แห้งแล้งเป็นผืนทราย ถึงตัวผมเองยังไม่ได้ดูฉบับตัดต่อสมบูรณ์ แต่ผมคิดว่าเอฟเฟกต์ CG จะต้องสร้างภาพที่แปลกใหม่แน่นอน
ตลอดการถ่ายทำเรื่องนี้ผมได้ตระหนักถึงความสำคัญของหลายๆ อย่าง เช่น ออกซิเจน ตอนนี้เราอาจไม่คิดว่ามันเป็นสิ่งสำคัญ แต่ถ้าเรื่องจริงเป็นเหมือนโลกใน Black Knight ที่ทุกคนต้องสูดอากาศผ่านหน้ากากออกซิเจน ผมเชื่อว่าคงไม่มีใครอยากให้เป็นอย่างนั้นแน่ๆ ซีรีส์เรื่องนี้จะทำให้เราตระหนักถึงปัญหามลภาวะทางอากาศมากขึ้นครับ
ซีรีส์ Black Knight นอกเหนือจะเป็นงานไซไฟโลกอนาคต ยังมีซีนแอ็กชันเดือดๆ อีกไม่น้อย รวมถึงการสะท้อนปัญหาสังคมในการควบรวมอำนาจไว้เพื่อคนเพียงกลุ่มเดียว ความเหลื่อมล้ำและความไม่เท่าเทียมยังคงมีอยู่ ถ้าลองจินตนาการว่าเหตุการณ์ฝุ่นพิษและความแห้งแล้งรุนแรง ถ้าหากเกิดขึ้นจริง ก็เป็นไปได้จริงๆ ว่าจะมีคนเพียงหยิบมือ ได้รับผลประโยชน์และมีชีวิตสุขสบาย ส่วนคนอีกมากมายทั่วโลกต่างต้องทนทุกข์ เพียงเพราะไม่ได้ถูกเลือกให้เป็นคน 1% เหล่านั้น
ตัวอย่างซีรีส์ Black Knight: