เจมี ไดมอน ซีอีโอของ JPMorgan Chase สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกาที่มีสินทรัพย์สูงถึง 3.7 ล้านล้านดอลลาร์ เปิดเผยกับ Bloomberg ว่า เขาได้สั่งตั้งวอร์รูมขึ้นภายในองค์กร เพื่อเกาะติดสถานการณ์เพดานหนี้ของสหรัฐฯ และเตรียมแผนรับมือในกรณีที่สหรัฐฯ ต้องผิดนัดชำระหนี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
ไดมอนระบุว่า ในเบื้องต้นวอร์รูมของเขาจะมีการประชุมกันสัปดาห์ละ 1 ครั้ง แต่หากสถานการณ์เพดานหนี้ยังไม่สามารถคลี่คลายได้ภายในวันที่ 21 พฤษภาคมนี้ การประชุมจะเพิ่มความถี่ขึ้นเป็นวันละ 1 ครั้ง ก่อนจะขยับเป็นวันละ 3 ครั้งในที่สุด
“การผิดนัดชำระหนี้ (ในกรณีที่เกิดขึ้น) จะสร้างแรงกระเพื่อมไปทั่วโลกการเงิน ส่งผลกระทบต่อสัญญากู้ยืม หลักประกัน และระบบการหักชำระหนี้ จะส่งผลกระทบต่อลูกค้าของเราทั่วโลกอย่างแน่นอน ผมจึงอยากเรียกร้องให้ทั้งฝ่าย (เดโมแครตและรีพับลิกัน) เจรจาหาข้อตกลงกันให้ได้โดยเร็ว” ไดมอนกล่าว
ซีอีโอของ JPMorgan Chase ยังเตือนด้วยว่า ยิ่งสหรัฐฯ เข้าใกล้ความเสี่ยงที่จะผิดนัดชำระหนี้ ตลาดก็จะตื่นตระหนกและมีความผันผวนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในตลาดหุ้น ขณะที่ผลตอบแทนพันธบัตรก็จะยิ่งปรับตัวสูงขึ้น
“ถ้าเราปล่อยให้สถานการณ์ล่วงเลยไปถึงจุดที่จะสร้างความตื่นตระหนก (Panic Point) ตลาดจะเกิดความผันผวนอย่างรุนแรง ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องดีแน่ ตลาดทั่วโลกจะได้รับผลกระทบตามไปด้วย” เขากล่าว
ไดมอนเปิดเผยด้วยว่า เขาได้พูดคุยกับผู้บริหารของธนาคารท้องถิ่นหลายแห่งหลังจากที่ธนาคารของเขาเข้าซื้อกิจการ First Republic Bank โดยเขาพบว่า ธนาคารส่วนใหญ่ยังมีเสถียรภาพและมีแนวโน้มที่จะทำผลประกอบการได้ดี อย่างไรก็ตาม โอกาสที่จะเกิดแบงก์รันและมีธนาคารขนาดเล็กปิดตัวเพิ่มเติมอีกก็ยังมีอยู่เช่นกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- สตาร์ทอัพเครียด! อาจจ่ายเงินให้กับพนักงานไม่ได้ เหตุ Silicon Valley Bank ถูกสั่งปิด หลังกลายเป็นแบงก์ที่ล้มหนักสุด ตั้งแต่ปี 2008
- ‘Silicon Valley Bank’ ประสบเหตุ Bank Run และถูกสั่งปิดชั่วคราว พร้อมหาคำตอบว่าวิกฤตนี้จะลุกลามแค่ไหน?
- สิ้นยุคเทคสหรัฐ? กระแสเลย์ออฟใน ‘Silicon Valley’ มีทิศทางเลวร้ายมากขึ้นเรื่อยๆ
อ้างอิง: