เมื่อคืนที่ผ่านมา (3 พฤษภาคม) เด็กชายวัยเพียง 13 ปีก่อเหตุกราดยิงใส่เพื่อนนักเรียน 8 คน และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอีก 1 คนจนถึงแก่ชีวิต ที่โรงเรียนประถมศึกษา Vladislav Ribnikar ในกรุงเบลเกรด ประเทศเซอร์เบีย ขณะมีผู้บาดเจ็บอีกเป็นจำนวนมาก โดยสิ่งที่น่าตกใจคือเด็กชายคนดังกล่าวได้เตรียมการวางแผนมาเป็นอย่างดี ส่งผลให้ประธานาธิบดีเซอร์เบียออกมาประกาศว่าจะยกระดับกฎหมายครอบครองอาวุธปืนให้เข้มงวดมากขึ้น
สื่อต่างประเทศรายงานว่า เด็กชายคนนี้ใช้ปืนพกของพ่อตนเอง 2 กระบอกในการก่อเหตุ โดยเด็กชายได้ยิงใส่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและเด็กหญิง 3 คนที่อยู่ในโถงทางเดิน ก่อนที่จะตรงเข้าไปยิงครูและเพื่อนร่วมชั้นเรียนอีกหลายคนในคาบเรียนวิชาประวัติศาสตร์ โดยครูและเด็กนักเรียน 6 คนเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลแล้ว ซึ่งในจำนวนดังกล่าวมีผู้บาดเจ็บสาหัสด้วย
เวเซลิน มิลิค (Veselin Milic) หัวหน้าตำรวจของกรุงเบลเกรด กล่าวว่า เด็กชายที่ก่อเหตุมีปืน 2 กระบอก อีกทั้งยังมีระเบิดเพลิง 2 ลูก และวางแผนทุกอย่างมาอย่างรอบคอบ รวมถึงมีรายชื่อของเพื่อนนักเรียนที่เขาต้องการจะฆ่าทิ้ง
ทั้งนี้ เซอร์เบียเป็นประเทศที่มีการครอบครองปืนอย่างแพร่หลาย โดยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาเกิดเหตุกราดยิงอยู่บ่อยครั้ง แต่การกราดยิงในโรงเรียนเป็นสิ่งที่แทบไม่เคยเกิดขึ้น ขณะที่ประธานาธิบดีอเล็กซานดาร์ วูซิช (Aleksandar Vucic) กล่าวว่า ทางการจะยกระดับการตรวจสอบให้เข้มข้นขึ้นกว่าเดิม
ภายหลังเกิดเหตุดังกล่าว เซอร์เบียประกาศไว้อาลัยทั่วประเทศเป็นเวลา 3 วัน ขณะเดียวกัน ผู้นำเซอร์เบียยังประกาศระงับการอนุมัติใบอนุญาตครอบครองปืนใหม่นอกเหนือจากการล่าสัตว์ รวมถึงจะมีการทบทวนใบอนุญาตที่มีอยู่ในปัจจุบัน และตรวจสอบการเก็บอาวุธของพลเรือนด้วย
วูซิชเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เด็กชายได้เข้ามอบตัวกับตำรวจแล้ว แต่ด้วยความที่เขามีอายุเพียง 13 ปี ซึ่งเป็นอายุที่ยังไม่ถึงเกณฑ์ต้องรับผิดชอบทางอาญาของเซอร์เบีย เด็กคนดังกล่าวจึงจะถูกนำตัวส่งสถาบันด้านจิตเวช ส่วนพ่อและแม่ของเด็กชายถูกจับกุมตัวแล้ว แม้ว่าจากการตรวจสอบพ่อของเด็กจะครอบครองปืนอย่างถูกกฎหมายก็ตาม
อนึ่ง เซอร์เบียเป็นประเทศที่มีกฎหมายควบคุมอาวุธปืนที่เข้มงวดมาก แต่ขณะเดียวกัน ยอดการครอบครองปืนของประชาชนในประเทศก็สูงมากด้วยเช่นเดียวกัน โดยข้อมูลจาก Small Arms Survey เมื่อปี 2018 ระบุว่า อัตราการครอบครองปืนของเซอร์เบียอยู่ที่ 39.1 กระบอกต่อประชากร 100 คน
ภาพ: Srdjan Stevanovic / Getty Images
อ้างอิง: