ปัจจุบันในสังคมที่ดำเนินด้วยกลไกทุนนิยม ทุกอย่างมีการแข่งขันเพื่อแลกมาด้วยเงินตราที่เป็นปัจจัยที่ 5 ในการดำรงชีวิต จนทำให้สิ่งต่างๆ สามารถกลายมาเป็นสินค้าได้ แม้กระทั่งร่างกายมนุษย์เองก็กลายมาเป็นสินค้าและสร้างมูลค่าขึ้นมาได้ ทำให้มีความจำเป็นที่จะต้องพัฒนาสินค้านั้นๆ ที่อยู่ในรูปแบบของร่างกายมนุษย์อยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็น ดารา นักแสดง นักร้อง รวมไปถึงผู้ที่ทำงานในวงการงานเอ็นเตอร์เทน ต่างก็ใช้หน้าตาและรูปร่างเป็นจุดขายในการทำงาน 

 

การพัฒนาสินค้าที่อยู่ในรูปแบบนี้ก็เพื่อให้ตัวเองนั้นเป็นสินค้าที่เกิดความต้องการในตลาด ด้วยการสร้างความโดดเด่นให้ตัวเอง 

 

เนื่องจากการทำงานในวงการงานเอ็นเตอร์เทนมีการแข่งขันค่อนข้างสูง การรักษาหน้าตาและร่างกายที่เป็นต้นทุนสำคัญที่ใช้ในการอยู่ในแวดวงนี้ เพื่อให้เป็นผู้ที่เหนือกว่าและตัวเลือกที่ดีในการแข่งขัน นอกจากนี้ก็ยังนำไปใช้ในการทำงานเพื่อแลกกับตัวแปรสำคัญในสังคมทุนนิยมที่เรียกว่า ‘เงิน’ ได้

 

การสร้างต้นทุนด้วยการดูแลตัวเอง

 

การที่ต้องใช้หน้าตาที่หล่อเหลา รูปร่างที่ดูดีเป็นสิ่งดึงดูด ให้ผู้ใช้บริการเลือกที่จะใช้บริการกับผู้ให้บริการคนนั้น ทำให้ผู้ที่ทำงานในวงการงานเอ็นเตอร์เทนจำเป็นต้องดูแลร่างกายอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการคอยดูแลตัวเองให้สม่ำเสมอด้วยการเข้าคลินิกเสริมความงามเพื่อให้มีผิวพรรณที่ดูดี รักษาผิวหน้าให้เนียนใสไม่มีสิว ฝ้า กระ ซึ่งเป็นค่านิยมของคนในสังคมว่า นี่คือหน้าตาดี ผิวดี การซื้อเสื้อผ้าใหม่ๆ ตลอดเวลาเพื่อให้มีรูปแบบการแต่งกายที่หลากหลายและเข้ากับไลฟ์สไตล์ของตัวเอง ซึ่งการแต่งตัวหลากหลายสไตล์ ทั้ง สายมินิมัล สายเกาหลี ก็ตอบโจทย์ความชื่นชอบของผู้เลือกใช้บริการได้ รวมไปถึงการเลือกใช้วิธีการเสริมการแต่งกายด้วยการใช้สินค้าแบรนด์เนมเพื่อให้ตัวเองดูดี มีระดับ และสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า เข้ากับคอนเซปต์ที่เรียกว่า ‘ดูแพง’ ในสังคมการทำงานที่หลายๆ คนต่างแข่งขันกันเพื่อให้ตัวเองนั้นเป็นที่จับตามอง ผ่านการสร้างอัตลักษณ์ของตัวเองขึ้นมาด้วยวิธีการเพิ่มปัจจัยอื่นๆ เข้ามาเพื่อใช้ในการดำรงชีวิต เช่น การเลือกใช้เครื่องแต่งกายหรือการเลือกทรงผมให้เข้ากับภาพลักษณ์ หรือแม้กระทั่งกลิ่นน้ำหอมที่มีความเฉพาะตัว จะทำให้ตัวเองนั้นมีความโดดเด่นเฉพาะตัวขึ้นมา หรือพูดได้อีกอย่างหนึ่งว่าคือการสร้างรสนิยมขึ้นมานั่นเอง

 

การดูแลตัวเองในมุมมองเด็กเอ็นท์ในแต่ละรูปแบบ

 

จากการศึกษาข้อมูลผ่านงานวิจัย ‘ปรากฏการณ์งานเอ็นเตอร์เทนชาย: การเข้าสู่ การดำรงอยู่ และการออกจากงาน’ สรุปได้ว่างานเอ็นเตอร์เทนนั้นมี 3 รูปแบบการให้บริการ ที่มีรูปแบบการให้บริการที่แตกต่างออกไปขึ้นอยู่กับบริบทและเงื่อนไขตัวเนื้องาน ไม่ว่าจะเป็น พริตตี้บอย ที่ให้บริการภายใต้ร้านอาหาร ที่เน้นการให้บริการเป็นการเสิร์ฟอาหารเป็นส่วนใหญ่ และอาจมีการแสดงโชว์พิเศษเป็นบางครั้ง โฮสต์ ที่ให้บริการในผับหรือที่เรียกกันว่าบาร์โฮสต์ เป็นการบริการที่เน้นการสร้างความบันเทิงในวงสังสรรค์ของลูกค้า และเพื่อนเที่ยวออนไลน์ ที่เป็นการนัดผู้ให้บริการจากโลกออนไลน์มาเพื่อให้บริการนอกสถานที่ตามที่ลูกค้ากำหนดไว้ จะคอยดูแลลูกค้าต่างกันออกไปตามบริบทที่ลูกค้านั้นต้องการ ถึงแม้ว่ารูปแบบการให้บริการของงานเอ็นเตอร์เทนจะมีความแตกต่างกัน ทำให้ในด้านของการดูแลตัวเองนั้นอาจจะมีความแตกต่างกันไปเพื่อให้เหมาะสมกับบริบทการให้บริการ แต่จุดประสงค์ของการดูแลตัวเองนั้นมีเหมือนกันคือ เพื่อให้ตัวเองนั้นดูดีอยู่ตลอดเวลา และเพื่อสร้างความโดดเด่นในสายตาของผู้ที่มาใช้บริการ

 

การดูแลของพริตตี้บอยจะเป็นการเน้นดูแลรูปลักษณ์ภายนอกเป็นส่วนใหญ่ เหล่าพริตตี้บอยจะออกกำลังกายเพื่อให้รูปร่างของตนนั้นดูดีและสมสัดส่วนตลอดเวลา เนื่องจากการแสดงบางชุดต้องมีการถอดเสื้อประกอบการแสดง ในเรื่องการแต่งกายอาจจะไม่ได้มีการเน้นมาก เนื่องจากทางร้านจะมีชุดเครื่องแบบให้ ยกเว้นรองเท้าที่สามารถเลือกใส่ตามความมั่นใจของตัวเองได้ แต่เหล่าพริตตี้บอยก็จะสร้างอัตลักษณ์ผ่านการเลือกทำสีผม การแต่งหน้า และใช้เครื่องประดับให้แตกต่างกันออกไปในแต่ละคน

 

“ต้องดูแลตัวเอง เช่น ออกกำลังกาย เพราะว่าบางครั้งจะมีการถอดเสื้อบ้าง เพื่อเอ็นเตอร์เทนลูกค้า ส่วนอย่างอื่นก็พยายามทำให้ตนเองแตกต่างจะได้มีความเป็นเอกลักษณ์ของตนเอง” บี พริตตี้บอย (ชาย) 

 

 

การดูแลของหนุ่มโฮสต์จะมีการดูแลตัวเองที่ภายนอกเหมือนกับพริตตี้บอย เช่น การออกกำลังกาย การแต่งหน้า ทำผม โดยถ้ามีการแต่งตัวที่ดูไม่ดีหรือมีทรงผมที่ไม่เรียบร้อย ก็จะถูกผู้จัดการหรือเซลส์เรียกไปตำหนิและให้กลับไปจัดการตัวเองใหม่ให้ดูดี แล้วจึงค่อยกลับมาทำงานต่อในวันถัดไป  

 

นอกเหนือจากนี้ก็เป็นการดูแลตัวเองที่พิเศษขึ้นมาด้วยการเข้าคลินิกเสริมความงามเพื่อดูแลผิวพรรณ เพื่อเป็นการเพิ่มความมั่นใจให้กับตนเอง โฮสต์แต่ละคนจะมีการแต่งกายที่ไม่บังคับ สามารถแต่งกายตามใจตัวเองที่อยากจะนำเสนอไลฟ์สไตล์ได้ โฮสต์จึงเน้นการสร้างอัตลักษณ์ผ่านการใช้สินค้าแบรนด์เนม ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า รองเท้า หรือน้ำหอมที่จะสร้างความแตกต่างผ่านแต่ละกลิ่นที่เลือกใช้ได้ และน้ำหอมก็ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ใช้เสริมสร้างความมั่นใจของตัวโฮสต์ได้ เนื่องจากการทำงานนั้นต้องมีความใกล้ชิดกับลูกค้าตลอดเวลา โดยสินค้าแบรนด์พวกนี้สร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อตัวโฮสต์ และยังช่วยเสริมสร้างความมั่นใจได้อีกด้วย

 

“ใช้เงินเอามาดูแลตัวเอง พยายามแต่งตัวไม่ให้ซ้ำในแต่ละวัน ต้องคอยแต่งหน้าทำผม ส่วนการซื้อของแบรนด์เนมก็เอามาลงที่การแต่งตัว ทำให้แต่งตัวดูดีมากขึ้น ส่วนเรื่องทรงผม ถ้าหากวันไหนไม่เรียบร้อย ผู้จัดการร้านก็จะเรียกไปเตือนว่าไม่เรียบร้อยนะ ผมยาวไปแล้วนะ” ซี โฮสต์และเพื่อนเที่ยวออนไลน์ (เกย์) 

 

การดูแลตัวเองของเพื่อนเที่ยวออนไลน์ก็จะมีการเน้นดูแลตัวเองผ่านรูปลักษณ์ภายนอก มีความคล้ายโฮสต์ในด้านของการใช้สินค้าแบรนด์เนม ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า รองเท้า หรือน้ำหอมก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกันในด้านการสร้างจุดเด่นของตนเอง เนื่องจากการทำงานของเพื่อนเที่ยวออนไลน์ต้องอยู่ใกล้ชิดกับลูกค้าตลอดเวลาเช่นเดียวกัน เพื่อเพิ่มความมั่นใจและเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้ตัวเอง

 

“เราดูแลตัวเองโดย พยายามนอนให้พอ กินให้ครบ กินวิตามิน คอลลาเจน ผมพยายามออกกำลังกายเป็นประจำด้วย และรักษาความสะอาด” เอ เพื่อนเที่ยวออนไลน์ (ชาย)

 

“รายจ่ายก็เยอะตามรายได้ที่ได้มา เพราะต้องเอาเงินไปดูแลตัวเอง ซื้อเครื่องแต่งกายให้ดูดี อย่างแบรนด์เนม 1-2 ชิ้น เช่น น้ำหอม กระเป๋า” ดี โฮสต์และเพื่อนเที่ยวออนไลน์ (เกย์)

 

จะสังเกตได้ว่าในด้านของการทำงานเอ็นเตอร์เทนนั้นอาจจะได้รายได้มากในระยะเวลาอันสั้นก็จริง แต่งานเหล่านี้ก็ต้องมีต้นทุนที่ใช้ในการอยู่ในแวดวงอีกด้วย ไม่ว่าจะต้นทุนที่เป็นร่างกายและหน้าตาที่ดูดี หรือต้องมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงที่ต้องใช้ในการเสริมสร้างภาพลักษณ์ของตัวเองให้ดูดีและโดดเด่นกว่าคนที่อยู่ในสายงานเดียวกับตัวเอง งานเอ็นเตอร์เทนที่หลายคนคิดว่าเป็นงานที่ง่าย เบื้องลึกเบื้องหลังนั้นมีอะไรที่มากกว่าหลายๆ คนเห็น งานเอ็นเตอร์เทนนั้นจึงเป็นงานที่ต้องใช้ความสามารถและต้นทุนเหมือนงานอีกหลายๆ ประเภทเช่นกัน

 

คลิกอ่านตอนที่ 1: https://thestandard.co/entertainment-job-japan-origin/