วันนี้ (1 พฤษภาคม) ที่ศูนย์ประสานงานการขนส่งบัตรเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เป็นการทั่วไป พ.ศ. 2566 บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร
พล.ต.อ. รอย อิงคไพโรจน์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยการจัดการเลือกตั้ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศลต.ตร.) พร้อมด้วย ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด, รุจ ธรรมมงคล อธิบดีกรมการกงสุล และ แสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (เลขาฯ กกต.) ร่วมกันปล่อยขบวนรถขนส่งบัตรเลือกตั้งไปยังเขตเลือกตั้งทั่วประเทศ
พล.ต.อ. รอย กล่าวว่า ตามที่จะมีการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรนั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ได้รับมอบภารกิจให้สนับสนุนการปฏิบัติในการรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกด้านการจราจร โดยก่อนการเลือกตั้งในช่วงวันที่ 1-4 พฤษภาคมนี้ เป็นภารกิจในการขนส่งบัตรเลือกตั้งไปยังหน่วยเลือกตั้งทั่วประเทศ
ตร. ได้จัดให้มีตำรวจทางหลวงเป็นผู้อำนวยความสะดวกด้านการจราจร ทำหน้าที่รถนำและรถปิดท้ายขบวน โดยประสานงานกับตำรวจพื้นที่ตลอดเส้นทาง รวมถึงการจัดกำลังตำรวจตระเวนชายแดนเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจํารถขนบัตรเลือกตั้งในแต่ละคัน
โดยตำรวจตระเวนชายแดนจะนั่งประจำรถไปกับรถขนบัตรเลือกตั้งตลอดเส้นทางจนถึงจุดเขตเลือกตั้งหลักของแต่ละจังหวัด จากนั้นชุดรักษาความปลอดภัยบัตรเลือกตั้งของตำรวจภูธรภาค 1-9 ก็จะรักษาความปลอดภัยต่อไปยังจุดหมายปลายทางที่ทางสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดแต่ละจังหวัดกำหนด
ตร. ได้จัดทำแผนรองรับการปฏิบัติและมีความพร้อมในการปฏิบัติทุกขั้นตอน เพื่อสนับสนุนภารกิจการจัดการเลือกตั้งให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
ทั้งนี้ ในจุดพักรถ เติมน้ำมันเชื้อเพลิงตลอดเส้นทางจะมีตำรวจภูธรในพื้นที่นั้นๆ รักษาความปลอดภัย ณ จุดที่รถจอดพัก ตลอดเส้นทางการขนส่งบัตรเลือกตั้ง
พล.ต.อ. รอย กล่าวต่อไปว่า สำหรับกำลังตำรวจที่ใช้ในการรักษาความปลอดภัยในการขนส่งบัตรเลือกตั้งในวันที่ 1-4 พฤษภาคมนี้ ประกอบไปด้วย ข้าราชการตำรวจจากหน่วยต่างๆ ดังนี้
- ตำรวจกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน 78 นาย
- กองบังคับการตำรวจทางหลวง 478 นาย และรถยนต์นำขบวน 239 คัน
- กำลังพลของตำรวจภูธรและตำรวจนครบาลที่ใช้ในภารกิจนี้ประมาณ 800 นาย / รถยนต์ของตำรวจภูธรและนครบาลที่ใช้ในการรักษาความปลอดภัยฯ ต่อจากตำรวจทางหลวงอีกประมาณ 400 คัน รวมยอดกำลังพลทั้งสิ้น 1,356 นาย รถยนต์ที่ใช้ทั้งหมด 639 คัน
ด้านแสวงได้กล่าวถึงความพร้อมของสำนักงาน กกต. ในการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรให้มีการออกเสียงลงคะแนนก่อนวันเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตเลือกตั้ง-ในเขตเลือกตั้ง วันที่ 7 พฤษภาคม ว่า มีความพร้อมในทุกด้าน ทั้งวัสดุอุปกรณ์ สถานที่เลือกตั้ง และเจ้าหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยในหน่วยเลือกตั้ง
โดยสำนักงาน กกต. ได้มอบหมายให้บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เป็นหน่วยงานสนับสนุนและรับผิดชอบภารกิจการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2566 ตามภารกิจ ดังนี้
- การจัดส่งบัตรเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรล่วงหน้านอกราชอาณาจักรไปยัง 66 ประเทศ
- การจัดส่งหนังสือแจ้งรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไปยังเจ้าบ้าน (ส.ส.1/6) จํานวน 18.49 ล้านครัวเรือน
- การจัดส่งบัตรเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรล่วงหน้านอกเขตเลือกตั้ง / ในเขตเลือกตั้ง ที่ลงคะแนนแล้ว
- การจัดส่งบัตรเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและอุปกรณ์ที่ใช้ในการเลือกตั้งทั่วไป
- การจัดส่งและตอบกลับหนังสือแจ้งเจ้าบ้านที่ลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตเลือกตั้ง / ในเขตเลือกตั้ง
สำหรับวันที่ 7 พฤษภาคม 2566 เวลา 08.00-17.00 น. ผู้มีสิทธิลงคะแนนก่อนวันเลือกตั้งคือ ผู้ซึ่งได้ยื่นคำขอลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าไว้ก่อนหน้านี้แล้ว โดยสามารถตรวจสอบรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้ที่แอปพลิเคชัน SMART VOTE และผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่มีชื่อว่าเป็นผู้มีสิทธิลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าจะหมดสิทธิกลับไปลงคะแนนที่หน่วยเลือกตั้งเดิมที่ตนมีสิทธิเลือกตั้ง
ส่วนจํานวนผู้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิออกเสียงลงคะแนนก่อนวันเลือกตั้งล่วงหน้ามีจำนวนทั้งสิ้น 2,235,830 คน จำแนกเป็นผู้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตเลือกตั้ง 2,216,951 คน และผู้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าในเขตเลือกตั้ง 18,879 คน สถานที่ลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตเลือกตั้งมีจํานวน 447 แห่ง และสถานที่ลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าในเขตเลือกตั้งมีจํานวน 442 แห่ง
ทั้งนี้ การลงคะแนนใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าจะเหมือนกับการใช้สิทธิเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคม 2566 เพียงแต่จะเพิ่มขั้นตอนของผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่จะต้องพับบัตรเลือกตั้งใส่ลงในซองใส่บัตรเลือกตั้งและปิดผนึกให้เรียบร้อย ก่อนหย่อนลงไปในบัตรเลือกตั้ง (ซองใส่บัตรเลือกตั้งจะมีการจ่าหน้าซองระบุจังหวัด เขตเลือกตั้ง และรหัสเขตเลือกตั้ง ของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง) และเมื่อเสร็จสิ้นการลงคะแนน บัตรเลือกตั้งของผู้มีสิทธิเลือกตั้งก็จะถูกส่งไปยังสถานที่นับคะแนนเลือกตั้ง เพื่อนำไปนับคะแนนในวันเลือกตั้งต่อไป
สำหรับภารกิจของกรมการกงสุล ได้สรุปจำนวนสถานเอกอัครราชทูต / สถานกงสุลใหญ่ ที่ส่งถุงเมลที่บรรจุซองใส่บัตรเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรที่เข้ามาถึงประเทศไทยด้วยความเรียบร้อย และได้ปฏิบัติทุกอย่างตามระเบียบขั้นตอนอย่างถูกต้อง โดยยึดหลักผู้มีสิทธิเลือกตั้งทุกเสียง ทุกสิทธิ มีความสำคัญเป็นกลไกที่สำคัญตามการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ส่วนดนันท์กล่าวว่า ในส่วนของการเลือกตั้งล่วงหน้าในประเทศ ไปรษณีย์ไทยได้เตรียมพร้อมรถขนส่งที่จะใช้ขนส่งบัตรเลือกตั้งและอุปกรณ์ต่างๆ ไปยัง 400 เขตเลือกตั้งจำนวนกว่า 500 เที่ยว โดยจะดำเนินงานระหว่างวันที่ 1-4 พฤษภาคม 2566 และหลังจากการเลือกตั้งล่วงหน้าแล้วเสร็จ ระหว่างวันที่ 7-9 พฤษภาคม 2566 ไปรษณีย์ไทยจะเร่งจัดส่งบัตรเลือกตั้งล่วงหน้าที่ลงคะแนนแล้วกลับมายังศูนย์ประสานงานฯ เพื่อคัดแยกแล้วขนส่งตรงไปยังปลายทาง 400 เขตเลือกตั้ง เพื่อนับคะแนนพร้อมกับการเลือกตั้งทั่วไปทันที
หลังจากวันนี้ที่มีการปล่อยขบวนรถไปยังปลายทางต่างๆ เมื่อรถขนส่งของไปรษณีย์ไทยถึงจุดหมายปลายทาง จะมีคณะกรรมการที่ทาง กกต. แต่งตั้งขึ้นเป็นกรรมการตรวจรับ พร้อมตรวจนับจำนวนความถูกต้อง เมื่อตรวจสอบข้อมูลเสร็จสิ้นจะมีการถ่ายรูปใบนำส่งบัตรเลือกตั้งส่งไปยังศูนย์ประสานงานการขนส่งบัตรเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2566 โดยทันที เพื่อรายงานความถูกต้อง
ดนันท์กล่าวอีกว่า การสนับสนุนภารกิจพิเศษนี้ยังคงใช้ศูนย์ประสานงานการขนส่งบัตรเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2566 ณ ไปรษณีย์ไทย สำนักงานใหญ่ เป็นสถานที่ปฏิบัติงาน ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการจัดส่งบัตรเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรนอกราชอาณาจักรล่วงหน้าไปยัง 66 ประเทศ 94 เมืองปลายทางในช่วงวันที่ 14-18 เมษายน 2566
โดยด้านการขนส่งเป็นไปอย่างเรียบร้อยดี ส่วนภารกิจหลักในด้านการขนส่งอื่นๆ ทั้งการจัดส่งหนังสือแจ้งรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง (ส.ส.1/6) และเอกสารแนะนำตัวผู้สมัครรับเลือกตั้ง รวมทั้งการจัดส่งและตอบกลับหนังสือแจ้งเจ้าบ้าน ลงทะเบียน ที่ลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้งก่อนวันเลือกตั้ง / ในเขตเลือกตั้ง เป็นไปอย่างเรียบร้อยด้วยเช่นเดียวกัน
ส่วนในช่วงหลังวันที่ 4-10 พฤษภาคมนี้ ไปรษณีย์ไทยจะมุ่งเน้นการปฏิบัติภารกิจหลักไปที่ 2 ภารกิจ คือ การจัดส่งบัตรเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและอุปกรณ์ที่ใช้ในการเลือกตั้งทั่วไป และการจัดส่งบัตรเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรล่วงหน้านอกราชอาณาจักร / นอกเขตเลือกตั้งที่ลงคะแนนแล้ว เพื่อนำไปนับคะแนน