วันนี้ (29 เมษายน) พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ปราศรัยบนเวที ‘กาก้าวไกล แก้ปัญหาที่ต้นตอ ซื่อตรงต่อประชาชน’ ที่เวทีกลางสะพานหิน อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต ท่ามกลางประชาชนร่วมรับฟังอย่างล้นหลาม จนเก้าอี้ที่เตรียมไว้ไม่เพียงพอ หลายคนยอมเกาะขอบเวทีเพื่อให้ได้ใกล้ชิดเวทีปราศรัยมากที่สุด ขณะที่หลายคนเดินทางมาจากจังหวัดใกล้เคียงเพื่อมาร่วมเวทีปราศรัยนี้โดยเฉพาะ
พิธากล่าวว่า เมื่อปี 2562 มากกว่า 20% ของพี่น้องชาวภูเก็ตให้คะแนนพรรคอนาคตใหม่มากกว่า 40,000 คะแนน ส่งให้เรามี ส.ส. ภูเก็ตคนแรกของพรรคก้าวไกลคือ รังสิมันต์ โรม ที่แม้เป็น ส.ส. บัญชีรายชื่อ แต่คือดาวสภาตัวจริง เป็นลูกหลานของคนภูเก็ต
มาเลือกตั้งครั้งนี้มีเซียนการเมืองกูรูทั้งหลายบอกว่าเป็นไปไม่ได้ที่พรรคก้าวไกลจะมี ส.ส. ภาคใต้ แต่ตนมาวันนี้เพื่อหักปากกาเซียนโดยเฉพาะ สาเหตุที่เชื่ออย่างนั้น ไม่ใช่เพราะคะแนนที่เราเคยได้ แต่เพราะคราวนี้คนที่จะใช้สิทธิเลือกตั้งในภูเก็ตมากกว่าครึ่งหนึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ ชาวภูเก็ตมีสิทธิโหวต 300,000 กว่าคน ในจำนวนนี้ 150,000 คนมีอายุน้อยกว่าตนเสียอีก ภูเก็ตจึงถือเป็นจังหวัดวัยรุ่น เมื่อนำคะแนนเดิมมารวมกับคะแนนในครั้งนี้ที่คาดว่าเราจะได้ ก้าวไกลจะไม่ชนะได้อย่างไร
พิธากล่าวว่า เหตุผลที่พี่น้องต้องเลือกผู้สมัคร ส.ส. ภูเก็ตทั้ง 3 คนของพรรคก้าวไกลเข้าไปในสภา เพราะ รังสิมันต์ โรม เพียงคนเดียวไม่เพียงพอ ต้องมีผู้แทนแบบก้าวไกลมากกว่านี้เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลง โดยอย่างแรกที่ต้องทำคือการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมในภูเก็ต หลังจากนั้นต้องทำให้ภูเก็ตมีอนาคต ในอดีตภูเก็ตอยู่ด้วยแร่ดีบุก ต่อมาอยู่ด้วยการท่องเที่ยว แต่เมื่อเกิดโควิด พี่น้องชาวภูเก็ตก็ลำบากกันไปหมด เพราะฉะนั้น จึงต้องการพรรคการเมืองของคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจคนรุ่นใหญ่ เพื่อจะมาร่วมมือกันวางแผนอนาคตให้ภูเก็ต
สิ่งที่ตนเห็นโอกาสที่ภูเก็ต คือเศรษฐกิจสร้างสรรค์และเศรษฐกิจดิจิทัล เป็นการเปลี่ยนจากทรัพยากรมาเป็นสมองและสองมือของคนภูเก็ต นี่คือโอกาสของคนภูเก็ต ทำอย่างนี้ภูเก็ตจึงจะเข้มแข็ง ภูเก็ตจึงจะมีอนาคต
“ขอใช้เวทีนี้สื่อสารไปถึงทุกจังหวัดทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นผู้สมัคร ส.ส. ที่กำลังหาเสียง อาสาสมัคร ทีมจังหวัด ในโค้งสุดท้ายอย่าไปหวั่นไหวกับการโจมตี ขอให้คุณมั่นใจในตัวแคนดิเดตนายกฯ ตั้งใจทำงานหาเสียงในโค้งสุดท้าย เคาะทุกประตู แจกทุกใบปลิว อย่าไปกังวลคนที่เขาสาดโคลนมา นั่นไม่ทำให้ผมหวั่นไหวหรือเสียสมาธิ เพราะเป้าหมายของผมคือประชาชนทั่วประเทศ แล้วเรามาก้าวไปด้วยกัน กาก้าวไกล ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม การเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต” พิธากล่าว