ตลอด 7 วันทำการที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยดิ่งลงจาก 1,600 จุด มาแตะระดับ 1,532 จุด หรือลดลง 4.2% ส่งผลให้ตลอด 1 เดือนที่ผ่านมา หุ้นไทยกลายเป็นหนึ่งในตลาดที่อ่อนแอมากที่สุดของโลก
อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นไทยอาจจะเดินมาถึงจุดกลับตัว หลังจากที่กระทรวงพาณิชย์รายงานตัวเลขการส่งออกประจำเดือนมีนาคม ซึ่งหดตัว 4.2% จากปีก่อน น้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ว่าอาจจะหดตัวมากถึง 14%
ณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ เปิดเผยว่า ตัวเลขการส่งออกและตัวเลขดุลการค้าที่เกินดุล 2.7 พันล้านดอลลาร์ จากที่คาดว่าจะขาดดุล 1 พันล้านดอลลาร์ เป็นการเซอร์ไพรส์ตลาดในทางบวกอย่างมาก และอาจเป็นจุดกลับตัวของเงินบาทและทิศทาง Fund Flow ในระยะสั้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- สถานการณ์ลงทุนเปลี่ยนไปอย่างไร ทำไมหุ้นไทยอ่อนแอสุดอันดับ 2 ของโลก
- สถิติชี้หุ้นไทยหลังสงกรานต์บวกเฉลี่ย 30 จุด แต่จะกลับสู่ระดับ 1,700-1,800 จุด ต้องอาศัยเงินต่างชาติและผลเลือกตั้งเป็นใจ
- ทำความรู้จัก ‘หมี-กระทิง-พิราบ-เหยี่ยว’ และเหล่าสัตว์อื่นๆ มีความหมายอย่างไรในโลกการเงิน
เงินบาทแข็งค่าขึ้นชัดเจนหลังการประกาศตัวเลขดุลการค้า ซึ่งอาจนำไปสู่ตัวเลขดุลบัญชีเดินสะพัดที่น่าจะออกมาดีในสัปดาห์นี้และช่วยหนุนเงินบาทให้กลับมาแข็งค่า โดยปกติแล้วนักลงทุนมักจะหาจังหวะกลับมาเก็งกำไรในหุ้นหรือพันธบัตรในจังหวะที่คาดว่าเงินบาทน่าจะอ่อนค่ามากแล้ว
“โดยสรุปแล้วสัปดาห์นี้อาจเป็นสัปดาห์ของการ Buy on Weakness ของหุ้นไทย และในช่วงสองสัปดาห์ข้างหน้าจะเป็นช่วงที่สามารถ Let Profits Run นอกจากเงินบาทที่กลับมาแข็งค่าแล้ว ยังมีแรงหนุนจากการเข้าสู่ช่วง Election Rally คือ 2 สัปดาห์ก่อนการเลือกตั้ง”
ทั้งนี้ จากตัวเลขการส่งออกที่ออกมาดีกว่าคาด หากตัดในส่วนของน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย การส่งออกจะหดตัวเพียง 0.9%
ณัฐชาตกล่าวต่อไปว่า ปัจจัยสำคัญที่ยังคงต้องติดตามและเป็นปัจจัยที่นักลงทุนทั่วโลกจับตาดูในขณะนี้ คือการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ในวันที่ 5 พฤษภาคม ทำให้ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเราเห็นเม็ดเงินลงทุนไหลออกจากตลาดหุ้นทั่วโลกเข้าไปพักอยู่ในตราสารหนี้ สะท้อนจากบอนด์ยีลด์ที่ลดลง
“สัปดาห์ที่ผ่านมาเริ่มเห็นข่าวเศรษฐกิจที่มีสัญญาณหดตัวมากขึ้น แต่ปัจจัยหลักที่ทำให้ปริมาณการซื้อขายหุ้นทั่วโลกลดลงไม่ใช่เพียงแค่หุ้นไทย เป็นเพราะนักลงทุนยังคงไม่กล้าที่จะรับความเสี่ยงมากก่อนหน้าการประชุม Fed แต่ส่วนตัวมองว่าตลาดหุ้นทั่วโลกจะเริ่มมีแรงซื้อกลับหลังผ่านการประชุม ทำให้หุ้นโลกจะเป็นบวกได้ในช่วงครึ่งแรกของเดือนพฤษภาคม”
ด้าน บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ระบุว่า มูลค่าซื้อขายหุ้นไทยในช่วงครึ่งวันแรกของวันนี้ (26 เมษายน) อยู่ที่ราว 22,304 ล้านบาท จากแรงซื้อกลุ่มธนาคาร และแรงขายกลุ่มพลังงานจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงกดดันราคาหุ้น
โดยปริมาณการซื้อขายที่เบาบางสื่อถึงความไม่มั่นใจของนักลงทุนและ Sentiment ตลาดทั่วโลกที่ยังซึมอยู่ แม้มูลค่าการส่งออกของไทยจะดีกว่าที่ตลาดคาดไว้ แต่ตลาดยังกังวลเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ทำให้หุ้นไทยจะยังผันผวน ในระยะนี้ยังคงแนะนำหุ้นเก็งกำไร หุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว หรือหุ้นที่คาดว่าจะมีแนวโน้มกำไรไตรมาสแรกออกมาดี