เงินเฟ้อจะสูง หรือราคาสินค้าจะแพงขึ้น ก็ไม่สามารถหยุดการเติบโตของ Hermès ได้เลย โดยทางแบรนด์ลักชัวรีได้ออกมาเปิดเผยรายได้ของไตรมาสแรกของปี 2023 พบว่ายอดขายในสามเดือนแรกของบริษัทปีเติบโตขึ้น 23% อยู่ที่ 3.38 พันล้านยูโรหรือราว 1.275 แสนล้านบาท
โดยการเติบโตครั้งนี้เกิดขึ้นในทุกภูมิภาคและอัตราการเติบโตดูจะไม่ห่างกันนัก เริ่มที่ฝรั่งเศส บ้านเกิดและแหล่งช้อปปิ้งสำคัญของโลก พบการเติบโตมากที่สุดที่ 28% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ตามมาด้วยตลาดสำคัญของเอเชียอย่างญี่ปุ่นที่เพิ่มขึ้น 26% และทวีปเอเชียโดยรวม 23% ผลจากเทศกาลตรุษจีนที่มีการจับจ่ายเกิดขึ้นอย่างมาก รวมไปถึงการเติบโตใน 2 ประเทศสำคัญในภูมิภาคทั้งสิงคโปร์และไทย ต่อด้วยยุโรป 21% และอเมริกา 19% ตามลำดับ ถึงแม้มีการปรับราคาเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 7% และ 10% ในบางภูมิภาค
และถึงแม้ว่าลูกค้าส่วนใหญ่ยังยกให้เครื่องหนังและกระเป๋าของ Hermès เป็นที่หนึ่งในใจและเรียกเงินเข้าบริษัทมากที่สุด แต่กลุ่มสินค้าที่พบการเติบโตมากที่สุดคือเสื้อผ้า Ready-to-Wear ที่เพิ่มขึ้น 34%
Axel Dumas ซีอีโอของ Hermès กล่าวว่าผลประกอบการนี้เป็นผลต่อเนื่องมาจากปี 2022 ที่แบรนด์ได้ปล่อยสินค้ามากมายทั่วโลก และจะเติบโตขึ้นอีกหลังจากที่ลงทุนเพิ่มโรงงานการผลิต “เราภูมิใจที่จะเสริมความแข็งแกร่งด้านการผลิตและรวมชิ้นงานของเราไว้ในที่เดียว” Axel กล่าว
ซึ่งตัวแปรสำคัญที่จะทำให้แบรนด์เติบโตขึ้นในไตรมาสและปีต่อไป คือโรงงานแห่งใหม่ที่เพิ่งเปิดทำการเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาในเมืองลูวิเอร์ ซึ่งเป็นโรงงานที่ 3 ในแคว้นนอร์มังดี และโรงงานแรกที่จะมีการผลิตอานม้านอกกรุงปารีส โดยสถานที่แห่งนี้จะโฟกัสกระเป๋ารุ่นไอคอนิกอย่าง Kelly ที่เป็นที่ต้องการตลอดกาลของลูกค้า
ภาพ: John Greim / LightRocket via Getty Images
อ้างอิง: