วันนี้ (6 เมษายน) หลังพรรคเพื่อไทย ประกาศรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี คนที่ 3 คือ ชัยเกษม นิติสิริ อดีตอัยการสูงสุด ประธานยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย และเคยเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 มาแล้ว พร้อมกับมีการประกาศนโยบายเกี่ยวกับการปฏิรูประบบราชการและการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
ล่าสุดวันนี้ ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า และผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกล ได้แสดงความคิดเห็นด้วยการทวีตข้อความบนทวิตเตอร์ส่วนตัว โดยมีรายละเอียดระบุว่า อ่านนโยบายหลายพรรค คุยเขื่องว่าจะจัดการผลพวงรัฐประหาร ล่าสุดก็ พท. (เพื่อไทย) พอเอาชัยเกษม (ชัยเกษม นิติสิริ) มาเป็นแคนดิเดตนายกฯ ก็เลยโม้เรื่องนี้ใหญ่ ผมพูดตรงๆ อย่าโม้ เหม็นขี้ฟัน คุณเป็นรัฐบาลมาแล้ว มีเสียงข้างมากมาแล้ว แต่จนวันนี้ไม่เกิดอะไรขึ้น
ปิยบุตรระบุว่า ผมตั้งพรรค อนค. (อนาคตใหม่) ส่วนหนึ่งก็เพราะพวกคุณไม่เคยคิดทำอะไรเลย มีเสียงข้างมากตั้งแต่ปี 2554 ก็ไม่ทำ ผมและเพื่อนเสนอทางวิชาการในนามนิติราษฎร์ก็ไม่มีใครทำ ผมกับเพื่อนเลยตั้งพรรคอนาคตใหม่ ตั้งใจผลักดันเรื่องนี้เต็มที่
อันนี้ต้องขอเคลม ที่แต่ละพรรคพูดๆ กัน ผมยกร่างอยู่ในรัฐธรรมนูญหมดแล้ว แต่อนาคตใหม่เสียงไม่พอ แล้วตอนนั้นไม่มีใครหนุนสิ่งที่อนาคตใหม่เสนอเลย ผมมาทำร่างรัฐธรรมนูญกับ Resolution รื้อระบอบประยุทธ์ มีเรื่องพวกนี้อยู่ แต่ไม่ผ่าน
ปกติผมไม่ค่อยอยากเคลมอะไรกับใครทั้งสิ้น แต่เรื่องจัดการลบล้างผลพวงรัฐประหาร เอาคณะรัฐประหารเข้าคุก นี่ผมยืนหนึ่งแน่นอน กับเพื่อนๆ นิติราษฎร์ และตั้งพรรคมา เพราะไม่มีพรรคไหนกล้าทำ ผมกับเพื่อนเลยจะทำเอง แต่ถ้าเพื่อไทยเป็นรัฐบาลแล้วกล้าทำ ผมก็จะชาบู บูชา เป็นพระคุณอย่างสูง แต่ทำไมไม่ทำตั้งแต่ปี 2554 ล่ะครับ
“อันนี้ท้านางแบกทั่วราชอาณาจักรไทยเลย ลองไปเปิดเทปคลิปเก่าทั้งหมด ลองดูว่าใครจริงจังเรื่องลบล้างผลพวงรัฐประหารมากที่สุด และต่อให้เพื่อไทยอยากทำจริง ปี 2554-2557 ไปอยู่ไหนกันครับ” ปิยบุตรระบุ
นอกจากนี้ปิยบุตร ยังโพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ ‘ผมไม่เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยกล้าจัดการรัฐประหาร’ ระบุว่า รัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ล้มรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร
เลือกตั้งธันวาคม 2550 พรรคพลังประชาชนเป็นเสียงข้างมาก รัฐบาลสมัครประกาศยังไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญเก็บไว้ในช่วงท้าย พันธมิตรชุมนุม ยึดสนามบิน ยุบพรรคพลังประชาชน ชาติไทย และพรรคมัชฌิมาธิปไตย รัฐบาลอภิสิทธิ์กำเนิดในค่ายทหาร มี ส.ส. จากรัฐบาลเดิมแตกออกมา ชุมนุมปี 2552 ชุมนุมปี 2553 สลายการชุมนุม ฆ่าหมู่กลางมหานคร ยุบสภา
ปี 2554 พรรคเพื่อไทยได้เสียงข้างมาก ตั้งรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ‘แก้ไขไม่แก้แค้น’ เสนอร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรม ‘เหมาเข่ง/สุดซอย’ กลุ่มกปปส.ชุมนุม 9 ธันวาคม 2556 ยุบสภา กปปส. ชุมนุมต่อ 22 พฤษภาคม 2557 รัฐประหาร ประยุทธ์ครองอำนาจอยู่กับเราตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้
รัฐประหาร 2549 กลับมาเลือกตั้ง พรรคพลังประชาชน พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นรัฐบาลเสียงข้างมากเด็ดขาด ไม่จัดการอะไรกับรัฐประหาร รัฐประหาร 2557 ไม่มีใครคิดจัดการกับรัฐประหาร
ปิยบุตรระบุว่า วันนี้ พรรคเพื่อไทยประกาศนโยบายหาเสียงเลือกตั้งปี 2566 จะจัดการรัฐประหาร ต้องขออภัย ขีดเส้นและทำไฮไลต์ว่า ‘ผมไม่เชื่อ’ ใครอยากเชื่อ เชิญ ใครอยากลอง เลือก แต่ผมไม่เชื่อ ประวัติศาสตร์เกือบ 2 ทศวรรษ ไม่มีอะไรบ่งชี้ว่าพรรคเพื่อไทยได้เสียงข้างมากแล้วจะทำ อย่าหลอกตนเอง อย่ายอมให้หลอก ผมไม่ยอม
ผมและเพื่อนทำข้อเสนอ ‘ลบล้างผลพวงรัฐประหาร’ ตั้งแต่เดือนกันยายน 2554 ไม่มีฝ่ายการเมืองคนไหนขานรับ ผมพูดอภิปรายกี่เวที ประชาชนที่ฟังก็บอกว่า พรรคเพื่อไทยไม่ทำ อาจารย์ก็มาทำเอง ปลายปี 2560 ผมกับธนาธรและชัยธวัช คิดตั้งพรรค วันที่ 15 มีนาคม 2561 จดจัดตั้งชื่อพรรค เดือนตุลาคม 2561 กกต. รับจดทะเบียน
ผมประกาศจุดยืนพรรคอนาคตใหม่ มีอำนาจเมื่อไร ลบล้างผลพวงรัฐประหารทันที ไม่รีรอ ไม่มีข้ออ้าง ต้องแก้แค้น จึงแก้ไขได้ ผมยกร่างกฎหมายไว้ทั้งหมด พรรคอนาคตใหม่ได้ 81 ส.ส. ไม่พอกับการเสนอแก้รัฐธรรมนูญ พรรคอนาคตใหม่โดนยุบ พรรคก้าวไกลยืนยันเดินหน้าจัดการลบล้างผลพวงรัฐประหารต่อ
“วันนี้ พรรคเพื่อไทยนำโดย ชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี แถลงเรื่องจัดการรัฐประหารต่างๆ นานา ต้องขออภัย และตะโกนกลับไปดังๆ ว่า ผมไม่เชื่อ ผมเชื่อว่าพรรคอนาคตใหม่ ต่อเนื่องพรรคก้าวไกล ต่างหากที่จะทำเรื่องนี้ ผมอยากเห็นการลบล้างผลพวงรัฐประหาร ผมเลือกพรรคก้าวไกลครับ” ปิยบุตรกล่าว