ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส เดินทางถึงจีนแล้วในวันนี้ (5 เมษายน) โดยผู้นำฝรั่งเศสมีกำหนดเยือนจีนเป็นเวลาทั้งสิ้น 3 วัน ซึ่งเขาหวังว่าการหารือกับประธานาธิบดีสีจิ้นผิงจะช่วยเปลี่ยนสถานการณ์สู้รบในยูเครนได้ ควบคู่ไปกับการพัฒนาความสัมพันธ์ทางการค้ากับปักกิ่งด้วย
การเดินทางเยือนจีนของมาครงครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่โควิดระบาด โดยเขามีกำหนดการเข้าพบสีจิ้นผิงในวันที่ 6-7 เมษายน เพื่อพูดคุยและรับประทานอาหารร่วมกัน ซึ่งในการพบปะกันครั้งนี้ ประเด็นหลักที่มาครงหยิบยกมาหารือคือเรื่องของสงครามยูเครน และการปรับสมดุลทางการค้าหลังจากที่จีนยกเลิกมาตรการสกัดโควิดที่เข้มงวดแล้ว ส่วนประเด็นรองลงมาคือวิกฤตโลกรวนและพลังงานหมุนเวียน รวมถึงปัญหาด้านสิทธิมนุษยชน เช่น การปฏิบัติต่อชาวอุยกูร์และชนกลุ่มน้อยอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีประเด็นเรื่องการท่องเที่ยวด้วย เนื่องจากฝรั่งเศสหวังที่จะกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวจีนกลับมาเยือนประเทศกันอย่างคึกคักเช่นเดิม
ทั้งนี้ ฝรั่งเศสตระหนักดีว่า จีนจะเลี่ยงไม่วิพากษ์วิจารณ์ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินแห่งรัสเซีย และจะไม่ประณามสงครามที่เกิดขึ้นในยูเครน แต่มาครงจะยังคงเน้นย้ำถึงจุดยืนของสหภาพยุโรป (EU) รวมถึงผลพวงความอันตรายที่เกิดขึ้นจากความขัดแย้งครั้งนี้
เจ้าหน้าที่จากสำนักประธานาธิบดีฝรั่งเศส เปิดเผยว่า “จีนเป็นเพียงประเทศเดียวในโลกที่มีอิทธิพลอย่างมากต่อความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ไม่ว่าในทางใดทางหนึ่ง” เนื่องจากจีนเป็นพันธมิตรที่เหนียวแน่นของรัสเซีย และตัวสีจิ้นผิงเองก็มีความสนิทสนมกับปูตินด้วย โดยฝรั่งเศสมองว่า หากเป็นในแง่บวก จีนอาจเป็นชาติที่ช่วยเข้ามาพลิกเกมในสมรภูมิรบ ผ่านการเป็นตัวกลางที่ช่วยเปิดการเจรจาเกี่ยวกับเงื่อนไขในการยุติความขัดแย้ง แต่ในทางกลับกันหากเป็นแง่ลบ จีนก็อาจเป็นชาติที่ช่วยสนับสนุนรัสเซีย หรือแม้แต่ช่วยส่งอาวุธให้ด้วยก็เป็นได้ แม้ในช่วงที่ผ่านมาจีนจะพยายามสร้างภาพลักษณ์ในฐานะผู้ส่งออกสันติภาพให้กับโลกก็ตาม
ในทริปเยือนจีนครั้งนี้ มาครงได้นำทัพคณะผู้แทนซึ่งเป็นผู้นำทางธุรกิจกว่า 60 คนไปยังกรุงปักกิ่งด้วย รวมถึงผู้บริหารของ Airbus และ EDF ซึ่งผู้ประกอบการหลายเจ้าหวังที่จะได้ลงนามในสัญญาทางธุรกิจฉบับใหม่ๆ และปรับความสัมพันธ์ทางการค้าที่เคยชะลอตัวลงในช่วงที่โควิดระบาด
นอกจากมาครงแล้ว อัวร์ซูลา ฟ็อน แดร์ ไลเอิน (Ursula von der Leyen) ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ก็จะเดินทางเยือนจีนด้วยเช่นเดียวกัน แต่ถึงเช่นนั้น ดูเหมือนว่าผู้นำ EC จะยังคงแสดงท่าทีที่แข็งกร้าวต่อจีน โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ฟ็อน แดร์ ไลเอิน กล่าวว่า สีจิ้นผิงยังคงรักษาสัมพันธ์อันไร้ขีดจำกัดกับปูติน และ “ท่าทีที่จีนปฏิบัติต่อสงครามที่ปูตินก่อ จะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะเป็นตัวกำหนดความสัมพันธ์ระหว่าง EU และจีนในอนาคต”
ภาพ: Ludovic Marin / AFP
อ้างอิง:
- www.theguardian.com/world/2023/apr/05/macron-heads-china-hoping-talk-xi-jinping-changing-stance-ukraine
- www.barrons.com/news/france-s-macron-arrives-in-china-for-3-day-visit-chinese-state-media-27ad07f4