จีนล้ำไปไกล เทคโนโลยีอาจมาแทนที่แรงงานคนขับรถให้นั่ง เผยมูลค่าอุตสาหกรรมแท็กซี่ไร้คนขับโตทะลุ 1.3 ล้านล้านหยวน หรือคิดเป็น 60% ของตลาดรถโดยสารในอีก 7 ปี โดยล่าสุด Baidu บริษัทเทคยักษ์ใหญ่ของจีนพร้อมให้บริการอย่างเป็นทางการในปักกิ่ง หลังทดลองในหลายเมืองเมื่อปีที่ผ่านมา
หลังจาก Baidu ได้รับใบอนุญาตให้บริการโรโบแท็กซี่ ไม่มีคนขับนั่งไปด้วย เป็นเจ้าแรกในประเทศ โดยได้เริ่มทดลองให้บริการในหลายๆ เมืองรวมถึงปักกิ่งในปีที่ผ่านมา ล่าสุดพร้อมให้บริการในปักกิ่งแล้วและกำลังเป็นที่นิยม
สำนักข่าว The Straits Times รายงานว่า ฉากในภาพยนตร์นิยายจะไม่เกินจริง และยิ่งสมจริงมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเมืองใหญ่อย่างปักกิ่งให้บริการแท็กซี่ไร้คนขับที่กำลังเป็นที่นิยม เพราะบริษัทยักษ์ใหญ่ Baidu และ Pony.ai สตาร์ทอัพยานยนต์อัตโนมัติให้บริการเต็มรูปแบบ
อีกทั้งยังเรียกใช้งานผ่านแอปพลิเคชันมือถือ Apollo Go ของ Baidu และแอป PonyPilot+ ของ Pony.ai เพื่อความปลอดภัยหรือคนเฝ้าดูภายใน ระหว่างการเดินทางผู้โดยสารสามารถสื่อสารกับผู้เชี่ยวชาญเพื่อขอความช่วยเหลือได้อีกด้วย ถือเป็นครั้งแรกในโลกที่ได้รับอนุญาตพร้อมให้บริการในเมืองใหญ่ จากที่เคยทดลองใช้ในเมืองอื่นๆ เมื่อปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ 2 บริษัทเป็นหนึ่งในผู้เล่นในตลาดอุตสาหกรรมยานยนต์ไร้คนขับของจีนที่มีการติดตั้งยานพาหนะอัตโนมัติ 10 คันในพื้นที่ 60 ตารางกิโลเมตรในอี้จวง ชานเมืองทางตอนใต้ของกรุงปักกิ่ง
ก่อนหน้านี้บริษัทเริ่มการทดสอบถนนในพื้นที่ดังกล่าวในวันที่ 30 ธันวาคม 2022 ในระหว่างการทดสอบ Pony.ai ระบุว่าผลทดสอบสรุปได้ว่าบริการนี้มีความปลอดภัย มั่นคง และอุบัติเหตุเป็นศูนย์ในสถานการณ์ที่ซับซ้อน เช่น ทางแยกและถนนแคบ และในสภาพอากาศที่รุนแรง เช่น ฝนตก หิมะ และพายุทราย
ขณะนี้มีผู้คนมากกว่า 1 ล้านคนใช้บริการขับขี่อัตโนมัติในพื้นที่ที่กำหนดในกรุงปักกิ่ง และบริการดังกล่าวมีระยะทางมากกว่า 1.3 ล้านกิโลเมตร
นอกจากเมืองหลวงแล้ว บริการเรียกรถของ Baidu ยังครอบคลุมมากกว่า 10 เมืองในจีน รวมถึงเซี่ยงไฮ้ กวางโจว และเซินเจิ้นในมณฑลกวางตุ้ง
นอกจากนี้บริษัทวางแผนที่จะขยายบริการไปยัง 65 เมืองในปี 2025 และ 100 แห่งในปี 2030
Apollo Go กล่าวว่ายานพาหนะแต่ละคันสามารถให้บริการมากกว่า 15 เที่ยวต่อวันโดยเฉลี่ยในเมืองชั้นใน ณ สิ้นเดือนมกราคม บริการดังกล่าวมียอดสั่งซื้อมากกว่า 2 ล้านรายการ ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มผู้ให้บริการขับขี่อัตโนมัติรายใหญ่ที่สุดในโลก
ทั้งนี้ บริษัทที่ปรึกษาระดับโลก IHS Markit คาดการณ์ว่าขนาดตลาดของบริการแท็กซี่ไร้คนขับของจีนจะทะลุ 1.3 ล้านล้านหยวน (2.51 แสนล้านดอลลาร์) ภายในปี 2030 คิดเป็น 60% ของตลาดรถโดยสารในประเทศ
อีกทั้งการขับขี่อัตโนมัติสามารถสร้างรายได้ 3 แสนล้านดอลลาร์ (4 แสนล้านดอลลาร์สิงคโปร์) ถึง 4 แสนล้านดอลลาร์ทั่วโลกภายในปี 2035
ทางด้าน Ford ได้ยกเลิก Argo AI ซึ่งเป็นบริษัทรถยนต์ไร้คนขับที่เป็นเจ้าของร่วมกับ Volkswagen
จิม ฟาร์เลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Ford กล่าวว่า การนำรถยนต์ไร้คนขับเต็มรูปแบบไปใช้เป็นจำนวนมากนั้นในขณะนี้ถือว่ายังห่างไกล
บทความที่เกี่ยวข้อง:
- มหาเศรษฐีจีนโล่งใจได้นานแค่ไหน? หลังรัฐบาลจีนเปลี่ยนท่าทีมาเป็นมิตรกับภาคธุรกิจมากขึ้น
- พญามังกรจะผงาดหรือกลับหัว? เมื่อเศรษฐกิจจีนโตเกินคาด แต่ภาระหนี้ยังจ่อทะลุเพดาน จับตาท่าที ‘สีจิ้นผิง’ ชี้ชะตาผลลัพธ์
- จริงหรือที่ ‘อินเดีย’ กำลังจะเป็นโรงงานของโลกแห่งใหม่ต่อจากจีน? ถึงขั้นที่การผลิต 1 ใน 4 ของ ‘iPhone’ จะย้ายมาที่นี่ภายในปี 2025
อ้างอิง: