×

พญามังกรจะผงาดหรือกลับหัว? เมื่อเศรษฐกิจจีนโตเกินคาด แต่ภาระหนี้ยังจ่อทะลุเพดาน จับตาท่าที ‘สีจิ้นผิง’ ชี้ชะตาผลลัพธ์

03.03.2023
  • LOADING...
เศรษฐกิจจีน

กิจกรรมทางเศรษฐกิจในจีนที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันอาจเป็นสัญญาณแรกสู่การสลัดออกจากผลกระทบของนโยบาย Zero-COVID ซึ่งเร็วกว่าที่คาดไว้ อย่างไรก็ตาม หนี้ที่เพิ่มขึ้นของมณฑลต่างๆ กลายเป็นความเสี่ยงทางเศรษฐกิจที่ต้องจับตามอง ซึ่งจะเป็นหนึ่งในหัวข้อที่บรรดาผู้นำจีนต้องหารือกันในวันที่ 5 มีนาคมนี้ สำหรับการประชุมรัฐสภาประจำปีที่กรุงปักกิ่ง

 

ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ซึ่งเป็นดัชนีสะท้อนถึงภาวะการขยายตัวหรือหดตัวของภาพรวมภาคการผลิต เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วที่สุดในรอบเกือบ 11 ปีในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ขณะที่คำสั่งซื้อในภาคส่งออกขยายตัวเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 2 ปี และกิจกรรมการบริการและการก่อสร้างยังขยายตัวเพิ่มเติมเช่นกัน


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


อย่างไรก็ตาม นักเศรษฐศาสตร์บางคนเตือนว่า แม้กิจกรรมในจีนจะกลับมาอย่างรวดเร็ว แต่ผลดีที่ล้นทะลักไปยังส่วนอื่นๆ ของเอเชียอาจถูกจำกัด เช่น การส่งออกของเกาหลีใต้ลดลง 12% ในช่วง 2 เดือนแรกจากปีก่อนหน้า บ่งชี้ว่าความต้องการสินค้าทั่วโลกยังมีแนวโน้มชะลอตัวลง แม้ว่าจีนจะฟื้นตัวแข็งแกร่งขึ้นแล้วในขณะนี้

 

ภาคการท่องเที่ยวในต่างประเทศยังไม่ฟื้นตัวอย่างรวดเร็วเท่ากับการเดินทางภายในประเทศของจีน ซึ่งทำให้การเติบโตยังจำกัดสำหรับประเทศต่างๆ เช่น ไทย และญี่ปุ่น ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวชาวจีน

 

ถึงกระนั้นแนวโน้มที่ดีขึ้นในจีนคาดว่าจะชดเชยการหดตัวของประเทศเศรษฐกิจที่พัฒนาแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐอเมริกา หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ( Fed) พยายามที่จะควบคุมอัตราเงินเฟ้อโดยไม่ก่อให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย ในเดือนมกราคม IMF ได้ปรับคาดการณ์การเติบโตของจีนเป็น 5.2% ในปี 2023 และคาดการณ์ว่าจีนจะมีส่วนร่วมกับการเติบโตของเศรษฐกิจโลกประมาณ 1 ใน 3 ในปีนี้

 

ภาคอสังหาริมทรัพย์ซึ่งติดหล่มเป็นเวลาหลายปีหลังจากที่ทางการจีนกำหนดมาตรการควบคุมการให้สินเชื่อแก่นักพัฒนาที่เป็นหนี้สูง กำลังเกิดสัญญาณการฟื้นตัวของอุปสงค์ภายในตลาด ข้อมูลจาก China Real Estate Information ระบุว่า ยอดขายของนักพัฒนาอสังหา 100 อันดับแรกของประเทศเพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ของปีก่อนหน้า 

 

อย่างไรก็ดี นักเศรษฐศาสตร์บางคนเตือนว่าไม่ควรอ่านข้อมูลเดือนกุมภาพันธ์มากเกินไป เนื่องจากข้อมูลดังกล่าวสะท้อนถึงปัจจัยที่เกิดขึ้นครั้งเดียว เช่น ช่วงเวลาของวันหยุดปีใหม่ทางจันทรคติ ตลอดจนอุปสงค์ที่ถูกกักขังได้ถูกปลดปล่อยออกมาจากการยกเลิกมาตรการควบคุมโควิดเป็นศูนย์ในเดือนธันวาคมและมกราคม

 

ตัวเลขทางการที่เปิดเผยเมื่อต้นสัปดาห์นี้ (27 กุมภาพันธ์ – 3 มีนาคม) ยังกระตุ้นให้เกิดความกังวลว่ารอยแผลจากโควิดอาจฝังลึกยิ่งขึ้น เมื่อปีที่แล้วจำนวนงานในเมืองต่างๆ ของจีนลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ทศวรรษ ในขณะเดียวกันแม้รายได้หลังหักภาษีต่อหัวจะเพิ่มขึ้น 2.9% แต่เป็นการเพิ่มขึ้นประจำปีที่น้อยที่สุดอันดับ 2 นับตั้งแต่ปี 1989

 

แนวโน้มงานและค่าจ้างที่ย่ำแย่อาจส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภค ที่ทางการจีนคาดว่าจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในปีนี้ หลังจากที่คาดว่าอุปสงค์การส่งออกจะลดลง

 

จนถึงตอนนี้รัฐบาลไม่ได้วางแผนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหรือการแจกเงินสดจำนวนมาก เนื่องจากทางการระวังการขึ้นราคาทรัพย์สินที่มากเกินไป จากบทเรียนของวิกฤตการเงินในปี 2008

 

ระดับหนี้กู้ยืมในเมืองต่างๆ ของจีนยังร้อนแรงต่อเนื่อง

 

รัฐบาลภูมิภาคส่วนใหญ่กำลังเผชิญกับการบีบตัวของเงินทุนอย่างรุนแรง หลังมียอดกู้ยืมเกิน 120% ของรายได้ในปี 2022 (ตามการคำนวณของ Bloomberg) ซึ่งเป็นเกณฑ์ที่กำหนดโดยกระทรวงการคลัง เพื่อบ่งบอกถึงความเสี่ยงด้านหนี้สินที่สูงเกินสัดส่วน 

 

เทียนจิน เมืองระดับเทศบาลนครที่ขึ้นชื่อเรื่องท่าเรือและการพัฒนาที่มากเกินไป กำลังเผชิญกับภัยคุกคามครั้งใหญ่ที่สุด โดยมีหนี้เกือบ 3 เท่าของรายได้ของเมือง

 

วิกฤตการณ์ทางการเงินสร้างผลกระทบต่อเศรษฐกิจหลายประการ แม้ว่าไม่น่าเป็นไปได้ที่รัฐบาลส่วนภูมิภาคจะผิดนัดชำระหนี้ แต่ระดับหนี้ที่สูงอาจทำให้หลายเมืองต้องลดการใช้จ่ายลง และผลักดันให้รัฐบาลกลางใช้จ่ายมากขึ้น นอกจากนี้ยังต้องกระตุ้นให้ธนาคารกลางจีนคงอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำ เพื่อรักษาภาระการชำระหนี้สำหรับมณฑลที่อยู่ภายใต้การควบคุม 

 

Lisheng Wang นักเศรษฐศาสตร์จาก Goldman Sachs กล่าวว่า ธนาคารกลางจีนมีแนวโน้มที่จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ในปีนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการขยายตัวของหนี้ภาครัฐอย่างรวดเร็ว รวมถึงเหตุผลอื่นๆ เช่น ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจ และแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่ยังคงไม่รุนแรง

 

รายได้ของรัฐบาลหดตัวลงในปีที่แล้วเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2012 เนื่องจากการระบาดของโควิด การตกต่ำของอสังหา และการประกาศลดหย่อนภาษีครั้งใหญ่ ในขณะที่การใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 3% ทำให้การขาดดุลการคลังพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ รัฐบาลต้องขายพันธบัตรใหม่เป็นจำนวนมากเพื่อช่วยเหลือภาคส่วนที่มีเงินทุนขาดแคลน

 

หนี้ทางการส่วนใหญ่ที่ยืมมาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาจะอยู่ในรูปของพันธบัตรรูปแบบพิเศษที่มีจุดประสงค์หลักเพื่อชำระเงินลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน นี่เป็นเครื่องมือสำคัญที่รัฐบาลใช้ในการสร้างงานและหนุนเศรษฐกิจ เมื่อปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตอื่นๆ อ่อนแอลง เช่น การส่งออก และการบริโภคภายในประเทศ

 

หนี้ของรัฐบาลท้องถิ่นคงค้างเกิน 35 ล้านล้านหยวน (คิดเป็น 5 ล้านล้านดอลลาร์) ณ สิ้นปีที่แล้ว ยอดรวมดังกล่าวไม่รวมการกู้ยืมนอกงบดุลผ่านหน่วยงานจัดหาเงินของรัฐบาลท้องถิ่น ซึ่งมณฑลต่างๆ ใช้เพื่อช่วยเหลือความต้องการทางการเงินของพวกเขา โดยนักวิเคราะห์เชื่อว่าหนี้ที่ซ่อนเร้นอาจมีขนาดใหญ่กว่าหนี้สินในท้องถิ่นอย่างเป็นทางการถึง 2 เท่า

 

จากหนี้ที่เพิ่มขึ้นทำให้ภาระการชำระคืนของรัฐบาลท้องถิ่นก็มากขึ้นเช่นกัน รัฐบาลได้ชำระคืนเงินต้นพันธบัตรและดอกเบี้ยจำนวน 3.9 ล้านล้านหยวนในปีที่แล้ว ซึ่งนับเป็นหนี้ที่เป็นทางการเท่านั้น แต่ยังมีอีกมากมายจากการกู้ยืมอย่างไม่เป็นทางการ

 

ทางเลือกหนึ่งในการอุดช่องว่างด้านเงินทุนคือ การให้รัฐบาลกลางกู้ยืมเงินมากขึ้น และเพิ่มการโอนเงินไปยังท้องถิ่น ซึ่งจะช่วยลดความจำเป็นที่รัฐบาลท้องถิ่นจะต้องรับภาระหนี้เพิ่ม โดยนักเศรษฐศาสตร์เรียกร้องให้จีนใช้แนวทางนี้มาหลายปีแล้ว เนื่องจากทางการจีนสามารถกู้เงินได้ถูกกว่าหน่วยงานท้องถิ่น และงบดุลก็แข็งแกร่งกว่ามาก

 

นอกจากนี้ รัฐบาลยังสามารถเรียกร้องให้ธนาคารของรัฐ เช่น China Development Bank ใช้จ่ายมากขึ้น คล้ายกับการลงทุนมูลค่า 7.4 แสนล้านหยวน ที่ผู้ให้กู้ทำเมื่อปีที่แล้วภายใต้โครงการแห่งหนึ่ง

 

จับตาการประชุมรัฐสภาประจำปี อาจกำหนดทิศทางของจีนให้ชัดเจนขึ้นในปีนี้

 

สภาประชาชนแห่งชาติของจีน (NPC) จะเริ่มการประชุมประจำปีในวันอาทิตย์นี้ (5 มีนาคม) และคาดว่าจะเปิดแผนการปรับโครงสร้างรัฐบาลครั้งใหญ่ที่สุดในรอบทศวรรษ เนื่องจากจีนกำลังเผชิญปัญหามากมายทั้งในและนอกประเทศ

 

ไม่กี่เดือนข้างหน้า ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงอาจประกาศเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจประจำปีที่อาจสูงถึง 6% หลังจากที่เขาได้รับตำแหน่งผู้นำสูงสุดสมัยที่ 3 เมื่อไม่นานมานี้ 

 

นอกจากนี้ จีนจะประกาศงบประมาณของรัฐบาลกลางและท้องถิ่น งบประมาณการใช้จ่ายทางทหาร รวมถึงโควตาพันธบัตรท้องถิ่นใหม่ จุดยืนในนโยบายการเงิน

และเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจในวันเปิดการประชุมรัฐสภาประจำปี

 

ในบรรดาการประกาศเหล่านี้ เป้าหมายการเติบโตของเศรษฐกิจจะเป็นที่จับตามองมากที่สุด เนื่องจากผู้กำหนดนโยบายกำลังพยายามพยุงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ไม่สม่ำเสมอของจีนจากการระบาดของโควิดและการปิดเมือง

 

งบประมาณด้านการทหารจะอยู่ในจุดสนใจเช่นกัน หลังจากปีที่แล้วมีการใช้จ่ายด้านกลาโหมของจีนเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2019 ท่ามกลางการขายอาวุธของสหรัฐฯ ให้กับไต้หวันที่อ้างสิทธิ์โดยจีน, ภารกิจทางทหารของสหรัฐฯ ในทะเลจีนใต้ และข้อพิพาทพรมแดนกับอินเดีย 

 

การประชุมดังกล่าวจะเป็นการเปิดตัวการเปลี่ยนแปลงในตำแหน่งผู้บริหารครั้งใหญ่ที่สุด หลี่เฉียง เตรียมพร้อมที่จะได้รับการยืนยันให้เป็นนายกรัฐมนตรีจีนคนใหม่ หลังได้รับอำนาจรองจากสีจิ้นผิง

 

ขณะที่ตำแหน่งงานทางเศรษฐกิจระดับสูงหลายตำแหน่งจะตกเป็นของกลุ่มผู้ภักดีใหม่ของสีจิ้นผิง ซึ่งหลายคนได้รับการเปิดเผยในต่างประเทศเพียงเล็กน้อย แทนที่เจ้าหน้าที่รุ่นเก่าที่มีแนวคิดปฏิรูปมากกว่า

 

แหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องเผยว่า เหอลี่เฟิง จะกลายเป็นรองนายกรัฐมนตรีที่ดูแลพอร์ตโฟลิโอเศรษฐกิจ ขณะที่ จูเหอซิน เจ้าหน้าที่ธนาคารระดับใหญ่ในจีน มีแนวโน้มที่จะเข้ามาเป็นผู้ว่าการธนาคารกลางคนใหม่ของจีน และเป็นที่แน่ชัดว่าสีจิ้นผิงจะครองตำแหน่งประธานาธิบดีจีนสมัยที่ 3 ติดต่อกันต่อไป 

 

สิ่งที่นักลงทุนต้องจับตาในช่วงสุดสัปดาห์นี้คือ แนวทางที่สีจิ้นผิงจะดำเนินหลังจากนี้จะช่วยต่อยอดการฟื้นของเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นได้หรือไม่ 

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising