วันนี้ (28 มีนาคม) ช่างภาพข่าว THE STANDARD ลงพื้นที่สำรวจร้านขายพัดลมและเครื่องปรับอากาศที่ย่านสะพานควาย ห้วยขวาง ดินแดง กรุงเทพมหานคร พบว่า ร้านค้าเริ่มนำพัดลมหลายแบบ หลายสี และหลายขนาด มาตั้งเรียงแถวด้านหน้าสุดของร้านเพื่อโชว์ให้ลูกค้าที่ผ่านไปมาได้เลือกชม
เจ้าของร้านขายพัดลมเล่าให้ฟังว่า ช่วงนี้เริ่มมีลูกค้าเข้ามาเลือกซื้อพัดลมมากขึ้น แต่ถ้าเทียบกับปีที่ผ่านมาถือว่าไม่ถึงกับขายดี อาจเพราะคนส่วนมากไปเลือกซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ เพราะมีโปรโมชัน ขณะที่เจ้าของร้านขายเครื่องปรับอากาศกล่าวว่า ช่วงนี้ยอดขายทางออนไลน์ดีมาก แต่ยอดขายหน้าร้านไม่คึกคัก แต่ภาพรวมก็สัมผัสได้ว่าทุกคนเตรียมตัวกับฤดูร้อนที่มาถึงแล้ว
ทั้งนี้ กรมอนามัยร่วมกับกรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเตือนประเทศไทยเริ่มเข้าสู่ฤดูร้อนอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมา โดยคาดการณ์ว่าอุณหภูมิปีนี้จะสูงกว่าปีที่แล้ว สูงสุดถึง 43 องศาเซลเซียส โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งอยู่ในระดับอันตรายต่อสุขภาพ และในช่วงกลางเดือนมีนาคมถึงปลายเดือนเมษายน อากาศจะร้อนอบอ้าวโดยทั่วไป และมีอากาศร้อนจัดในหลายพื้นที่ คาดการณ์อุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ 40-43 องศาเซลเซียส ได้แก่ จังหวัดสุโขทัย ตาก ลำปาง และแม่ฮ่องสอน
สำหรับกรุงเทพมหานครและปริมณฑลจะมีอุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ 38-39 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงปลายเดือนเมษายนถึงกลางเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงปลายฤดูร้อน ลักษณะอากาศจะเริ่มแปรปรวน โดยยังคงมีอากาศร้อนอบอ้าวในบางช่วง ประกอบกับมีฝนฟ้าคะนอง ซึ่งฤดูร้อนจะสิ้นสุดในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม 2566
กรมอนามัยจึงขอแนะนำให้ประชาชนป้องกันตัวเองจากความร้อน ได้แก่ ดื่มน้ำสะอาดบ่อยๆ โดยไม่ต้องรอกระหายน้ำ หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้งในช่วงกลางวันหรือช่วงที่มีสภาพอากาศร้อนจัด สวมเสื้อผ้าสีอ่อน ระบายอากาศได้ดี สวมหมวกปีกกว้าง แว่นกันแดด และทาครีมกันแดดทุกครั้งเมื่อมีความจำเป็นต้องทำกิจกรรมกลางแจ้ง
รวมทั้งหลีกเลี่ยงการดื่มชา กาแฟ น้ำอัดลม และแอลกอฮอล์ ทั้งนี้ หากอุณหภูมิสูงสุดขึ้นไปที่ 43 องศาเซลเซียส ควรงดทำกิจกรรมกลางแจ้ง และหมั่นสังเกตอาการเสี่ยงจากโรคฮีตสโตรก ได้แก่ เหงื่อไม่ออก สับสน มึนงง ตัวร้อนจัด ผิวหนังเป็นสีแดงและแห้ง