ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในรัฐมิสซิสซิปปีของสหรัฐอเมริกา เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากทอร์นาโดลูกใหญ่พัดถล่มรัฐมิสซิสซิปปีอย่างหนัก รุนแรงสุดในรอบกว่า 1 ทศวรรษ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 26 คน ที่พักอาศัยหลายหลังคาเรือนพังเสียหาย พลเมืองหลายร้อยคนกลายเป็นผู้พลัดถิ่น
ทางด้านกรมอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติสหรัฐฯ (NWS) เผยว่า ทอร์นาโดลูกดังกล่าวเริ่มเคลื่อนตัวและพัดถล่มเขตพื้นที่ในรัฐมิสซิสซิปปีและรัฐแอละแบมา เมื่อช่วงคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา (24 มีนาคม) โดย NWS ชี้แจงถึงสาเหตุที่ทำให้ทอร์นาโดในครั้งนี้มีความรุนแรงอย่างมาก เนื่องจากทอร์นาโดลูกนี้พัฒนามาจากพายุหมุนซูเปอร์เซลล์ ซึ่งเป็นพายุที่พบได้น้อยมาก แต่จัดอยู่ในกลุ่มพายุที่มีพลังทำลายล้างสูงมากที่สุด
ขณะที่อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญคือ ช่วงเวลาที่พายุลูกนี้พัดถล่มหลายเมืองสำคัญในรัฐมิสซิสซิปปีเกิดขึ้นราว 20.00 น. ซึ่งทางการเพิ่งประกาศเตือนภัยก่อนหน้านั้นราว 20 นาทีเท่านั้น โดยการศึกษาพบว่าทอร์นาโดในช่วงเวลากลางคืนสามารถก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้มากถึง 2 เท่าเมื่อเทียบกับทอร์นาโดที่เกิดขึ้นในช่วงเวลากลางวัน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะทัศนวิสัยในการมองเห็นพายุลดต่ำลง ส่งผลต่อการเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ฉุกเฉิน
อ้างอิง:
